ย่ำไปทั่วดินแดน Scandinavia (ตอนแรก)
ย่ำไปทั่วดินแดน Scandinavia (ตอนที่ 2)
ย่ำไปทั่วดินแดน Scandinavia (ตอนที่ 3)
ย่ำไปทั่วดินแดน Scandinavia (ตอนที่ 4)
ย่ำไปทั่วดินแดน Scandinavia (ตอนที่ 5)
ย่ำไปทั่วดินแดน Scandinavia (ตอนที่ 6)
ย่ำไปทั่วดินแดน Scandinavia (ตอนที่ 7)
ย่ำไปทั่วดินแดน Scandinavia (ตอนที่ 8)
ออกจาก “ฟินแลนด์” แล้ว ขอนำท่านเข้าสู่ “นอร์เวย์” ครับ
แต่ก่อนจะพาทุกท่านไปตระเวนเที่ยว “นอร์เวย์” กันอย่างเต็มอิ่ม ในตอนนี้ ผมขออนุญาตพาไปรู้จักกับระบบการศึกษาของ “นอร์เวย์” กันก่อนสักตอนนะครับ
เหตุผลหลักก็คือ เพื่อเป็นการเติมเต็มองค์ความรู้เกี่ยวกับ “นอร์เวย์” ก่อนออกทัวร์กันอย่างสนุกสนานนั่นเองครับ
เพราะนอกจากประเด็นการท่องเที่ยวแล้ว คนในแวดวงการศึกษา ต่างทราบกันดีว่า “นอร์เวย์” นั้น ก็เป็นประเทศที่มีชื่อเสียงในเรื่องราวของการศึกษาไม่น้อยหน้า “ฟินแลนด์” แต่อย่างใด
โดยเฉพาะหลักสูตร Eurythmy
เพราะคนในวงการการศึกษาทั่วทุกมุมโลก โดยเฉพาะการจัดการศึกษาในแนวทางแบบ Waldorf ย่อมต้องรู้จัก Eurythmy กันเป็นอย่างดี
Eurythmy คือศิลปะการเคลื่อนไหวร่างกายที่ Rudolf Steiner บิดาแห่งการจัดการเรียนการสอนแนว Waldorf ได้พัฒนาขึ้น นั่นเองครับ
โดย Eurythmy นั้น หมายถึง “เสียงที่เรามองเห็น” ซึ่งแปลไทยเป็นไทยได้ว่า “การเคลื่อนไหวร่างกาย” ร่วมกับ “เสียง” คือ “เสียงเพลง” และ “เสียงพูด”
ซึ่ง Rudolf Steiner ได้นำหลักสูตร Eurythmy มาประยุกต์ใช้ในการจัดการเรียนการสอนสำหรับเด็กปฐมวัย โดยให้ครูเป็นผู้เล่านิทานคำกลอนหรือร้อยแก้วขนาดและให้เด็ก ๆ ทำท่าทางประกอบ
และอันที่จริงแล้ว Eurythmy เป็นเพียงวิธีการหนึ่งในปรัชญาการศึกษาของ Rudolf ครับ
โดย Rudolf Steiner บิดาแห่งการจัดการเรียนการสอนแนว Waldorf ได้กล่าวว่า การศึกษาที่แท้จริงนั้น หาใช่การสอนหนังสือหรือการให้ความรู้แก่เด็ก แต่คือการบ่มเพาะความเป็นมนุษย์ และขุดค้นความสามารถที่ซ่อนอยู่ภายในของเด็ก เพื่อนำพวกเขาให้บรรลุศักยภาพสูงสุดของแต่ละคน และทุกสิ่งต้องดำเนินไปตามธรรมชาตินั่นเองครับ
ดังนั้น การศึกษาแนว Waldorf จึงแบ่งวัยเรียนรู้ออกเป็น 3 ช่วง ช่วงละ 7 ปี กล่าวคือ
1. ตั้งแต่แรกเด็กเกิดจนถึง 7 ขวบ
2. ช่วง 7 ขวบ ถึง 14 ขวบ
3. ช่วงอายุ 14 ถึง 21 ปี
ผมคิดว่า สิ่งที่จะอธิบายถึง Eurythmy และการจัดการเรียนการสอนแนว Waldorf ได้ดีที่สุด เห็นจะเป็นภาพยนตร์สารคดีเรื่อง Barndom Childhood หรือ “โรงเรียนริมป่า” ครับ
Barndom Childhood หรือ “โรงเรียนริมป่า” นำเสนอเรื่องราวของเด็กๆ จากโรงเรียน
Aurora Kindergarten ในกรุง Oslo ประเทศ Norway ซึ่งเป็นโรงเรียนแนว Waldorf
ดังที่กล่าวไปแล้วว่า Waldorf นั้น ให้ความสำคัญอย่างมากกับจินตนาการของเด็กๆ เพราะ Rudolf Steiner นั้นมองว่า สุนทรียภาพ และศิลปะ คือปัจจัยหลักที่เอื้อต่อการเรียนรู้ของเด็กๆ อย่างแท้จริง ซึ่งจะนำไปสู่งอกงามภายในของพวกเขา
เหตุดังนั้น สิ่งที่เราเห็นใน “โรงเรียนริมป่า” ก็คือการจัดสภาพแวดล้อมของสถานศึกษาท่ามกลางธรรมชาติจริงๆ นั่นก็คือ “ป่า”
โดยอันที่จริง แนวคิดนี้ ได้เคยปรากฏใน Summer Hill หรือ “โรงเรียนหมู่บ้านเด็ก” ที่จังหวัดกาญจนบุรี มาแล้วนั่นเองครับ
โดยเฉพาะอย่างยิ่งในปัจจุบัน มีโรงเรียนแนว Waldorf เกิดขึ้นในบ้านเรามากมาย ซึ่งดำเนินการตามหลักการ Waldorf อย่างเข้มแข็ง และได้รับการยอมรับจากพ่อแม่ผู้ปกครองและเด็กๆ ทั้งศิษย์เก่าและศิษย์ปัจจุบัน
เพราะปรัชญาในแนวทางของ Waldorf นั้น มุ่งเน้นความเป็นธรรมชาติของการจัดการศึกษาระดับปฐมวัยและการศึกษาขั้นพื้นฐาน เช่นเดียวกับคุณครูที่ Aurora ซึ่งเปี่ยมไปด้วยความรักที่มีต่อเด็กๆ อย่างแท้จริง
เพราะครูของพวกเขาคือพ่อแม่คนที่สอง เหมือนพระในระบบการศึกษาไทยในอดีตที่เรียกว่าพระครู ต้องบวชถึงจะได้เรียน ก่อนบวชก็เรียนรู้อยู่กับธรรมชาติ การเกษตร และบ้านเราเคยมีกฎการเข้าเกณฑ์ที่อายุ 7 ขวบ
ซึ่งตรงตามแนวคิด Waldorf โดยก่อนหน้านั้นเด็กไทยเติบโตอยู่กับปู่ย่าตายายพี่ป้าน้าอานั่นเองครับ
ในตอนหน้า เราจะเข้าโปรแกรมทัวร์ “ฟินแลนด์” กันอย่างเต็มเหยียดแล้ว เตรียมร่างกาย (ดวงตา) ของคุณให้พร้อมแล้วไปกันเลยครับ!
ย่ำไปทั่วดินแดน Scandinavia (ตอนที่ 10)
ย่ำไปทั่วดินแดน Scandinavia (ตอนที่ 11)
ย่ำไปทั่วดินแดน Scandinavia (ตอนที่ 12)
ย่ำไปทั่วดินแดน Scandinavia (ตอนที่ 13)
ย่ำไปทั่วดินแดน Scandinavia (ตอนที่ 14)