สัปดาห์ที่ผ่านมาข่าวใหญ่ในวงการฟุตบอลอังกฤษ นอกจากลิเวอร์พูลแพ้เลสเตอร์จนเหล่า “เดอะค็อป” เบือนหน้าหนีแล้ว ก็คือประเด็นนอกสนามของเวย์น รูนี่ย์ กองหน้าของเอฟเวอร์ตัน ที่โดนข้อหา “เมาแล้วขับ” ห้ามขับรถเป็นเวลา 2 ปี พร้อมถูกศาลเมืองผู้ดีสั่งให้บำเพ็ญประโยชน์อีก 100 ชั่วโมง พร้อมปรับเงินอีกจำนวนหนึ่ง
ข่าวนี้ออกมาเพียงแค่หนึ่งวันให้หลัง จากที่ เอฟเวอร์ตัน ของรูนี่ย์ บุกไปแพ้แมนฯยูไนเต็ด 0-4 ในเกมนั้นถ้าใครได้ติดตามการถ่ายทอดสด อาจจะเข้าใจผิดว่าเป็นเกม “เทสติโมเนียล แมตช์” ของอดีตกองหน้าทีมชาติอังกฤษหรือเปล่า เพราะโปรดิวเซอร์จากทางพรีเมียร์ลีก แกเล่นจับภาพ “รูนีย์” แทบจะทุกอริยาบถในการมาเยือนถิ่นเก่า เหมือนกับรู้ว่าในวันรุ่งขึ้นเจ้าตัวจะต้องโดนศาลสั่งลงโทษยังไงอย่างงั้น
ประเด็นสำคัญของการที่รูนี่ย์โดยศาลสั่งลงโทษในครั้งนี้ ก็คือการทีเจ้าตัวออกมายอมรับผิด รับสารภาพแบบแมนๆว่า “กูเมา” หลังถูกตำรวจจับไปเมื่อช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา พร้อมทั้งยังโพสต์ข้อความขอโทษทุกคนที่เกี่ยวข้องตั้งแต่ ครอบครัว แฟนบอล ไปจนถึงทุกๆคนในทีมเอฟเวอร์ตัน
เมื่อพูดถึงการเมาแล้วขับ ทำให้ผมนึกถึงการตั้งด่านตรวจแอลกอฮอล์ในบ้านเราขึ้นมาในทันทีครับ เพราะในช่วง 1 ปีที่ผ่านมานี้ ผมมักจะเจอเหตุการณ์แปลกๆอยู่เป็นประจำยามขับรถกลับบ้านในช่วงดึกหลังจากเลิกงาน ทั้งจากคนใช้รถเอง รวมถึงจากพี่ตำรวจที่ตั้งด่านอยู่ในจุดลับที่หลายคนคาดไม่ถึง
ประสบการณ์แปลกๆที่เห็นมากับตาขณะขับรถกลับบ้านในช่วงดึกคือ รถคันหน้า อยู่ๆหักพวกมาลัยกลับรถขับย้อนศรมันกลางถนนตรงนั้นหล่ะครับ เมื่อเห็นว่าด้านหน้ามีไฟกระพริบของด่านตรวจแอลกอฮอล์ ซึ่งบอกตามตรงมันเป็นวิธีการที่ไร้สาระมากๆ เพราะทั้ง 2 ครั้งผมก็เห็นตำรวจที่ด่านขี่มอเตอร์ไซค์ไล่ตามจับได้ทั้ง 2 ครั้ง
ส่วนฝั่งของตำรวจเอง ในย่านเลียบทางด่วนแถวบ้านผม ถือเป็นย่านที่รู้กันว่า ด่านเยอะ! แต่ล่าสุดที่ผมเห็นมากับตาเช่นกัน พี่ตำรวจไม่เพียงแค่ตั้งด่านอยู่บนถนนเส้นหลักเท่านั้น เดี๋ยวนี้ยุค 4.0 เขามีการกระชับพื้นที่เข้าไปตั้งด่านในซอยย่อยด้วยนะครับ แหม่ ไอเดียกระฉูดจริงๆผมเองไม่อยากจะคิดต่อน่ะครับว่าเป็นการตั้งด่านลอย เพราะยุคนี้ด่านลอยน่าจะหมดไปแล้ว (หรือเปล่า?)
อย่างไรก็ดีทั้งหมดทั้งมวล ผมอยากจะบอกทุกท่านว่า “เมาไม่ขับ” เป็นดีที่สุด อย่างผมเองถ้ารู้ตัวว่าจะมีสังสรรค์จัดหนัก สิ่งแรกที่จะต้องทำคือเอารถไปเก็บบ้าน หรือทิ้งรถและใช้บริการแท็กซี่เป็นดีที่สุด เพราะหากคุณ “โดนเป่า” และไม่ผ่านขึ้นมา คุณก็คงไม่ต่างอะไรกับเวย์น รูนี่ย์หล่ะครับ
เว้นแต่ว่าพี่ตำรวจจะรู้ใจตั้งด่านอยู่ในจุดที่บังเอิญมีตู้เอทีเอ็มสแตนบายรออยู่พอดีครับ(ฮา)
