ทุกวันนี้คนในสังคมเมืองนิยมกินข้าวนอกบ้าน แต่รู้หรือไม่ว่าการกินข้าวนอกบ้านนั้น มีอันตรายแฝงอยู่ ดังนั้นก่อนจะเลือกเมนูอาหารนอกบ้านเข้าปาก ลองมาดูกันว่า มีอาหารอยู่ 9 ประเภทที่นักกินทั้งหลายควรพึงระวัง หรือ คิดให้รอบคอบก่อนจะสั่งเพราะอาจทำให้คุณเจอกับผลข้างเคียงที่คิดไม่ถึงเลยทีเดียว
1. เบอร์เกอร์ เนื้อแบบสุกปานกลาง
สำหรับคนรักการกินเนื้อต้องรู้ไว้ว่าเนื้อที่ไม่ได้ย่าง หรือ ปรุงในอุณหภูมิที่เหมาะสม (ประมาณ 71 องศาเซลเซียส) เนื้อชิ้นนั้นจะเต็มไปด้วยแบคทีเรีย ยิ่งถ้าสั่งแฮมเบอร์เกอร์เนื้อที่สุกปานกลาง ความเสี่ยงจะสูงกว่า สเต็กเนื้อเสียด้วยซ้ำ เพราะเนื้อเป็นชิ้น จะมีแบคทีเรียที่มีอันตรายจะอยู่บริเวณผิวเนื้อด้านบน เมื่อถูกความร้อนก็จะสลายไปง่ายกว่าเนื้อบดที่ใช้ความร้อนในระดับเดียวกัน
2. เหล้ารัมหรือวอดก้าผสมกับน้ำอัดลมปราศจากน้ำตาล
มีงานศึกษาจากมหาวิทยาลัยเคนตักกี้ พบว่า เมื่อมีการผสมเหล้ารัม หรือ ว้อดก้า กับ น้ำอัดลมปราศจากน้ำตาล (จำพวกไดเอททั้งหลาย) จะทำให้ปริมาณแอลกอฮอล์ เพิ่มสูงขึ้นอีก 25 เปอร์เซนต์
3. ชุดสุดคุ้ม
แน่นอนว่า บรรดาโปรโมชั่นเย้ายวน ประเภทชุดสุดคุ้มทั้งหลาย เป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับนักกินสายแข็ง และ เป็นเมนูยอดนิยมในร้าน ฟาสต์ฟู้ด ทั้งหลาย และพวกชุดสุดคุ้มเหล่านี้ ล้วนแล้วแต่มีแคลอรี่ย์สูงทั้งสิ้น ดังนั้นเมื่อจะตัดสินใจสั่งอาหาร ควรจะชั่งใจให้ดีว่าจะเอาให้คุ้มเงิน หรือ จะให้คุ้มสุขภาพ
4. น้ำดื่มพร้อมมะนาวฟาน
หลายคนชอบเวลาที่ร้านอาหารเสิร์ฟเครื่องดื่ม โดยมีมะนาวฟาน มาในแก้ว พอดื่มแล้วก็บอกตัวเองว่าชื่นใจ แต่ในความเป็นจริงตามรายงานของ นิตยสารเพื่อสุขภาพ ได้ลองทดสอบ มะนาวฟาน 76 ชิ้นจากร้านอาหาร 21 ร้านพบว่า 70เปอร์เซนต์ของมะนาวเหล่านั้น เต็มไปด้วยแบคทีเรียเนื่องจากมะนาวเหล่านั้นไม่ได้ล้างทำความสะอาดอย่างถูกวิธี
5. สปาเก็ตตี้ พาสต้า ที่เติมได้ไม่อั้น
เวลาเห็นโฆษณาของร้านอาหารพร้อมกับโปรโมชั่น เติมสปาเก็ตตี้ หรือ พาสต้าได้ไม่อั้น หรือ สั่งหนึ่งจานแถมอีกหนึ่งจาน ต้องพยายามระงับใจไว้บ้าง เพราะ บรรดาอาหารเส้นที่อุดมไปด้วยคาร์โบไฮเดรท นั้นมีต้นทุนต่ำ แน่นอนว่าร้านอาหารชอบเอามาทำกำไร แบบเท่าตัว และถ้าบริโภคในปริมาณมากน้ำหนักจะขึ้นโดยที่คุณไม่รู้ตัวเลยทีเดียว
6. อย่าห่ออาหารที่เหลือกลับบ้านถ้าคุณไม่ได้ตรงกลับบ้านเลย
สิ่งหนึ่งที่ต้องจำไว้สำหรับ คนที่ชอบกินอาหารนอกบ้านแล้วกินไม่หมดต้องห่อกลับประจำคือ “อาหารที่ถูกปรุงสุกแล้วจะอยู่ในอุณหภูมิห้องได้ไม่เกิน 2 ชั่วโมง” เมื่อเป็นเช่นนั้นถ้าคุณต้องการห่ออาหารที่เหลือกลับบ้าน แล้วเอาทิ้งไว้ในรถ และไปทำธุระอย่างอื่นโดยที่ไม่ได้ตรงกลับบ้านเลย ขอให้ตัดใจ ไม่นำกลับจะดีกว่าเพราะอาหารเหลือจานนั้นอาจทำให้คุณเจ็บป่วยได้
7. เครื่องดื่มแบบเติมฟรีตลอด
ถ้าเครื่องดื่มที่ รีฟิล หรือ เติมฟรีตลอดนั้นเป็นกาแฟดำ ก็พอรับได้แต่ถ้า รีฟิลด้วย น้ำอัดลม หรือ ชาเขียว ขอให้หลีกเลี่ยงให้ไกล เพราะน้ำอัดลม หรือ ชาเขียวนั้น มีปริมาณน้ำตาลที่สูงมาก มีนักวิจัยเคยคำนวนแล้วว่า มีน้ำตาลสูงถึง 8 ช้อนชาต่อแก้ว ถ้าคุณรีฟิล เครื่องดื่ม สองถึงสามครั้งนั้นหมายถึงคุณกำลังนำเอาน้ำตาล 24 ช้อนชาเข้าสู่ร่างกายเลยทีเดียว
8. น้ำอัดลมปราศจากน้ำตาล
ภาพจำของโฆษณาน้ำอัดลมที่ปราศจากน้ำตาลได้ฟังหัวคนทั่วไปว่าเป็นเครื่องดื่มสำหรับคนที่กำลังควบคุมน้ำหนัก แต่ในความเป็นจริงแล้ว น้ำอัดลมปราศจากโซดา ไม่ได้ทำคุณควบคุมน้ำหนักได้จริง ผลวิจัยจากมหาวิทยาลัย เท็กซัส นั้นระบุว่า สารที่ให้ความหวานในน้ำอัดลมปราศจากน้ำตาลนั้น ไม่สามารถหลอกสมองเราได้ และทำให้สมองสั่งให้ร่างกาย หาอาหารอย่างอื่นเพื่อสนองตอบความหวานที่ร่างกายต้องการ จึงเป็นที่มาของคนที่ดื่มน้ำอัดลมปราศจากน้ำตาล แล้วอ้วนขึ้นไม่ผอมอย่างที่คิด
9. สลัดเรียกน้ำย่อย
ร้านอาหารหลายร้านในปัจจุบันนิยมเสิร์ฟ สลัดก่อนเสิร์ฟอาหารจานหลักซึ่งดูเป็นการบริการที่ดีทีเดียวแต่ในความเป็นจริงแล้ว สลัดที่เสิร์ฟก่อนอาหารราดน้ำสลัดมาแล้วนั้น ล้วนแล้วแต่ใช้น้ำสลัดที่มีแคลอรี่ย์สูง แต่ถ้าคุณอยากกิน สลัดจริงๆ ก็ขอให้สั่งสลัดตามความต้องการของคุณ แล้วให้ทางร้านแยกน้ำสลัดมาให้จะเป็นทางเลือกที่ดีกว่า กินสลัดที่ทางร้านทำแบบพร้อมเสิร์ฟมาให้
