ชัยชนะ 5-0 ของทีมชาติไทยชุดยู23 เหนือบาห์เรน ถือเป็นการจุดประกายความหวังให้ทีม ‘ช้างศึก’ ชุดนี้ในการลุ้นเข้ารอบสุดท้ายฟุตบอลกีฬาโอลิมปิกเกมส์ ที่กรุงโตเกียวประเทศญี่ปุ่น ซึ่งหากทำได้จะถือเป็นครั้งแรกในรอบ 52 ปีเลยทีเดียว
โจทย์ของอากิระ นิชิโนะ และลูกทีมในทัวร์นาเมนท์นี้ คือจะต้องได้อันดับที่ 3 เป็นอย่างน้อย หรือในกรณีที่ญี่ปุ่นเข้าถึงรอบรองชนะเลิศมาด้วย และเราเข้าถึงรอบนี้ได้เช่นเดียวกัน ก็ฉลองกันได้เลย เพราะญี่ปุ่นคือเจ้าภาพโอลิมปิกหนนี้ จะไม่ถูกนับรวมกับ 3 โควต้าของเอเชีย
3 แต้มเหนือบาห์เรน เป็นเพียงแค่จุดเริ่มต้นครับ เพราะเส้นยังมีเส้นทางให้ฝ่าฟันอีกหลายด่าน โดยเฉพาะรอบแรกที่จะต้องเจอกับ ออสเตรเลีย และอิรัก หากผ่านเข้ารอบ 8 ทีมสุดท้ายได้ นัดที่สำคัญที่สุดคือการตัดกับทีมในกลุ่มบี ที่มีทั้ง ญี่ปุ่น ซาอุดิอาระเบีย กาตาร์ และซีเรีย
ผมยังเชื่อว่าชัยชนะจากเกมแรก น่าจะเรียกความมั่นใจให้น้องๆนักเตะได้ไม่น้อย และมีลุ้นเข้ารอบสูงทีเดียวจากประตูที่เรายิงตุนไว้ถึง 5-0 แต่จะเข้าเป็นอันดับเท่าไหร่ของกลุ่มก็ต้องลุ้นกัน และหากเข้าไปแล้วจ๊ะเอ๋กับญี่ปุ่นในรอบรองฯก็จะเป็นงานหนักไม่น้อย
ซึ่งตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา ผมเองมีภารกิจตะลอนถ่ายรายการ “Raod to Tokyo 2020” อยู่ที่ประเทศญี่ปุ่น มีโอกาสได้ไปด้อมๆมองๆ สนามโอลิมปิกสเตเดียมแห่งใหม่ ที่นอกจากจะใช้จัดพิธีเปิด-ปิด กรีฑา แล้ว ก็ยังใช้จัดฟุตบอลด้วยเช่นกัน
ในรอบสุดท้ายของโอลิมปิกจะมีทีมที่ได้ผ่านเข้ามา 16 ทีม นอกจากญี่ปุ่นเจ้าภาพแล้ว ตอนนี้มี 8 ทีมที่ตบเท้าสู่โตเกียว 2020 เรียบร้อยแล้ว เริ่มจาก 4 ทีมจากยุโรป ได้แก่ ฝรั่งเศส เยอรมนี โรมาเนีย และสเปน ต่อด้วย 1 ทีมจากโอเชียเนีย คือ นิว ซีแลนด์ รวมถึง 3 ทีมจากแอฟริกา ได้แก่ อียิปต์ ไอเวอรี่ โคสต์ และแอฟริกาใต้
ส่วนอีก 7 ทีมที่เหลือ แฟนกีฬาไทยทุกคุนลุ้นให้ไทยเป็น 1 ในนั้น ฉะนั้นในทุกๆนัดหลังจากนี้ที่ไทยจะลงเตะเข้าไปเชียร์พวกเขาในสนามให้เต็มแน่นกันเถอะครับ ผมเชียร์ว่ากำลังใจจากแฟนบอลข้างสนามมีผลแน่นอน
