5 เทรนด์ต้องจับตาในรอบสัปดาห์

โพลสำรวจเปิดตัวเลขอึ้ง เด็กสาวอายุ 15 ยอมเสียตัว เพื่อแลกเงินก้อนใหญ่

ซูเปอร์โพล นำเสนอผลสำรวจภาคสนาม เรื่อง คดีการเสียชีวิตของพริตตี้ “ลันลาเบล” กับ ปัญหาสังคม กรณีศึกษาประชาชนทุกสาขาอาชีพทั่วประเทศ จำนวนทั้งสิ้น 1,565 ตัวอย่าง จากผลสำรวจพบว่า ส่วนใหญ่ หรือ ร้อยละ 66.2 ระบุภาพสะท้อนสังคมไทยจาก กรณีพริตตี้ลัลลาเบล คือ คนไม่มีคุณธรรม รองลงมาคือ ร้อยละ 47.7 ระบุ ความปลอดภัยต่ำ ร้อยละ 41.5 ระบุ สังคมเน่า เสื่อม ร้อยละ 24.3 ระบุ คนตกเป็นทาสเงินตรา ค่าครองชีพ ร้อยละ 15.3 ระบุ คนในสังคมไม่ช่วยกันดูแล และประเด็นที่น่าสนใจคือ ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 93.0 ระบุ อาชีพพริตตี้ ไม่ใช่อาชีพที่น่ารังเกียจ และส่วนใหญ่หรือร้อยละ 70.3 ระบุว่า เป็นอาชีพที่หาเงินได้มาก อย่างไรก็ตาม ตัวเลขที่น่าเป็นห่วงคือ เกินกว่า 1 ใน 3 หรือร้อยละ 36.0 ระบุ ยอมเสี่ยงเสียตัวเพื่อแลกกับเงินก้อนใหญ่ และเมื่อจำแนกออกตามช่วงอายุ พบว่าในกลุ่มเยาวชนหญิงคืออายุระหว่าง 15-19 ปี ส่วนใหญ่ หรือ ร้อยละ 40.0 ยอมเสี่ยงแลกกับเงินก้อนใหญ่ และหญิงที่อายุตั้งแต่ 20 ปีขึ้นไปเกินกว่า 1 ใน 3 หรือ ร้อยละ 33.7 ยอมเสี่ยงเสียตัวแลกกับเงินก้อนใหญ่ เช่นเดียวกัน

โพลชี้ปชช. 62.76% ระบุการอภิปรายรัฐบาลประยุทธ์ล่าสุด ไม่ได้ประโยชน์

ภายหลังจากที่พรรคร่วมฝ่ายค้านอภิปรายรัฐบาลประยุทธ์ เมื่อวันที่ 18 ก.ย. 62 เสร็จสิ้นลง กระแสวิพากษ์วิจารณ์ที่มีต่อการอภิปรายยังคงเป็นประเด็นร้อนที่ได้รับการพูดถึงอย่างกว้างขวาง โดยเฉพาะการตอบคำถามของนายกรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และการชี้แจงของฝ่ายรัฐบาลที่ยังไม่ชัดเจน เพื่อสะท้อนความคิดเห็นของประชาชนที่ติดตามข่าวการอภิปราย “สวนดุสิตโพล” จึงได้สำรวจความคิดเห็นของประชาชนทั่วประเทศ หัวข้อ “ควันหลง” การอภิปรายรัฐบาลประยุทธ์ จำนวนทั้งสิ้น 1,164 คน พบว่า ความสนใจของประชาชนในการติดตามการอภิปรายรัฐบาลประยุทธ์ อยู่ที่ 61.86% โดยเหตุผลที่สนใจคือ ส่วนใหญ่ระบุว่าอยากฟังข้อมูลการอภิปรายของฝ่ายค้าน 39.62% ขณะเดียวกันมีประชาชนไม่สนใจอยู่ถึง 38.14% โดยเหตุผลที่ส่วนใหญ่ไม่สนใจ เพราะเบื่อหน่าย ไม่ชอบการเมือง มัวแต่ทะเลาะกัน 45.36% ทั้งนี้เมื่อถามว่าการอภิปรายครั้งนี้ ประชาชนคิดว่าได้ประโยชน์หรือไม่ ประชาชนกว่า 62.76% ระบุว่าไม่ได้ประโยชน์

นิด้าโพลชี้ ปชช.ขอนายกฯ ดูปัญหาเศรษฐกิจ-ติงคำพูด “เรียกร้องจนเคยชิน”

นิด้าโพล ได้ทำการสำรวจประชาชนทั่วประเทศ จำนวน 1,266 หน่วยตัวอย่าง เรื่อง “จะเรียกร้องอะไรจากนายกรัฐมนตรี” โดยเมื่อถามถึงสิ่งที่จะเรียกร้องเป็นเรื่องแรก หากพบนายกรัฐมนตรี พบว่า ส่วนใหญ่ ร้อยละ 44.95 ระบุว่า ขอให้ช่วยแก้ไข ความเดือดร้อนจากพิษเศรษฐกิจ เมื่อถามถึงความคิดเห็นของประชาชนต่อคำกล่าวของนายกรัฐมนตรีที่ว่า “ประชาชนเคยชินกับสิ่งที่เคยได้ โดยไม่สนใจว่าจะถูกหรือผิด มีการเรียกร้องอย่างต่อเนื่องเหมือนทุกวันนี้” พบว่า ส่วนใหญ่ ร้อยละ 52.84 ระบุว่า ไม่เห็นด้วยเลย เพราะ ประชาชนได้รับความเดือดร้อนจริง ๆ และเป็นสิทธิของประชาชน ที่จะเรียกร้องให้รัฐบาลเข้ามาดูแลเอาใจใส่ให้มากกว่านี้ ขณะที่บางส่วนระบุว่า นายกรัฐมนตรีไม่สมควรกล่าวแบบนี้กับประชาชน

พ่อแม่-แฟนหนุ่ม ให้ปากคำตร.เพิ่ม สอบเครียด-ลุ้นแจ้งข้อหาคนทำ “ลันลาเบล” ตาย

สำหรับความคืบหน้าล่าสุด “คดีลันลาเบล” ตำรวจได้ส่งนาฬิกาของน้องลันลาเบลไปตรวจสอบ ซึ่งเป็นนาฬิกาที่สามารถวัดการเต้นของหัวใจได้ เพื่อหาเวลาการเสียชีวิตที่แน่นอนแล้ว นอกจากนี้ชาวเน็ตยังขุดอีกคลิปที่มีหนุ่มใส่นาฬิกาสีทอง มาลูบไล้ใบหน้าของน้องลันลาเบลว่าอาจเป็นกลุ่มคนในปาร์ตี้หรือไม่อีกด้วย ทั้งนี้ เมื่อช่วงเย็นวันที่ 22 ก.ย. ที่ สน.บุคคโล ครอบครัวของลันลาเบล ประกอบด้วย นายชวลิต นรพันธ์พิพัฒน์ (พ่อ), นางศุภมาส นรพันธ์พิพัฒน์ (แม่) และนายนายณัฐนัย หอมเทียนทอง (แฟนหนุ่ม) เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวน ด้วยใบหน้าเคร่งเครียด ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะนี้ชุดคลี่คลายคดีพยายามรวบรวมฎีกาคดีสำคัญๆ ที่เคยเกิดขึ้นในประเทศไทย และขอคำปรึกษากับอาจารย์ด้านกฎหมายแล้วสรุปได้ว่า แนวทางการแจ้งข้อกล่าวหาและออกหมายจับกุมตัวผู้ต้องสงสัยคดีนี้ เบื้องต้นควรจะเป็นข้อหาฆ่าผู้อื่น ซึ่งเป็นข้อหาที่มีอัตราโทษสูงสุดคือประหารชีวิตไว้ก่อน

ประกาศฉบับ 13 กรมอุตุฯ เตือนรับมือ “สภาพอากาศแปรปรวน” ฝนตกหนัก

ประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา “สภาพอากาศแปรปรวนบริเวณประเทศไทยตอนบน (มีผลกระทบจนถึงวันที่ 26 กันยายน 2562)” ฉบับที่ 13 ลงวันที่ 22 กันยายน 2562 ในวันที่ 22 กันยายน 2562 ประเทศไทยตอนบนยังคงมีสภาพอากาศแปรปรวน โดยมีฝนฟ้าคะนองกับลมกระโชกแรง และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง หลังจากนั้นในช่วงวันที่ 23-26 กันยายน 2562 ประเทศไทยตอนบนมีปริมาณฝนลดลง และอุณหภูมิจะลดลง 3-5 องศาเซลเซียส โดยจะเริ่มจากภาคตะวันออกเฉียงเหนือก่อน ส่วนภาคเหนือและภาคกลางตอนบนจะได้รับผลกระทบในระยะต่อไป ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากสภาพอากาศแปรปรวนที่มีฝนตกหนักและอุณหภูมิลดลงในช่วงเวลาดังกล่าว และดูแลรักษาสุขภาพในระยะนี้ไว้ด้วย ทั้งนี้ เนื่องจากร่องมรสุมพาดผ่านภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่างเข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณทะเลจีนใต้ตอนกลาง ในขณะที่บริเวณความกดอากาศสูงกำลังปานกลางจากประเทศจีนได้แผ่ลงมาปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคเหนือตอนล่าง รวมทั้งภาคกลางตอนบน ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยตอนบนมีอากาศแปรปรวน โดยมีฝนฟ้าคะนองและมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งกับลมกระโชกแรง สำหรับในช่วงวันที่ 23-26 กันยายน 2562 บริเวณความกดอากาศสูงกำลังปานกลางจากประเทศจีนนี้ จะแผ่ปกคลุมภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคกลางของประเทศไทย ทำให้ประเทศไทยตอนบนมีปริมาณฝนลดลง และอุณหภูมิจะลดลง 3-5 องศาเซลเซียส จึงขอให้ประชาชนติดตามประกาศจากกรมอุตุนิยมวิทยาอย่างใกล้ชิด และสามารถติดตามข้อมูลที่เว็บไซต์ กรมอุตุนิยมวิทยา http://www.tmd.go.th หรือสายด่วนพยากรณ์อากาศ 1182 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง