“ลุงตู่” กับรถของ “แซนดี้”

ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อครับ ว่าการปรากฎตัวของ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่สนามช้าง อารีน่า ของบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เมื่อต้นสัปดาห์ จะเป็นการเอาฤกษ์เอาชัยให้กับทีม “ปราสาทสายฟ้า” เปิดบ้านเอาชนะ ชุนบุค ฮุนได มอเตอร์ส ยอดทีมจากเกาหลีใต้ 3-2 ในศึกเอเอฟซี แชมเปียนส์ ลีก 2018 รอบ 16 ทีมสุดท้าย นัดแรก เมื่อวันที่ 8 พ.ค.ที่ผ่านมา

และไม่เชื่อก็ต้องเชื่อเช่นเดียวกันครับว่า ยอดผู้ชมในเกม เอเอฟซี แชมเปียนส์ ลีก 2018 รอบ 16 ทีมสุดท้าย นัดแรก ที่ทันเดอร์ คาสเซิล (ช้าง อารีน่า) ซึ่งตัวเลขอย่างเป็นทางการของเอเอฟซี ระบุว่ามีแฟนบอล 10,382 คนนั้น จะน้อยกว่าแฟนๆที่มาต้อนรับ “ลุงตู่” เมื่อวันจันทร์ถึงเกือบๆ 3 เท่าเลยทีเดียว

ตัวเลขดังกล่าว ผมเลยขอสรุปแบบเข้าใจคนเดียวว่า แฟนๆคลั่งไคล้ลุงตู่มากกว่าฟุตบอลไปแล้ว (ฮา)

ที่เกริ่นมายืดยาวขนาดนี้ เพราะภาพการเยือนสนามช้าง อารีน่า  และสนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนลเซอร์กิต ของนายกฯตู่เพื่อตรวจสอบความพร้อมก่อนการจัดการแข่งขันโมโตจีพี กลายเป็นการปลุกกระแสมอเตอร์สปอร์ตและทำให้คนพูดถึงในหลายหลายแง่มุม

โดยเฉพาะแง่มุมมที่ใครหลายคนมองว่าการมาเยือนถิ่นบุรีรัมย์ในครั้งนี้ มาเพื่อหาเสียง ผมล่ะเถียงขาดใจ ไม่จริ๊ง ไม่จริง (เสียงสูง)

งานนี้นอกจากนายกฯตู่จะได้โอกาสบิดรถบนแทร็คระดับโลกแล้ว  ยังมีโอกาสได้สัมผัสกับรถแข่งรถดับซูเปอร์คาร์ ที่เตรียมลงแข่งในการแข่งขัน บลองแปง จีที ซีรีย์ เอเชีย (Blancpain GT Series Asia) สนามที่ 2 ในสุดสัปดาห์นี้อีกด้วย ซึ่งหนึ่งในรถที่นายกรัฐมนตรีของไทยเข้าไปนั่งในค็อกพิต นั่นก็คือรถ ปอร์เช่ 911 GT3 R หมายเลข 911 ของทีมคาร์ฟ-แบมบู เรซซิ่ง ซึ่งเป็นรถของ แซนดี้ สตูวิค เคราแก้ว นักแข่งหนึ่งเดียวของไทยในรายการนี้

เห็นภาพ “ลุงตู่” เข้าไปนั่งในรถของหลานแซนดี้ ที่จะขับร่วมกับ เช เดวิส นักขับออสซี่แล้ว ก็ทำให้ผมยิ่งอุ่นใจครับ เพราะท่านประเดิมเอาฤกษ์เอาชัยให้ทีมปราสาทสายฟ้าแบบเห็นผลมาแล้ว มาครั้งนี้ผมเชื่อว่าผลงานของแซนดี้ที่สนามช้างฯจะดีกว่าปีที่แล้วแน่นอน ที่มั่นใจขนาดนี้เพราะปีที่แล้ว แซนดี้ โชคร้าย รถพัง ไม่ได้ออกสตาร์ทนั่นเอง

แต่หาก แซนดี้ ไม่จบการแข่งขันอีกละก็ ขออย่างเดียวอย่ามาโทษ “ลุงตู่” ของผมว่าเป็นต้นเหตุก็แล้วกัน

“ลูงตู่สู้ๆ”  เอ้ย…ไม่ใช่ครับ ต้อง “แซนดี้ สู้ๆ ไทยแลนด์!!!”