ฤดูกาลที่ 6 ของ เป๊ป กวาดิโอล่า กับแมนเชสเตอร์ ซิตี้กำลังจะผ่านพ้นไป เป้าหมายสูงสุดที่เขารับมาจากผู้บริหารสูงสุดของสโมสรคือถ้วยยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ยังไม่สามารถบรรลุ แม้เล่นรอบตัดเชือกเลกสองกับ เรอัล มาดริด ไป 89 นาทีทีมยังได้เข้าชิงอยู่ แต่พอไม่นานโดนยิงทีเดียวสองประตูรวด ต้องไปเล่นในช่วงต่อเวลา โดน “ราชันชุดขาว” เขี่ยตกรอบไปอย่างหน้าตาเฉย
โทษใครไม่ได้โทษได้แต่ตัวเองเท่านั้น ที่ความเขี้ยวมีน้อย เกมรับไร้เดียงสาเกินไป ปล่อยให้โอกาสเข้าชิงหลุดมือไปอย่างน่าเสียดายจริง ๆ ถือเป็นเจ็บที่ยังไม่จบ เพราะฤดูกาลหน้าพวกเขาก็จะต้องกลับมาตามล่าฝันในโทรฟี่ “บิ๊กเอียร์ส” นี้ให้จงได้อีกครั้ง เพราะถือเป็นถ้วยเมเจอร์เดียวที่ เป๊ป ยังทำไม่สำเร็จกับ “เรือใบสีฟ้า”
ถ้าดูจากผลงานในเกมเลกที่สองกับ “ราชันชุดขาว” ขอบอกว่าผู้เล่น “เรือใบสีฟ้า” หลายคนฟอร์มไม่ได้พีคในเกมสำคัญแบบนี้ ไม่ทราบว่าเป็นเพราะเหตุใดเหมือนกัน?
ไม่ว่าจะเป็น ราฮีม สเตอร์ลิ่ง, เควิน เดอ บรอยน์, รูเบน ดิอ๊าซ, อิลคาย กุนโดกัน หรือแม้กระทั่งนักเตะ 100 ล้านอย่าง แจ็ค กรีลิช เรียกว่าถึงเวลามาดันไม่มา อย่างนี้ เป๊ป ได้แต่หงุดหงิดใจคนเดียวเท่านั้น
โดยเฉพาะการเจอกับทีมอย่าง เรอัล มาดริด ซึ่งประสบการณ์ในถ้วยนี้มหาศาล โดยเฉพาะโค้ชอย่าง คาร์โล อันเชล็อตติ นั้นไม่ต้องพูดถึง ผู้เล่น แมนฯ ซิตี้ต้องยอดเยี่ยมจริง ๆ ถึงจะผ่านไปได้ อาจจะเป็นเรื่องของสภาวะจิตใจ ความเกร็งในเวลาที่เจอกับทีมยักษ์ใหญ่ในยุโรป หรือแม้กระทั่งแรงกดดันที่มาหนักเกินไปโดยไม่รู้ตัวจากหัวหน้าโค้ช
ณ เวลานี้แล้วความผิดหวังผ่านพ้นไป ทิ้งไว้แต่เพียงโจทย์ให้กับยอดกุนซือชาวสเปน ว่าจะทำอย่างไรต่อไปถึงจะลบล้างอาถรรพ์นี้ให้ได้
ถ้ามองให้เป็นวิทยาศาสตร์บอกได้เพียงว่า “เรือใบสีฟ้า” น่าจะปรับสไตล์ให้เป็นยูโรเปี้ยนอีกสักหน่อย ไม่อังกฤษมากจนเกินไปนัก เพราะเล่นในพรีเมียร์ลีกเป็นพระเอกตลอด แต่พอเป็นศึกชิงเจ้ายุโรปมักจะตกม้าตายแบบง่าย ๆ เทคนิคและแทคติคมันต้องมาพร้อม ๆ กัน
แม้เจ้าของทีมชีค มานซูร์ จากสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ จะหอบเงินมหาศาลให้กับผู้จัดการทีมซื้อตัวผู้เล่นใหม่เข้ามาเสริมทัพ ไม่ต่างกับทีมเงินถุงเงินถังอย่าง เปแอสเช ของอภิมหาเศรษฐีจากกาตาร์อย่าง นาสเซอร์ เอล คาไลฟี่ ก็ตามที แต่สุดท้ายแล้วยังต้องเจอความผิดหวังต่อเช่นเดียวกัน
สุดท้ายน่าลุ้นเหมือนว่าระหว่างสองทีมนี้ ทีมไหนจะบรรลุความเป็นเจ้ายุโรปได้ก่อนกันแน่?
อีกเรื่องที่เป็นสเต็ปต่อไปนั่นคือ เป๊ป จะระบายความคลั่งแค้นของเขาระดับไหนในตลาดนักเตะช่วงซัมเมอร์นี้ หลังจากเมื่อปีที่แล้วดึงมาแค่ แจ็ค กรีลิช เพียงคนเดียว
คาดว่าเที่ยวนี้คงต้องไปทุบท้องพระคลังสโมสรให้มือบวม เพื่อเอาเงินมาสานฝันการเป็นเจ้ายุโรปให้ได้เสียที รอมานานเกินไปแล้ว
“หน้าเป้า” ที่ของขาดมาตลอดทั้งฤดูกาล คงไม่กลับไปตื๊อ แฮร์รี่ เคน แต่จะต้องสอย เออร์ลิง ฮาแลนด์ จากดอร์ทมุนด์ มาให้ได้ ตำแหน่งมิดฟิลด์นั้นปล่อยให้ แฟร์นานดินโญ่ ไปก็ไม่มีใครว่า แต่ควรจะได้ระดับ แฟรงค์กี้ เดอ ยอง มาแทน ถ้ามาตามข่าวจริง ๆ ก็น่าจะทำให้ทีมของเป๊ป นั้นสมดุลยิ่งขึ้น ได้แบ็กซ้ายอาชีพอีกสักตัวรวมแล้ว 2-3 คนพอ แต่เน้นแบบเด็ดจริงประมาณนี้
เอาให้มันรู้กันไปว่า ที่สุดแล้วกุนซือระดับ เป๊ป กวาดิโอล่า บวกกับเงินซื้อนักเตะอีกมากมายมหาศาล จะไม่สามารถซื้อความฝันให้กับ ชีค มันซูร์ และผองแฟน “เรือใบสีฟ้า” ได้.
