จากวันที่สร้างประวัติศาสตร์เป็นนักกอล์ฟ “อายุน้อยที่สุด” ที่ผ่านการคัดเลือกในรายการกอล์ฟอาชีพของแอลพีจีเอทัวร์ “ฮอนด้า แอลพีจีเอ ไทยแลนด์” ในปี 2007 ขณะที่มีอายุแค่ 11 ปี
วันนี้ “โปรเม” เอรียา จุฑานุกาล ในวัยย่าง 22 ปี ได้ขึ้นเป็นนักกอล์ฟอันดับ 1 ของโลกอย่างเป็นทางการแล้ว จากการประกาศล่าสุดโดย www.rolexrankings.com
นับเป็นอีกครั้งที่โปรเมทำให้คนไทยได้มีความสุข หลังจากเมื่อปีที่แล้ว เธอคว้ารางวัล “นักกอล์ฟยอดเยี่ยมแห่งปี” ปิดท้ายฤดูกาล 2016 อย่างยิ่งใหญ่ จากผลงานอันยอดเยี่ยม ไล่ตั้งแต่สร้างประวัติศาสตร์เป็นนักกอล์ฟหญิงไทยคนแรกที่คว้าแชมป์ในแอลพีจีเอทัวร์ได้สำเร็จ จากรายการ “โยโกฮาม่า ไทร์ แอลพีจีเอ คลาสสิก” เมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม 2016 ก่อนโชว์ฟอร์มคว้าแชมป์ต่อเนื่องอีก 2 รายการ จาก “คิงสมิลล์ แชมเปี้ยนชิพ” และ “แอลพีจีเอ วอลวิก แชมเปี้ยนชิพ” ทำให้ขึ้นแท่นเป็นนักกอล์ฟหญิงคนแรกในประวัติศาสตร์ของแอลพีจีเอที่คว้าแชมป์ได้ 3 รายการติดต่อกัน
เท่านั้นยังไม่พอ โปรเมยังระเบิดฟอร์มคว้าแชมป์เมเจอร์แรกในชีวิต “ริโคห์ วีเมนส์ บริติช โอเพ่น” ในวันที่ 31 กรกฎาคม ก่อนปิดท้ายด้วยแชมป์ “แคนาเดียน แปซิฟิก วีเมนส์ โอเพ่น” ในเดือนสิงหาคม และจบฤดูกาล 2016 ในอันดับ 2 ของโลก
ปีนี้ นักกอล์ฟสาวไทยจึงได้รับการจับตามองเป็นพิเศษว่าจะก้าวขึ้นมาเป็นมือ 1 โลกได้หรือไม่ หลังจากครอบครัวมีส่วนสำคัญอย่างยิ่งในการผลักดันให้เธอมาถึงจุดนี้ นับตั้งแต่เริ่มหัดเล่นกอล์ฟขณะมีอายุแค่ 5 ขวบครึ่ง ก่อนจะเทิร์นโปรในปี 2012 ขณะที่มีอายุ 16 ปี และได้มาเล่นในแอลพีจีเอ ทัวร์อย่างเต็มตัวในปี 2015
โดย 12 รายการที่ลงแข่งขันในปีนี้ โปรเมจบอันดับท็อปเท็นได้ถึง 8 รายการ และเข้าใกล้โอกาสคว้าแชมป์ถึง 3 ครั้ง แม้สุดท้ายจะอกหักได้เพียงรองแชมป์ทั้งหมดก็ตาม
แต่สำหรับรายการที่ 13 ของปี “มานูไลฟ์ แอลพีจีเอ คลาสสิค” ซึ่งบางคนอาจมองว่าเป็นเลขแห่งความโชคร้ายนั้น กลับเป็น “เลขนำโชค” ให้โปรสาวไทย เมื่อเธอสามารถคว้าแชมป์แรกของปีนี้มาครองได้สำเร็จ หลังดวลเพลย์ออฟชนะ เล็กซี่ ธอมป์สัน และ ชุน อินจี ด้วยลูกพัตต์ระยะ 25 ฟุต
ชัยชนะดังกล่าว ทำให้เธอขยับอันดับขึ้นมาเป็นเบอร์ 1 ของโลกแทนที่ ลิเดีย โค โปรสาวนิวซีแลนด์เชื้อสายเกาหลีใต้ได้ในที่สุด หลังจากเมื่อสัปดาห์ก่อนแฟนกอล์ฟไทยต้องเฮเก้อ เมื่อระบบคิดคะแนนของแอลพีจีเอเกิดความผิดพลาดทำให้โปรเมยังต้องรั้งมือ 2 ของโลกต่อไป โดยมีคะแนนเฉลี่ยตามหลังโคอยู่ 0.01 แต้ม
การขึ้นมือ 1 โลกของโปรเมในวันนี้ จึงเป็นไปอย่างสมศักดิ์ศรีและสมการรอคอย เพราะได้มาด้วยฝีมือของตัวเองล้วนๆ ต่างจากสัปดาห์ก่อนที่เธอพักการแข่งขันไป โดยมีคะแนนสะสมขึ้นมาเป็น 8.78 คะแนน ขณะที่โคซึ่งไม่ได้ลงแข่งสัปดาห์นี้หล่นไปอยู่ที่ 2 ด้วยคะแนนที่ตามหลังอยู่ 0.44 คะแนน ซึ่งก็ยังมีโอกาสที่จะกลับมาทวงมือ 1 โลกได้เช่นกัน เพราะฤดูกาลนี้เพิ่งผ่านไปเพียงครึ่งทางเท่านั้น
อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าความสำเร็จจะหอมหวานเพียงใด โปรเมยังคงเป็นนักกีฬาคนเดิมที่สนใจเพียงแค่ผลงานตรงหน้า และสนุกกับการแข่งขันให้ได้มากที่สุด โดยไม่ยอมให้เรื่องอื่นๆ มาสร้างความกดดันให้กับตัวเอง
“บอกตามตรงเลยค่ะ เมไม่ได้สนเรื่องอันดับโลกเลย ก็แค่ออกไปแข่งแล้วก็สนุกกับมันเท่านั้นเอง”
หลังจบการแข่งขัน โปรเมโพสต์รูปและข้อความในอินสตาแกรมส่วนตัว ชื่นชมคู่แข่งอย่าง ชุน อินจี และเล็กซี่ ธอมป์สันว่า เธอรู้สึกยินดีที่ได้เล่นกอล์ฟกับทั้งคู่ และยังขอบคุณแอลพีจีเอ, สปอนเซอร์, อาสาสมัครที่มาทำหน้าที่ต่างๆ ในรายการมานูไลฟ์ แอลพีจีเอ คลาสสิค, แฟนๆ ทุกคนที่ให้การสนับสนุน รวมถึงโค้ชและแคดดี้ด้วย
ส่วนข้อความถึงคนสำคัญในครอบครัวอย่างพี่สาว “โปรโม” โมรียา จุฑานุกาล , คุณแม่นฤมล ติวัฒนาสุข และแฟนกอล์ฟชาวไทยก็ขาดไม่ได้เช่นกัน
“@mo_moriya @narumonti มันรู้สึกแปลกๆ เหมือนกันนะที่ไม่มีพี่โมและแม่อยู่ด้วยกันที่นี่ แต่ขอบคุณที่อยู่ข้างกันเสมอมา และสุดท้าย ขอบคุณมากมายสำหรับแฟนๆ ชาวไทยทุกคนที่ให้การสนับสนุนในทุกๆ เรื่อง ขอบคุณสำหรับความรักและโอกาสที่ให้เมได้เป็นตัวแทนประเทศไทย เมมีความสุขมากที่คว้าแชมป์ได้ในสัปดาห์นี้”
