แน่นอนว่า การมาครั้งนี้ย่อมถูกจับตามองจากทุกฝ่ายว่าความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศจะเป็นไปในทิศทางใด แต่แค่การเลือกสถานที่ต้อนรับเป็นรีสอร์ทแอนด์กอล์ฟคลับ อย่าง Mar-a-Lago ในปาล์มบีช รัฐฟลอริดา ก็ดูจะเป็นการเริ่มต้นที่พลาดแล้วสำหรับผู้นำสหรัฐฯ
แม้ว่าทรัมป์ชื่นชอบกีฬากอล์ฟมากเป็นพิเศษ และเป็นเจ้าของสนามกอล์ฟมากถึง 17 แห่งทั่วโลก แต่ สตีเว่น เจียง คอลัมนิสต์ด้านการเมืองของสำนักข่าว CNN วิเคราะห์ในเรื่องนี้ว่า การหวังใช้กีฬากอล์ฟเชื่อมความสัมพันธ์ของผู้นำสหรัฐฯ ไม่น่าจะเป็นวิธีที่ได้ผลสำหรับ สี จิ้นผิง
และหากทีมงานของทรัมป์ศึกษาข้อมูลเสียหน่อย ก็จะทราบว่า กีฬาที่ประธานาธิบดีของจีนชื่นชอบมากที่สุดคือ ฟุตบอล ถึงขั้นที่เคยประกาศกร้าวเมื่อ 2 ปีก่อนว่าปรารถนาให้วงการลูกหนังจีนก้าวไปสู่ความยิ่งใหญ่ และเป็นหนึ่งในทีมที่ดีที่สุดของโลกให้ได้
ขณะที่กีฬากอล์ฟนั้น ดูเหมือนจะเป็นกีฬาที่ไม่ค่อยถูกจริตกับ สี จิ้นผิง เพราะทันทีที่เข้ามารับตำแหน่งผู้นำประเทศ เมื่อเดือนพฤศจิกายน ปี 2012 รัฐบาลของประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ก็มีคำสั่งให้ปิดสนามกอล์ฟทั่วประเทศถึง 111 แห่ง รวมถึงมีคำสั่งห้ามสมาชิกของพรรคคอมมิวนิสต์ รวมถึงข้าราชการ และเจ้าหน้าที่จากรัฐบาลเล่นกอล์ฟเป็นอันขาด
คำสั่งดังกล่าว นอกจากจะเป็นหนึ่งในนโยบายขจัดคอร์รัปชั่นแล้ว ผู้นำจีนยังมองด้วยว่ากอล์ฟเป็นกีฬาที่แสดงออกถึงความฟุ่มเฟือยที่ขัดต่อนโยบายประเทศ ดังนั้น การพบกันของสี จิ้นผิง กับ ทรัมป์ ในครั้งนี้ โอกาสที่จะได้เห็นผู้นำทั้งสองออกรอบด้วยกัน เหมือนครั้งที่ ชินโซ อาเบะ นายกรัฐมนตรีของญี่ปุ่นมาเยือนสหรัฐฯ เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ ก็คงเป็นไปได้ยาก
งานนี้ ไม่รู้ว่าทรัมป์ยึดตัวเองเป็นใหญ่ หรือทีมงานไม่ทำการบ้านกันแน่ เพราะแค่เริ่มต้นก็ดูจะไม่เข้าท่าเสียแล้ว!
