รับมือ “คนที่เราไม่ชอบ” ตามรอยคนสำเร็จ

เมื่อคนเราต่างจิตต่างใจ ต่างพื้นเพ และมีสังคมแวดล้อมที่แตกต่างกัน บางครั้งจึงเลี่ยงไม่ได้กับการเจอะเจอผู้คนที่ไม่ถูกจริต หรือไม่ต้องรสนิยมของเราไปบ้าง และบางคราวก็อาจหนักหน่วงถึงขั้นเจอคนจำพวก Toxic People ที่มีแต่คนเบือนหน้าหนีด้วย

แน่นอนว่าการต้องทนเสวนาหรือข้องแวะกับคนที่เราไม่ชอบ เป็นเรื่องที่หลายคนทำใจไม่ได้ และไม่อยากฝืนใจทำ แต่ถ้าอยู่ในภาวะที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ ก็จำเป็นต้องรับมือให้ได้ เพื่อให้เราผ่านพ้นสถานการณ์อันยากลำบากนี้ไปได้

หากมองโลกในแง่ดี ก็ยังมีคนอื่น ๆ ที่ต้องเผชิญกับความลำบากใจนี้ไม่ต่างจากเรา ซึ่งมีหลายคนที่ผ่านมันไปได้โดยที่ตัวเองไม่ต้องเสียสุขภาพจิต และคนเหล่านั้นมักเป็นคนที่ประสบความสำเร็จในชีวิตเสียด้วย

และนี่คือวิธีที่คนเหล่านี้ใช้ในการรับมือกับคนที่ตัวเองไม่ชอบ ไม่ว่าจะเป็นนิสัยใจคอ การแสดงออก หรือการกระทำต่าง ๆ ที่แชร์มุมมองนำมาจาก entrepreneur.com เพื่อหาจุดลงตัวที่เหมาะสมอย่างมืออาชีพ เมื่อมีความจำเป็นต้องข้องเกี่ยวกับ Toxic People โดยไม่อาจหลีกเลี่ยงได้

ยอมรับว่าไม่มีใครถูกใจเราได้ทุกคน เพื่อขจัดอคติในใจของเราออกไปให้ได้เสียก่อน หากบังเอิญต้องเจอกับคนที่ทำให้เรารู้สึกว่ารับมือด้วยยาก การที่เราไม่ชอบใครสักคนไม่ใช่เรื่องที่ผิด แต่อย่าให้อคติมาเป็นอุปสรรคในการติดต่อสื่อสารหรือร่วมงานกัน

จำไว้ว่า “สติ” คือ “ยาถอนพิษ” Toxic People เพราะคนจำพวกนี้มักจะทำให้เราเสียสติได้ง่าย ๆ ดังนั้น สติจึงเป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้เรารู้เท่าทันอารมณ์ของตัวเอง อย่าปล่อยให้คนที่มีทัศนคติแย่ ๆ มามีอิทธิพลต่อจิตใจของเราเป็นอันขาด

ใจเย็นและแสดงออกอย่างมืออาชีพ แม้ว่าไม่เห็นด้วยกับอีกฝ่าย แต่ถ้าคนที่เผชิญหน้าด้วยมีระดับอีคิวต่ำ สิ่งที่จะช่วยให้สถานการณ์ต่าง ๆ ไม่แย่ไปกว่าเดิม คือการควบคุมอารมณ์ตนเอง ระมัดระวังการแสดงออกทางสีหน้า รวมถึงปฏิบัติกับอีกฝ่ายอย่างสุภาพชน

มองให้กว้าง อย่าโยงเข้าเรื่องส่วนตัว เพื่อลดความเข้าใจผิดที่อาจเกิดขึ้นโดยไม่จำเป็น เพราะแม้คนเหล่านั้นจะไม่น่าคบหา แต่ประเด็นที่พูดถึงอาจไม่ได้มีนัยสำคัญที่พาดพิงตัวบุคคลก็เป็นได้ จึงควรพุ่งไปที่ประเด็นปัญหามากกว่าจะมองกันที่เรื่องส่วนตัว

มี “ระยะห่าง” ระหว่างกัน เพื่อสุขภาพจิตที่ดี การกำหนดขอบเขตการพูดคุยกับคนที่เป็น Toxic People และมีระยะห่างระหว่างกัน ไม่นำตัวเองเข้าไปข้องแวะกับคนเหล่านี้ หรือใช้เวลาด้วยกันให้น้อยที่สุด คือวิธีที่ดีต่อสุขภาพจิตของเราเอง

“ความสุข” อยู่ในมือของเราเอง อย่าปล่อยให้คนนิสัยแย่ ๆ มาบั่นทอนความสุขของเรา อย่ายอมให้คำพูดหรือการกระทำของใครมามีอิทธิพลต่อความคิดและความสุขของเราจนทำให้จิตตก เพราะทุกคนล้วนมีคุณค่าในตัวเองกันทั้งนั้น

…“ไม่ชอบคนแบบไหน อย่าทำตัวเองให้เป็นคนแบบนั้น” ตรรกะง่าย ๆ ที่จะทำให้คนอื่นเห็นคุณค่าในตัวเรา และปฏิบัติกับเราในแบบเดียวกัน