สรุปมาตรการรับมือ COVID-19 ของรัฐบาล

ภาพจาก freepik.com

การรับมือโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ในประเทศไทยยกระดับความเข้มข้นขึ้นจากเดิมมาก หลังจากจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ซึ่งมติคณะรัฐมนตรีล่าสุดมีหลายมาตรการที่ส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตของพี่น้องชาวไทย แต่รัฐบาลจำเป็นต้องตัดสินใจดำเนินการเช่นนี้ เพื่อให้การแพร่ระบาดของโรคดังกล่าวส่งผลกระทบน้อยที่สุด

บรรทัดต่อจากนี้ Tonkit360 จะพาคุณไปดูกันว่าแต่ละมาตรการนั้นจะมีผลกระทบใด ๆ ต่อการใช้ชีวิตที่จะไม่เหมือนปกติของชาวเราอีกต่อไป

มาตรการเข้มข้นสำหรับการเดินทางเข้าประเทศ 

ชาวต่างชาติที่เดินทางมาจากประเทศที่เป็นพื้นที่เขตติดต่ออันตราย 4 ประเทศ + 2 เขตปกครองพิเศษ จะต้องมีใบรับรองแพทย์อายุไม่เกิน 3 วัน ต้องมีประกันสุขภาพ ยินยอมใช้แอฟพลิเคชันติดตามของรัฐ ยินยอมให้ตม.ตรวจหนังสือเดินทางของชาวต่างชาติแล้วแจ้งกระทรวงมหาดไทยได้ ซึ่งมาตรการนี้ใช้กับการเข้าเมืองทุกทาง ทั้งทางบก น้ำ และอากาศ

ปิดสถานบันเทิง 14 วัน 

สถานบันเทิงในที่นี้ หมายถึง โรงภาพยนตร์ โรงมหรสพ ผับ บาร์ ร้านนวดไทย นวดโบราณ ให้ปิดเป็นเวลา 14 วัน ตั้งแต่วันที่ 18-31 มี.ค.2563

งดการจัดกิจกรรม และอีเวนต์

การจัดกิจกรรมที่มีคนรวมตัวเป็นจำนวนมาก และมีความเสี่ยงสูงต่อการแพร่ระบาด อาทิ การแข่งขันกีฬา คอนเสิร์ต งานแสดงสินค้า กิจกรรมทางศาสนา ให้งดไปก่อนจนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย

ปิดสนามมวย สนามม้า สนามกีฬา ในพื้นที่กทม.-ปริมณฑล

เนื่องจากสนามกีฬาเป็นการรวมตัวของคนจำนวนมาก รัฐจึงขอให้ปิดสนามมวย สนามม้า สนามกีฬาในกรุงเทพฯ และปริมณฑล จนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย

ห้างสรรพสินค้า สถานที่ราชการยังเปิดให้บริการ แต่ต้องมีมาตรการลดความเสี่ยง

สถานที่ที่ประชาชนไปรวมตัวกันเป็นจำนวนมาก ได้แก่ ห้างสรรพสินค้า ตลาด สถานที่ราชการ-รัฐวิสาหกิจ ยังสามารถเปิดให้บริการได้ แต่ต้องดำเนินการตามมาตรการป้องกันที่กระทรวงสาธารสุขกำหนด

ร้านค้า ร้านอาหารยังเปิดได้ แต่ให้มีมาตรการลดความเสี่ยง

ร้านค้าร้านอาหารยังให้เปิดบริการตามปกติ แต่ให้มีมาตรการป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อ COVID-19 มีการคัดกรองอุณหภูมิผู้ที่จะเข้าใช้บริการ และให้ลดความแออัด โดยจัดโต๊ะอาหารให้อยู่ห่างกันในระยะ 1 เมตร

ปิดสถาบันศึกษาทุกประเภท 14 วัน  

สถานศึกษาทุกประเภท หมายรวมถึง โรงเรียน มหาวิทยาลัย สถาบันกวดวิชา ให้ปิดการเรียนการสอนเป็นเวลา 14 วัน ตั้งแต่วันที่ 18-31 มี.ค.2563

เพิ่มจำนวนเที่ยวในระบบขนส่งสาธารณะ และงดกิจกรรมเคลื่อนย้ายคนข้ามจังหวัด

ให้ระบบขนส่งสาธารณะเพิ่มความถี่ของการเดินรถ และงดกิจกรรมเคลื่อนย้ายคนข้ามจังหวัด อาทิ ค่ายทหาร เรือนจำ หรือแรงงานต่างด้าว และให้หน่วยงานราชการส่งเสริมให้ทำงานที่บ้าน

ข้าราชการ พนักงานรัฐวิสาหกิจห้ามเดินทางไปต่างประเทศ

ห้ามข้าราชการ พนักงานรัฐวิสาหกิจเดินทางไปต่างประเทศ และขอความร่วมมือประชาชนไม่เดินทางไปต่างประเทศในช่วงเวลานี้ ขณะที่คนไทยในต่างประเทศให้ชะลอการเดินทางกลับประเทศไทยเช่นกัน

เลื่อนหยุดเทศกาลสงกรานต์ 13-15 เม.ย. 2563

คณะรัฐมนตรีเห็นชอบในการเลื่อนวันหยุดเทศกาลสงกรานต์ช่วงระหว่างวันที่ 13-15 เม.ย.2563 โดยให้เป็นวันทำงานปกติ และจะกำหนดให้มีวันหยุดชดเชยในภายหลัง