อย่างที่เคยนำเสนอไปแล้วหลายครั้งว่า ความมีชื่อเสียงของศิลปินคนดังก็เหมือนดาบสองคม เพราะว่าพวกเขาต้องขาดชีวิตความเป็นส่วนตัวไป และต้องเผชิญกับความกดดัน ความคาดหวังต่างๆ มากมาย และกว่าที่จะเป็นศิลปินที่มีชื่อเสียงโด่งดังก็ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ เลย
เพราะหลายคนคนต้องใช้ระยะเวลาในการพิสูจน์ตัวเองเป็นสิบๆ ปี กว่าจะประสบความสำเร็จ หลายคนต้องอยู่ภายใต้การควบคุมอันเข้มงวดจากต้นสังกัด หลายคนต้องกลายเป็นวัตถุทางเพศ เพื่อให้ต้นสังกัดได้รับผลประโยชน์มากที่สุด และอีกหลายคนที่ทุ่มเทให้กับงาน จนได้รับบาดเจ็บหรือกระทบต่อสุขภาพกายก็มี
นอกจากนี้การเป็นศิลปินไม่ใช่ว่าพวกเขาจะมีแต่คนรุมรัก หรือคอยให้การสนับสนุนเท่านั้น เพราะเมื่อมีคนรักก็ย่อมมีคนเกลียดเช่นกัน ดังนั้นพวกเขาจึงต้องแบกรับการถูกกลั่นแกล้ง และรังแกในโลกออนไลน์เพิ่มเข้าไปอีกด้วย ไม่เว้นแม้แต่ศิลปินที่มีชื่อเสียงมากๆ แล้ว
อย่างไรก็ดี หลายคนอาจมองว่าหากเป็นเช่นนี้ ศิลปินคนดังควรจะได้รับการดูแล จากผู้จัดการหรือค่ายต้นสังกัดที่ดีกว่านี้หรือไม่ คำตอบคือถ้าเป็นในกรณีของศิลปินไอดอลเกาหลี ทางค่ายต้นสังกัดเขาจะมีวิธีการจัดการ กับพวกที่แสดงความคิดเห็นในเชิงไม่ดี บิดเบือนข่าว หรือสร้างข่าวปลอม จนทำให้ชื่อเสียงของศิลปินเสียหายอยู่แล้ว
แต่มันก็ไม่ได้ช่วยให้ความรู้สึกของศิลปินที่เสียไปแล้วดีขึ้นสักเท่าไหร่ เพราะพวกเขายังคงต้องเจอกับเรื่องแบบนี้ไปอีกอย่างไม่จบไม่สิ้น จึงทำให้ศิลปินบางคนที่มีจิตใจบอบเบา เกิดภาวะโรคเครียดและโรคซึมเศร้าตามมา โดยกลายเป็นผลกระทบที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ จนเรียกได้ว่าเป็นชื่อเสียงที่มาพร้อมกับคำสาปจริงๆ
“…ศิลปินที่มีชื่อเสียง หรือบุคคลที่มีสปอร์ตไลท์ส่องแสงอยู่กลางเวที
ใช่ว่าชีวิตของพวกเขาจะสวยงามเสมอไป เพราะพวกเขาก็คือมนุษย์คนหนึ่ง
ที่มีความรู้สึกนึกคิดเช่นเดียวกันกับพวกเรา…”
บทความที่เกี่ยวข้อง: “ภาวะซึมเศร้า” ในศิลปินไอดอลเกาหลี