ประวัติศาสตร์วงการมอเตอร์สปอร์ตไทยจะต้องกลับมาจารึกอีกครั้ง เมื่อการแข่งขันรถยนต์สูตรหนึ่งชิงแชมป์โลกฤดูกาล 2019 ที่จะเปิดฉากสนามแรกในสุดสัปดาห์นี้ที่ประเทศออสเตรเลีย จะมีนักแข่งไทยร่วมแข่งขันเป็นครั้งแรกนับจากปี 1955 หรือ 64 ปีที่แล้ว
สื่อในบ้านเราดูแล้วไม่ค่อยตื่นเต้นกับข่าวนี้สักเท่าไหร่ แต่หากลงลึกลงไปในสื่อสายมอเตอร์สปอร์ตแท้ๆแล้ว พรรคพวกพี่ๆน้องๆที่ผมรู้จักทุกคน ใจจดใจจ่อกับการแข่งขันในครั้งนี้ กับการที่ อเล็กซ์ อัลบอน อังศุสิงห์ จะได้ลงแข่งเอฟวันเป็นครั้งแรก
ส่วนหนึ่งที่กระแสยังไม่มา อาจเป็นเพราะว่าครั้งหนึ่งเราเคยเชิดชูไทเกอร์ วูดส์ นักกีฬาสายเลือดไทย ถึงขั้นถ่ายทอดสดถึงประตูเครื่องบินมาแล้ว แต่เจ้าตัวกลับไม่ให้ความสำคัญกับสายเลือดไทยในตัวเองสักเท่าไหร่ แต่ในกรณีอเล็กซ์ แม้เขาจะเป็นลูกครึ่ง แต่นี่คือนักกีฬาที่ใช้ธงชาติไทยลงแข่งขันมาตั้งแต่แข่งขันรถคาร์ทในระดับเยาวชน
สัปดาห์ที่ผ่านมา อเล็กซ์ใช้เวลาในช่วงสั้นๆบินมาเยี่ยมเยือนแผ่นดินแม่ของเขาก่อนจะบินต่อไปแข่งสนามแรกที่ออสเตรเลีย และให้สัมภาษณ์แบบเปิดใจกับผู้สื่อข่าวหลายๆฉบับ โดยประเด็นสำคัญคือเขาตระหนักอยู่เสมอว่าเขาคือคนไทย และหวังจะทำธงชาติไทยไปโบกสะบัดบนเวทีแข่งขันระดับโลกให้ได้
โดยการชิงชัยเอฟวันในปีนี้ อเล็กซ์ เป็น 1 ใน 3 รุกกี้ หรือนักขับหน้าใหม่ร่วมกับ แลนดอน นอร์ริส ของแม็คลาเรน และจอร์จ รัสเซลล์ ของวิลเลียมส์ และถือเป็นนักขับหนึ่งเดียวจากเอเชียในฤดูกาลนี้ ซึ่งแน่นอนว่า สื่อทุกสำนักและแฟนๆในยุโรป ต่างตั้งคำถามว่า อเล็กซ์ จะทำผลงานได้ดีแค่ไหนกันเชียว
ตอนที่ โตโร รอสโซ่ ประกาศรายชื่อนักขับ ซึ่งมีนักขับไทยเป็นหนึ่งในนั้น ร่วมกับ ดาเนียล คิยาต นักขับชาวรัสเซีย เหล่าเกรียนคีย์บอร์ดฝั่งยุโรปออกมาดูถูกนักแข่งไทยของเราเป็นการใหญ่ แต่เมื่อผลการทดสอบครั้งล่าสุดในช่วงวินเตอร์เทสต์ออกมา ทุกคนต้องทึ่งกับเวลาที่อเล็กซ์ของเราทำได้
แม้ครั้งแรกที่ นักขับไทยขับรถ STR14 ออกมาวิ่งในการเทสต์ที่บาร์เซโลน่า เขาจะพลาดหมุนลงบ่อกรวดด้วยปัญหาระบบพวงมาลัย แต่เมื่อทุกอย่างเข้าที่ เขาทำเวลาในการทดสอบดีที่สุดเป็นลำดับที่ 6 เหนือกว่านักขับบิ๊กเนมหลายคน อย่าง คิมี่ ไรค์โคเน่น และ แม็กซ์ เวอร์สตัฟเฟ่น ด้วยซ้ำไป
จริงอยู่ครับ เวลาในการเทสต์ไม่ได้เป็นคำตอบเสมอไปถึงผลงานในปี 2019 เพราะบางทีมไม่ได้เน้นที่การทำเวลาต่อรอบ แต่ด้วยความมุ่งมั่นและฝีมือของนักแข่งไทยคนนี้ ผมเชื่อว่าเขาจะไม่ใช่แค่ไม้ประดับ และไม่ได้เป็นเต็งอันดับท้ายๆตามที่สื่อในยุโรปคาดหมายแน่นอน
