“ต้นส้มแสนรัก” เมื่อเราถูกตัดสินให้มีชีวิตอยู่

โลกของเด็กนั้น ไม่มีคำว่าจนหรือรวย แต่เต็มไปด้วยความสนุกเมื่อได้เห็นสิ่งใหม่ๆ เต็มไปด้วยจินตนาการที่ผู้ใหญ่ไม่มีวันเข้าใจ ดังเช่น เซเซ่ เด็กน้อยวัย 5 ขวบ ผู้มี “ต้นส้ม” เป็นเพื่อน เป็นสมบัติล้ำค่า และ เป็นความหวังสุดท้ายในชีวิตของเขา

“ต้นส้มแสนรัก” วรรณกรรมเยาวชนของ โจเซ่ วาสคอนเซลอส นักเขียนชาวบราซิล ที่เขียนขึ้นในปี 1968 โจเซ่ บอกว่าเขาใช้เวลาเพียงแค่ 12 วันในการเขียนวรรณกรรมเรื่องนี้ และเรื่องนี้คือเรื่องที่อยู่ในใจเขามานานถึง 20 ปี 

เรื่องราวของ โจเซ่ หรือ เซเซ่ เด็กน้อยที่ฉลาดเกินวัย จินตนาการของเขาคือเกราะป้องกันชั้นดีจากความทุกข์ยากรอบตัว แม้กระทั่งต้นส้ม ในบ้านหลังใหม่หลังจากที่ทั้งครอบครัวต้องย้ายจากบ้านหลังเก่าที่ค้างค่าเช่ามานาน ก็กลายเป็นเพื่อนสนิทของเซเซ่ ได้ในเวลาไม่นาน และ ต้นส้ม ก็เปรียบเสมือนอีกหนึ่งลมหายใจของเด็กชายวัย 5 ขวบ

เนื้อหาของ “ต้นส้มแสนรัก” นั้นสามารถทำให้เราทึ่งและอมยิ้มไปกับความเฉลียวฉลาดของเซเซ่ แต่ในบางครั้งเราก็ได้เห็นความโหดร้ายของการมีชีวิตอยู่กับความยากจนที่ทำให้คนในครอบครัวกลายเป็นคนใจร้ายต่อกัน

ขณะเดียวกันเนื้อหาของ “ต้นส้มแสนรัก” ยังทำให้เห็นความจริงของการมีชีวิตอยู่ว่าคนเราไม่สามารถสมหวังได้ทุกครั้งไป และเมื่อเราพลาดคิดไปว่าชีวิตเราจะมีความสุข ความทุกข์จะมายืนเคาะประตูอยู่หน้าบ้านทันที

จากคำบอกเล่าของพี่ชาย เซเซ่รู้ว่า “พ่อตกงานมานานกว่า 6 เดือนแล้วแม่ต้องไปทำงานในโรงงานตลอดวันและต้องใช้เข็มขัดกันไส้เลื่อนเพราะยกลังหลอดด้ายหนักเกินไป พี่สาวที่ขยันเรียนก็ต้องออกจากโรงเรียนเพื่อไปเป็นกรรมกรหาเงินมาช่วยที่บ้าน เช่นเดียวกับพี่ชายก็ต้องช่วยทำงานเช่นกัน”

ครอบครัวที่เต็มไปด้วยความยากลำบาก และ ความยากจน ทำให้เซเซ่ ต้องเอาตัวเองมาอยู่ในโลกแห่งจินตนาการจนกระทั่งเขาได้พบกับเพื่อนต่างวัย ที่ทำให้เซเซ่ รู้สึกว่าชีวิตของตนเองกำลังจะมีความหวังอีกครั้ง แต่ก็นั่นแหละ ชีวิตมักมีบททดสอบกับเราเสมอ เหมือนดังประโยคหนึ่งของ เซเซ่ หลังจากที่เขาฟื้นจากไข้ “อีกสองสามวันต่อมามันก็จบลง ผมถูกตัดสินให้มีชีวิตอยู่ มีชีวิตอยู่อีก..”

ต้นส้มแสนรัก เป็นหนังสือที่ได้รับการตีพิมพ์มาหลายครั้ง และในบางช่วงของเวลา “ต้นส้มแสนรัก” เคยเป็นหนังสืออ่านนอกเวลาของเด็กนักเรียนในหลายโรงเรียนของเมืองไทย หนังสือเล่มนี้ไม่เพียงแต่ใช้ภาษาอ่านที่เข้าใจง่าย และทำให้เห็นความยากแค้นในชีวิตจริงเท่านั้น แต่ “ต้นส้มแสนรัก” ยังทำให้คนอ่านได้เข้าใจด้วยว่า โลกแห่งความจริงนั้นไม่มีใครจะสมหวังไปได้ตลอด และ ไม่มีใครจะผิดหวังไปตลอดเช่นกัน