นิยามคำว่า “รถดี” ของแต่ละคนล้วนไม่เหมือนกัน บางคนชอบแบบอัตราเร่งดี ช่วงล่างแน่นหนึบ พวงมาลัยแม่นยำบางคนอาจจะชอบแบบซื้อง่ายขายคล่อง ไม่จุกจิก หรือใช้งานไปได้ยาว ๆ ก็แล้วแต่ความพอใจของผู้เป็นเจ้าของรถ อย่างรถยนต์ยี่ห้อรถ Subaru ถือเป็นรถค่ายญี่ปุ่นที่มีลักษณะเฉพาะของตัวเอง ซึ่งเป็นเหตุผลที่ทำให้ผู้ใช้รถยี่ห้อนี้ไม่เลือกซื้อรถยี่ห้ออื่น
สมัยเด็ก ๆ ผมจำได้เลยว่าหากนึกถึงรถซูบารุ ภาพที่ผุดขึ้นมาในหัว คือ รถเก๋งที่มีความแรงกว่ารถญี่ปุ่นทั่วไป รวมถึงมีราคาที่สูงกว่ารถญี่ปุ่นแบรนด์ยอดนิยม เนื่องจากในยุคก่อนเป็นรถที่ประกอบที่ญี่ปุ่นและต้องเสียภาษีนำเข้ารถทั้งคัน หากนำเข้ามาในบ้านเรา มองดูภายนอกอาจเป็นรถที่ดูธรรมดาไม่หวือหวา แต่ขุมพลังอย่างโหด บอกเลยว่าในยุคก่อนใครขับซูบารุ เป็นอะไรที่ว้าวมากครับ
มาในยุคนี้ แม้ราคาของซูบารุจะไม่แพงโดดเหมือนสมัยก่อน แต่สิ่งหนึ่งที่ยังคงเอกลักษณ์ไม่ว่าจะเป็นรถซีดาน รถ 5 ประตู หรือครอสโอเวอร์ เอสยูวี คือ เครื่องยนต์สูบนอน (Boxer) อันเลื่องชื่อ รวมไปถึงระบบขับเคลื่อน 4 ล้อแบบสมมาตร ที่มีอยู่ในรถค่ายโลโก้ดาวลูกไก่ทุกร่น เช่นเดียวกับ Forestert ที่ผมมีโอกาสได้ทดลองขับอยู่เกือบ 1 สัปดาห์
“เจ้าป่า” รุ่นที่ผมได้รับความอนุเคราะห์จาก Subaru Thailand ในการทำมาทดลองขับครั้งนี้ คือรุ่น Forester i-L EyeSight 4.0 ที่โปรโมชันล่าสุดลดราคารุ่นเริ่มต้นลงมาอยู่ที่ 1,170,000 บาท เป็นรถครอบครัวกลุ่ม Compact SUV (C-SUV) ที่ทำยอดขายอันดับที่ 2 และ 3 ชิงส่วนแบ่งการตลาดรถกลุ่มนี้ในบ้านเรามาต่อเนื่องหลายปี
Forester คันที่ผมได้ทดลองขับ เป็นเวอร์ชันตกแต่งพิเศษ เอาใจสายออฟโรดเพิ่มขึ้นไปอีกด้วยชุดแต่งจาก Ironman ทั้งช่วงล่างที่ยกสูงขึ้นราว 2 นิ้ว เสริมอุปกรณ์แคมป์ด้วย Ironman 4×4 Rooftop พร้อมแผงไฟสปอร์ตไลต์แบบจัดเต็มมาถึง 4 ดวง เรียกได้ว่าตอบโจยทั้งออนโรดขับในเมือง และเส้นทางออฟโรดลุยป่า สายแคมปิ้ง ก็ไปได้หมด
บรรทัดต่อจากนี้ คือ สิ่งที่ผมอยากจะบอกหลังจากได้ขับ Forester i-L EyeSight 4.0
- แม้จะเป็นรถ C-SUV ที่ยกสูง แต่เครื่องยนต์ Boxer (ตำแหน่งวางเครื่องอยู่ต่ำ) ทำให้รู้สึกได้ถึงความมั่นใจในการควบคุมทิศทางเวลาเข้าโค้งในช่วงความเร็วสูง
- เทคโนโลยีความปลอดภัย EyeSight 4.0 คือสิ่งที่ประทับใจผมที่สุด หลังจากที่ได้ทดลองขับรถมาหลายรุ่น เพราะมันคือการจำลองดวงตาทั้ง 2 ข้างของมนุษย์ขณะขับขี่จริง ๆ
- หากคุณเข้าเกียร์ D แล้วระบบตรวจพบว่ามีสิ่งกีดขวางข้างหน้า ระบบจะตัดการทำงานของการขับเคลื่อนทันที รวมถึงขณะเราจอดตอนรถติด หากรถข้างหน้าขยับ ผมชอบตรงที่มันมีเตือนประมาณว่า “คันหน้าขยับแล้วเพ่”
- พื้นที่ในห้องโดยสารกว้างขวางมาก ทั้งเบาะหน้าและเบาะหลัง ถือเป็นรถ 5 ที่นั่งที่นั่งสบายไม่เบียด ไปได้ทั้งครอบครัว
- ส่วนพื้นที่เก็บสัมภาระด้านหลังใหญ่มาก เปิดฝาท้ายออกมาถึงกับ โอ้โห! ตามสเปกในคู่มือบอกว่าจุได้ถึง 520 ลิตร
- อัตราเร่ง อาจไม่ใช่จุดเด่นของ Forester ทั้งจังหวะออกตัว 0-100 และคิกดาวน์ แต่อย่าลืมว่านี่คือรถครอบครัวไม่ใช่รถซิ่ง
- ส่วนอัตราการกินน้ำมันเชื้อเพลิง เครื่องยนต์ Boxer เบนซิน 2.0 ลิตร ทำได้ที่ราว 12-13 กิโลเมตรต่อลิตร
สุดท้ายหลายคนอาจมองว่า Subaru Forester คือ ม้านอกสายตา แต่สำหรับผม นี่คือรถที่อยู่ในสายตามาตลอด “เจ้าป่า” ผู้ตอบได้ทุกโจทย์คันนี้ มาทั้งสมรรถนะและราคาที่เร้าใจระดับล้านต้น ๆ ที่สำคัญนี่คือ C-SUV ที่ทำยอดขายอันดับที่ 3 ของคลาส เห็นเงียบ ๆ แต่คนใช้เพียบนะครับ
