กลุ่มทัวร์จีนกินรวบธุรกิจท่องเที่ยวเชียงใหม่
นักท่องเที่ยวชาวจีนจำนวนมาก ยังคงเดินทางไปเที่ยวตามสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญของ จ.เชียงใหม่ อย่างคึกคัก โดยเฉพาะบริเวณประตูท่าแพ และวัดต่างๆ แต่ไกด์นำเที่ยวส่วนใหญ่เป็นไกด์ชาวจีน จนส่งผลกระทบกับไกด์คนไทย รวมถึงผู้ประกอบการชาวไทยด้วย โดยมีรายงานว่ากลุ่มบริษัททุนจีนได้ลงทุนทั้งเช่าและซื้อคอนโดมิเนียม รวมถึงบ้านพักและรีสอร์ตใน จ.เชียงใหม่ จำนวนมาก จากนั้นก็เปิดขายแพ็กเก็จท่องเที่ยวในราคาถูกผ่านเว็บไซต์ ก่อนพากลุ่มนักท่องเที่ยวชาวจีนเข้ามาพัก ทั้งนี้ข้อมูลของชมรมมัคคุเทศก์รักษ์ล้านนา จ.เชียงใหม่ พบว่านักท่องเที่ยวชาวจีนเดินทางเข้ามาเที่ยว จ.เชียงใหม่ เพิ่มขึ้นทุกปีโดยปี 2560 มีนักท่องเที่ยวจีนบินตรงมาเชียงใหม่-เชียงราย และ อ.ปาย จ.แม่ฮ่องสอน มากกว่า 1.4 ล้านคน ส่วนในปี 2561 ประเมินว่าจะมีไม่ต่ำกว่า 2 ล้านคน
“วัฒนา” ประกาศยกเลิก “เกณฑ์ทหาร” ถ้าหากชนะเลือกตั้ง
นายวัฒนา เมืองสุข แกนนำพรรคเพื่อไทย ประกาศในเฟซบุ๊กของตัวเอง ยกเลิกการเกณฑ์ทหาร คือภารกิจสำคัญที่จะกระทำให้สำเร็จ หากชนะการเลือกตั้ง และยังระบุอีกว่า หน้าที่ของกองทัพคือการป้องกันประเทศจากภัยคุกคามภายนอก กระทรวงกลาโหมจึงมีชื่อเป็นภาษาอังกฤษว่า Ministry of Defence ส่วนการดูแลความมั่นคงภายในเป็นหน้าที่ของตำรวจและกระทรวงมหาดไทย ซึ่งตรงกับชื่อภาษาอังกฤษว่า Ministry of Interior แต่กองทัพกลับถูกใช้เป็นเครื่องมือทำรัฐประหาร จากนั้นใช้รักษาอำนาจเผด็จการด้วยการคุกคามสิทธิและเสรีภาพของประชาชน
ทวงคืนพื้นที่ป่าดอยสุเทพ
เพจดังโพสต์ปรากฏการณ์ Social Sanction ทั่วเมืองเชียงใหม่ ร้านค้า ร้านอาหารติดป้าย ไม่ต้อนรับคนทำลายป่า ประชาชนผูกริบบิ้น ทวงคืนพื้นที่ป่าดอยสุเทพ เมื่อวันที่ 22 เม.ย. 61 เพจขอคืนพื้นที่ป่าดอยสุเทพ ได้โพสต์ภาพและระบุข้อความว่า “อยู่ได้ก็อยู่ไป!! ให้มันรู้กันไป ระหว่างคนเชียงใหม่ กับคนหมู่บ้านป่าแหว่ง ใครมันจะแน่กว่ากัน ถ้าคุณคิดว่าสามารถทนกระแสสังคมคนเชียงใหม่ไปได้ ก็เชิญอยู่ตามสะบายเลย #เราคนเชียงใหม่ไม่ขอร่วมสังฆกรรมกับคนบ้านป่าแหว่ง #ขอคนละหนึ่งภาพคัดค้านบ้านป่าแหว่งจัดมา #เชียงใหม่โมเดล #เพจขอคืนพื้นที่ป่าดอยสุเทพ” ส่วนภาพที่โพสต์ เป็นภาพร้านค้าที่ติดป้ายหน้าร้านว่า “ร้านนี้ไม่ขายของให้คนบาปทำลายป่า” หรือร้านอาหารที่ติดป้ายว่า “ร้านนี้ไม่ต้อนรับคนทำลายป่า (ร่วมใจทวงคืนผืนที่ป่าดอยสุเทพ)” รวมถึงภาพประชาชนผูกริบบิ้นสีเขียว ซึ่งเป็นการแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ในการทวงคืนพื้นที่ป่าดอยสุเทพ
คืบหน้าปาร์ตี้สวิงกิ้งพัทยา สั่งปิดโรงแรมดัง มีโทษปรับสูง 18 ล้าน
จากกรณีตำรวจและทหาร ร่วมกันบุกทลายปาร์ตี้เซ็กส์หมู่ที่โรงแรมแห่งหนึ่ง ย่านเขาพระตำหนัก พัทยาใต้ ความคืบหน้าล่าสุด ผกก.สภ.เมืองพัทยา เปิดเผยว่า หลังจากการจับกุมเสร็จสิ้นได้คัดแยกบุคคลที่มีส่วนเกี่ยวข้องทั้งหมด จำนวน 28 คน เป็นชาย 14 คน หญิง 14 คน ประกอบด้วย ชาวไทยและชาวต่างชาติ โดยเจ้าของกิจการโรงแรมแห่งดังกล่าว เป็นคนสัญชาติจีน ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อกล่าวหาประกอบธุรกิจโรงแรมโดยไม่ได้รับอนุญาต ตาม พ.ร.บ.โรงแรม พ.ศ.2547 และร่วมมีส่วนสนองความใคร่ของผู้อื่นเป็นธุระจัดหา ชักพาไปเพื่อการอนาจาร ชายหรือหญิงแม้ผู้นั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม ทั้งนี้มีโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี ปรับไม่เกิน 20,000 บาท และยังมีโทษปรับตั้งแต่วันที่ฝ่าฝืน ปรับวันละ 10,000 บาท จากที่ตรวจสอบพบว่า ลักลอบฝ่าฝืนเปิดบริการมาประมาณ 5 ปี คิดเป็นค่าปรับรวมแล้ว ประมาณ 18 ล้านบาท
สาวไทยเสียท่าหนุ่มไนจีเรีย ถูกหลอกโอนเงินนับแสน
จากการแถลงจับกุม นายเฮนรี่ ชาวไนจีเรีย ที่สืบเนื่องจากมีหญิงผู้เสียหายรายหนึ่งเข้าแจ้งความที่ สภ.เกาะคา จังหวัดลำปาง เมื่อต้นเดือนมีนาคม ว่าถูกผู้ต้องหาหลอกให้โอนเงินรวมกว่า 97,000 บาท ตำรวจจึงสืบสวนจนพบเจ้าของบัญชีจากนั้นได้อายัดบัญชีธนาคาร เพื่อให้ผู้ต้องหาติดต่อกลับมา จนสามารถจับกุมได้ที่ห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งย่านแจ้งวัฒนะ ทั้งนี้สอบสวนพบว่า นายเฮนรี่ เข้าไทยอย่างถูกฎหมายเมื่อปี 2553 จากนั้นได้หลบหนีอาศัยอยู่ในเมืองไทยมานานกว่า 8 ปี
