ช่วงบ่ายของวันที่ 21 พ.ย. ที่ผ่านมา ใครที่เป็นแฟนฟุตบอลไทย คงไม่พลาดตามติดการแถลงข่าวการจับกุม “ขบวนการล้มบอลไทย” อันกลายเป็นประเด็นร้อนจี๋ ที่้เด้งขึ้นมาเต็มฟีดของทั้งเฟสบุ๊ค และทวิตเตอร์ หลังในช่วงเช้าของวันเดียวกันสื่อออนไลน์เจ้าหนึ่ง เผย 12 รายชื่อผู้ที่ถูกจับชนิดที่ตำรวจเองยังไม่กล้าเอ่ยชื่อจริงด้วยซ้ำในช่วงการแถลงข่าว
สำหรับผมเอง แวบแรกที่เห็น 12 รายชื่อ ได้แต่คิดขึ้นมาในใจคนเดียวว่า “ว๊าาา ไม่สนุกเลย มีแค่นี้เองเหรอ มีคนอื่นอีกไหม ทีมใหญ่ๆเอี่ยวบ้างหรือเปล่าเนี่ยะ”
ผมคิดแบบนั้นจริงๆครับ เพราะจากที่เคยดูฟุตบอลไทยมาตั้งแต่สมัยเด็กมาจนปัจจุบัน รวมถึงจากที่เคยได้พูดคุยกับผู้ที่คลุกคลีในวงการฟุตบอลไทยมายาวนานจนเรียกว่าเป็น แหล่งข่าวระดับ A+ รู้สึกได้ว่า วงการนี่มันต้องมีอะไรแบบนี้แน่นอน เพียงแต่ว่า จะถูกเปิดโปงหรือไม่เท่านั้นเอง
การล้มบอลเดี๋ยวนี้ มันไม่ใช่แค่ สั่งให้กรรมการเป่าให้ทีมนั้นชนะ ทีมนี้ชนะ หรือสั่งนักบอลเล่นให้ทีมแพ้ อีกต่อไป เพราะในยุคที่การพนันบ้านเราเฟื่้องฟูมากๆ (ทั้งๆที่เป็นเรื่องผิดกฏหมาย) คุณอาจมีส่วนกับการกำหนดสกอร์ หรือที่เรียกว่าล็อกผลการแข่งขันได้ อาทิ ผลเสมอ 1-1 กับผลเสมอ 2-2 ทีมอาจจะได้ 1 คะแนนเท่ากัน แต่เซียนพนันทำให้มันแตกต่างได้ ว่าจะเป็นสกอร์สูง หรือสกอร์ต่ำ
หนึ่งในเคสที่มีการแถลงข่าวจับกุมครั้งนี้ ก็คือกรณีล็อกผลการแข่งขันนี่แหละครับ ซึ่งจะว่าไปแล้ว มันยังมีอีกมากมายหลายเหตุการณ์ในไทยลีกบ้านเรา ที่ทำให้ผมอดสงสัยไม่ได้ว่า กรรการเป่าพลาดจริง หรือจงใจ และถ้าจงใจพลาด ใครล่ะที่เป็นคนออกใบสั่ง ระหว่างผู้บริหารทีม หรือเซียนพนันผู้กุมผลประโยชน์มหาศาล
ซึ่งบางทีคนที่รับจ้างล็อกผล แม้จะมีรายได้อยู่ในระดับที่ไม่ขี้เหล่ แต่ตัวเองอาจเป็นพวกติดพนัน การรับงานจึงไม่ใช่เรื่องที่ยากจะตัดสินใจ ซึ่งก็ไม่น่าแปลกใจครับ ที่ในยุคนี้เราจะเว็บไซต์พนันฟุตบอล กลายเป็นผู้สนับสนุกหลักเนื้อหาเพจกีฬาที่เกี่ยวกับฟุตบอลเต็มฟีดในเฟสบุ๊คเต็มไปหมด นั่นแหละครับตัวต้นเหตุ
สุดท้ายก็ต้องรอดูว่าจะมีการขยายผลไปมากว่า 12 รายนี้มากน้อยแค่ไหน ทีมใหญ่ หรือบุคคลบิ๊กเนม จะมีเอี่ยวด้วยหรือไม่ อย่างไรก็ดีผมยังเชื่อว่าเรื่องทุจริตมันมีอยู่ทุกวงการครับ ไม่เฉพาะแค่ฟุตบอล
รวมถึงการจับล้มบอลครั้งนี้เป็นเพียงแค่เศษเสี้ยวของเรื่องทุจริตในประเทศนี้ เท่านั้นเองครับ
