พวกเขาเรียกเราว่า “เจเนอเรชัน เอ็กซ์” 

พวกเราเกิดและเติบโตในช่วงกลางทศวรรษที่ 60s, 70s และช่วงต้น 80s จากนั้นพวกเราเข้าโรงเรียนในช่วงทศวรรษที่ 70s, 80s และ 90s เริ่มรู้จักความรักและออกเดตในช่วง 80s และ 90s หลังจากนั้น พวกเราบางคนแต่งงาน และออกไปใช้ชีวิตในโลกแห่งความจริงช่วง 90s-2000 พอเข้าสู่ปี 2010 หลายคนเริ่มต้นกิจการของตนเอง จากนั้นพวกเราก็ยุ่งอยู่กับการสร้างความเติบโตให้กับกิจการ

หลังจากวิกฤติทางการเงินที่ทำให้เมืองไทยดังไปทั่วโลกกับวิกฤติต้มยำกุ้งในปี 1997 พวกเราหลายคนได้รับบทเรียนของความเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจในช่วงที่เพิ่งเรียนจบมาได้ไม่กี่ปี แต่ชาวเอ็กซ์ที่คุ้นกับความเปลี่ยนแปลงกลับมาตั้งหลักได้ และแข็งแกร่งมากขึ้น แม้ว่าจะต้องเจอกับ “วิกฤติซับไพรม์” อันมีที่มาจากสหรัฐอเมริกา ในปี 2008

การตั้งหลักของเราตั้งแต่ช่วงปี 2010 พวกเราใช้เวลา 10 ปีในการสร้างทุ่งหญ้าแห่งความฝันของตนเอง ชาวเอ็กซ์ที่ได้ประสบความเปลี่ยนแปลงบนโลกอยู่เกือบตลอดเวลา ทั้งเศรษฐกิจ การเมือง สังคม จากสงครามเวียดนามสู่สงครามอ่าว จนปัจจุบันเราก็ยังอยู่กับสงครามรัสเซีย-ยูเครน หรือแม้กระทั่งความขัดแย้งในฉนวนกาซาที่ยังไม่มีท่าทีจะจบสิ้น ชาวเอ็กซ์ดำเนินชีวิตในช่วงทศวรรษที่มีความแตกต่าง ในสองศตวรรษที่เต็มไปด้วยความเปลี่ยนแปลง และเป็นช่วงเวลาสองพันปีที่โลกในอดีตและปัจจุบันแยกกันอย่างสิ้นเชิง

ชาวเอ็กซ์ ได้ใช้ตั้งแต่โทรศัพท์บ้านที่ต้องเดินสาย จนมาถึงเครื่องรับข้อความที่เรียกว่า “แพคลิงก์” จนมาถึงสิ่งที่เรียกว่าสมาร์ตโฟน และปัจจุบันเราสามารถวิดีโอคอลได้จากทุกที่บนโลกใบนี้ เป็นความฝันเกี่ยวกับโลกอนาคตที่ชาวเอ็กซ์ ล้วนเคยเห็นมาแล้วในการ์ตูนโดราเอมอน

เราได้ใช้งานเครื่องเล่นวิดีโอ พร้อมกับการถือกำเนิดของ YouTube จนปัจจุบันเครื่องเล่นวิดีโอเป็นเพียงความทรงจำในอดีต เราฟังเพลงจากแผ่นไวนิล จากเทปคาสเซ็ต จนถึงแผ่นซีดี และในปัจจุบันเราฟังเพลงออนไลน์จากสปอติฟาย เราเคยติดต่อกันด้วยจดหมายติดแสตมป์ พอเราโตขึ้นในช่วงปลาย 90s พวกเราได้รู้จักสิ่งที่เรียกว่าอีเมล และปัจจุบัน เรามีช่องทางการติดต่อมากมาย แม้จะอยู่คนละไทม์โซน การติดต่อถึงกันไม่ใช่ปัญหาอีกต่อไป

คนในยุคเรารู้จักคอมพิวเตอร์ พร้อมกับแผ่น Floppy Disk ทั้ง 5 นิ้วและ 3 นิ้ว แต่ปัจจุบันเรามีหน่วยความจำในสมาร์ตโฟนระดับ gigabytes และ megabytes ชาวเอ็กซ์เรียกได้ว่าเป็นเจเนอเรชันแรกที่ถูกกำหนดให้ฉีดวัคซีนพื้นฐานตั้งแต่แรกเกิด จากนั้นพวกเราต่างได้รับวัคซีนเมื่อเกิด และล่าสุดพวกเราได้รับวัคซีน COVID-19

รถคันแรกของชาวเอ็กซ์ ส่วนใหญ่เป็นรถคันโตจากพ่อแม่ เป็นรถเครื่องยนต์สันดาปเกียร์ธรรมดา พวงมาลัยไม่พาวเวอร์ อย่างฟอร์ดหรือโตโยต้าที่ใช้พลังงานน้ำมัน ทั้งดีเซลและเบนซิน แต่ปัจจุบันพวกเราหลายคนหันไปขับรถพลังงานทางเลือกอย่างไฮบริดหรือ EV

ยังมีความเปลี่ยนแปลงอีกมากมายที่ไม่ได้กล่าวถึงในช่วงชีวิตของคนเจนฯ เอ็กซ์ ที่ต้องผ่านความเปลี่ยนแปลงมาหลายเหตุการณ์ เหนืออื่นใด พวกเราทุกคนต่างได้พบกับมรสุมของชีวิตมาอย่างน้อยหนึ่งหรือสองเหตุการณ์ ที่ทำให้เราได้รู้จักกับคำว่าสัจธรรมของชีวิตที่แท้จริง

หลายคนเรียกพวกเราชาวเอ็กซ์ว่าเป็น “ผู้รอด” เพราะเกิดและใช้ชีวิตวัยเด็กในยุคแอนาล็อก หากแต่ใช้ชีวิตการทำงานในยุคดิจิทัล เอาเข้าจริงแล้วคนเจอเนอเรชันเอ็กซ์ เปรียบเสมือนพยานผู้พบเห็นความเปลี่ยนแปลง และนั่นทำให้พวกเราเข้าใจแล้วว่า “ความเปลี่ยนแปลงนั้นเป็นนิรันดร์” แด่ทุกท่านที่เป็นชาวเจนฯ เอ็กซ์

แล้วพบกันใหม่สัปดาห์หน้าค่ะ