ไม่รู้ว่าจะดูเวอร์ไปไหมนะ ถ้าจะบอกว่าเคยรอดูซีรีส์เรื่องหนึ่งมาตั้งแต่ปีที่แล้ว ตอนนั้นบังเอิญไถเฟซบุ๊กไปเจอทีเซอร์ (ตัวเก่า) ของเรื่องมา ความน่าดูของเรื่องนี้ คือถึงขั้นรีบปิดจอเฟซบุ๊กลง แล้วเข้าแอปฯ สตรีม Viu เพื่อลองหาดูว่ามีซีรีส์เรื่องที่ว่าลงสตรีมแล้วหรือยัง ผลการค้นหาในตอนนั้นขึ้นว่า “ไม่พบคำค้นหาแนะนำสำหรับสิ่งที่คุณกำลังค้นหา” โอเค ไม่เป็นไร อาจจะยังไม่เข้าแหละมั้ง หลังจากนั้นมาก็แวะเวียนไปเสิร์ชหาดูอีกเรื่อย ๆ ผลค้นหาก็ยังเป็นเหมือนเดิม เวลาล่วงเลยมาหนึ่งปีกว่านับจากวันที่ที่คลิปทีเซอร์นั้นถูกเอาลงเฟซบุ๊ก ลองเสิร์ชชื่อเรื่องดูอีกครั้งเมื่อช่วงสงกรานต์ ก็ยังไม่มีวี่แววว่าจะเห็นซีรีส์เรื่องนี้ใน Viu เลยแม้แต่น้อย
มัวแต่เรียกว่าซีรีส์เรื่องนี้ ๆ อยู่นั่นแหละ แล้วมันซีรีส์เรื่องอะไร ซีรีส์เรื่องที่ใช้เวลารอมานาน 1.5 ปี ก็คือ Get Rich เปิด โรงเรียน ปล้น คือทีเซอร์ตัวเก่าที่เห็นอยู่ในเฟซบุ๊กของ Viu Thailand ถูกลงไว้วันที่ 20 มกราคม 2022 และตอนนั้นก็ได้ข่าวมาว่าซีรีส์เรื่องนี้เป็นหนึ่งในแปด original series ของ Viu ที่เปิดตัวไปตั้งแต่เมื่อต้นปี 2022 ในงาน Viu Original Line Up 2022 แต่รอจนหมดปี 2022 ก็ยังไม่ได้ดู 2023 มาอีกเกือบครึ่งปีก็ไม่มีข่าวคราว (ตอนนั้นแอบคิดว่าหรือจะปลิวไปแล้ววะ) จนในที่สุดเดือนกรกฎาคม 2023 ซีรีส์เรื่องนี้ก็ถูกนำมาลงสตรีมใน Viu เป็นที่เรียบร้อยในฐานะ original series โดยสามารถรับชมตอนใหม่ได้ทุกวันพุธ-พฤหัสบดี เวลา 20.00 น.
Get Rich เปิด โรงเรียน ปล้น เป็นซีรีส์ไทย ความยาว 16 ตอน ที่บอกเล่าเรื่องราวของกลุ่มเด็กนักเรียนรุ่นใหม่ที่ต่างเจ็บปวดกับระบบการศึกษา “โรงเรียน” ที่เป็นสถานที่สำหรับเรียนหนังสือ กลับกลายเป็นสถานที่ที่ “ขโมย” อะไรบางอย่างจากนักเรียนไป ตัวซีรีส์จะพาคนดูไปเห็นมุมมืดของระบบการศึกษาในโรงเรียน ผ่านสายตาของกลุ่มนักเรียนรุ่นใหม่ ที่กล้าคิด กล้าถาม และกล้าเปิดโปงความผิดปกติในสังคมโรงเรียน เพื่อเรียกร้องความถูกต้องและสร้างความเปลี่ยนแปลงให้กับชีวิตในอนาคตของนักเรียนทุกคน ดังแคมเปญเกิดขึ้นในโซเชียลมีเดียก่อนหน้านี้เพื่อโปรโมตซีรีส์กับ #โรงเรียนขโมยอะไรไปจากคุณ
ตัวละครหลักในเรื่อง ดูจะเป็นเด็กนักเรียนหัวขบถในสายตาผู้ใหญ่กลุ่มอนุรักษ์นิยม พวกเขาถูกกระทำจนทนไม่ไหว จึงเริ่มลุกขึ้นสู้ ตีแผ่ความเหลื่อมล้ำภายในโรงเรียนที่ผู้ใหญ่เป็นผู้กระทำอย่างน่าเกลียด นำเสนอชีวิตของเด็กนักเรียนที่ล้วนต้องทนกับการศึกษาที่ทำให้พวกเขาเริ่มสัมสนว่าชีวิตที่ดีคืออะไร ความเท่าเทียมที่ไม่มีอยู่จริงภายใต้เครื่องแบบเดียวกัน การถูกปิดกั้นการแสดงความคิดเห็นเพียงเพราะเป็นเด็ก เด็กถูกสอนว่าห้ามโต้แย้ง เงียบดีกว่ากล้าที่จะพูดจนไม่กล้าทวงสิทธิ์ตัวเอง การถูกกลั่นแกล้ง การเสียเปรียบของเด็กทุน ที่ถูกขโมยความฝันไป และไม่มีสิทธิ์เลือกว่าจะเรียนในสิ่งที่ตัวเองชอบ เพราะต้องใช้ทุนคืนด้วยการไปแข่งวิชาการเพื่อสร้างชื่อให้โรงเรียน เงินรางวัลก็ถูกครูโกง
เพราะถูกกระทำมาเยอะ พวกเขาจึงตัดสินใจที่จะขึ้นไปอยู่บนจุดสูงสุดของห่วงโซ่เพื่อปล้นคืนสิทธิ์ความเท่าเทียมแบบที่นักเรียนควรจะได้รับ แต่เรื่องมันก็ดูจะใหญ่กว่านั้น เพราะยิ่งสืบลึกมากเท่าไร ก็ยิ่งเจอเข้ากับความเน่าเฟะของระบบในโรงเรียนมากขึ้นไปอีก ใครที่ผ่านมาแล้วเห็นว่าเป็นซีรีส์วัยเรียนรักกุ๊กกิ๊ก อบอวลด้วยกลิ่นอายความสดใสของเหล่าวัยรุ่นวัยเรียน ขอให้ข้ามไปได้เลย เพราะซีรีส์เรื่องนี้มันแสบกว่านั้นเยอะ ในการตีแผ่ปัญหาการศึกษาที่ซ่อนไว้ด้วยอำนาจของเงินและทวงคืนสิทธิ์ความเท่าเทียมในรั้วโรงเรียน สะท้อนถึงปัญหาการคอร์รัปชันภายในโรงเรียน และยังมีการวิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับระบบการศึกษาได้อย่างเข้มข้น คิดว่าหลายคนคงเชื่อมโยงกับประสบการณ์ตัวเองได้ไม่ยาก
ในเมื่ออนาคตอีกไม่นานต่อจากนี้ โลกจะขับเคลื่อนด้วยคนรุ่นใหม่อย่างสมบูรณ์ แต่ระบบการศึกษาไทยยังไม่ขยับไปจากจุดเดิม 30-40 ปีที่แล้วเป็นยังไง ทุกวันนี้ก็ยังเป็นแบบเดิม กลายเป็นปัญหาใหญ่ที่ทำให้ระบบการศึกษาไม่พัฒนา Get Rich เปิด โรงเรียน ปล้น จึงรวบรวมเอาปัญหาการศึกษาหลาย ๆ ประเด็นมาขยายและขยี้ให้เห็นกันในซีรีส์ ชนิดที่เราคงเข้าใจได้ไม่ยากว่าเขาอาจจะไปทำการบ้าน inside ความรู้สึกภายในของนักเรียนมาต่อยอดเป็นเรื่องราวก็ได้
เด็กที่ถูกโรงเรียนและผู้ใหญ่ในระบบการศึกษาขโมยอะไรหลาย ๆ อย่างไปจากชีวิต พยายามจะเอาคืนด้วยแผนการที่อาจจะตัดสินใจผิดบ้าง ถูกบ้าง แต่มันเต็มไปด้วยความบ้าบิ่นและกล้าหาญของความเป็นวัยรุ่น ความเฮ้ว ความห้าว ความห่าม เหมือนที่ใครหลาย ๆ คนเคยผ่านมาเมื่อนานมาแล้ว ในฐานะคนดู และคนหนึ่งที่เคยผ่านระบบการศึกษาแบบนี้มาก่อน จึงได้แต่หวังว่าสิ่งที่ซีรีส์เรื่องนี้พยายามนำเสนอจะจุดประกายให้เกิดความเปลี่ยนแปลงที่ดีกับนักเรียนทุกคนในอนาคตได้ไม่มากก็น้อย
สำหรับเรานะ บอกเลยว่าไม่ผิดหวังที่อุตส่าห์เวียนเข้าเวียนออกแอปฯ viu มาตั้งแต่ปีก่อน เพื่อดูว่าซีรีส์เรื่องนี้ลงสตรีมแล้วหรือยัง เพราะมันเป็นลักษณะคอนเทนต์ที่เราอยากเห็นในแวดวงละครไทยมากกว่าละครน้ำเน่าที่มีดาษดื่น (ละครประเภทที่ทำให้ใครหลายคนบอกลาละครไทยไปซบละครเกาหลี ละครจีน) ละครประเภทที่ชอบทำให้สังคมตั้งคำถามกลับว่าทำไมถึงชอบผลิตเนื้อหาเดิม ๆ ซ้ำ ๆ จังเลย ไม่ก้าวข้ามภาพจำเดิม ๆ ที่ทำให้ละครไทยดูแย่ ทั้งที่มันไม่ได้ให้อะไรที่ประเทืองปัญญาคนดู เนื้อหาที่ดูเหมือนคนเขียนบทแค่อยากสนองนี้ดอะไรบางอย่างของตัวเอง แม้แต่ความบันเทิงที่ชอบอ้างงกันว่าดูแค่ความบันเทิงก็พอ คนดูหลายคนยังมองว่ามันไม่ค่อยจะบันเทิงเท่าไรเลย
จริงอยู่ที่ว่าเราไม่ควรจะคาดหวังอะไรมากมายจากละครนอกเหนือจากความบันเทิงสิ แค่ดูให้สนุกก็น่าจะพอแล้ว ถ้าอยากได้สาระความรู้ให้ไปดูข่าวหรือสารคดี แต่ประเด็นมันไม่ได้อยู่แค่ตรงนั้น มันอยู่ที่ว่าละครพยายามใส่ความคิดความเชื่ออะไรลงไปให้คนในสังคมเสพมากกว่า โดยเฉพาะการทำเรื่องไม่ปกติให้มันปกติ มันสร้างความเข้าใจผิดมากมาย มันมีจริง ๆ นะ คนที่ทำอะไรตามละครน่ะ ในเมื่อในละครเกือบทุกเรื่องทำได้ไม่เห็นผิด ชีวิตจริงมันก็คงเป็นเรื่องปกติแหละมั้ง คือคนดูไม่ได้คิดได้ทุกคนว่ามันไม่ดี ในทางกลับกัน ทำไมซีรีส์เกาหลีหลายเรื่องถึงให้คนดูได้ล่ะ ทั้งความบันเทิงและสาระ จริง ๆ ไม่อยากจะอวยซีรีส์เกาหลีมากนักหรอก ที่บทบ้ง ๆ ก็มีอยู่เยอะเหมือนกันไม่ใช่ไม่มี
แค่โกงพวกเราแม่งก็ผิดแล้ว ถ้ามีคนมาเอาเปรียบพวกเราแบบนี้อีก เราจะไม่ยอม
ซีรีส์เรื่องนี้ จริง ๆ ถ้าดูแค่ตัวอย่างที่ปล่อยออกมา (teaser เก่าปี 2022) หลายคนคงคิดเหมือนกันว่าเนื้อหามันดูแรงจัง ตัวละครหลักที่เป็นคนเดินเรื่องก็ดูแรงเกินเด็ก เป็นแค่เด็ก ม.4 ไม่น่าจะริอ่านทำอะไรได้ขนาดนั้น (ซึ่งมันค่อนข้างใกล้เคียงกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นจริง ๆ ในสังคมด้วย) แต่นั่นเราอาจมองจากประสบการณ์การเป็นเด็ก ม.4 ของตัวเองหรือเปล่า ว่าในตอนนั้นที่เราก็เป็นแค่เด็กอายุ 16 เท่านั้น จะไปคิดการใหญ่เปลี่ยนแปลงหรือช่วยเหลืออะไรใครได้ เราเลยใช้ชีวิตในแบบที่ใคร ๆ ก็บอกว่า “ควรจะเป็น” ไปวัน ๆ รู้เรื่องอะไรมาก็ทำได้แค่ตั้งกลุ่มนินทากับเพื่อน หรือพยายามใช้ชีวิต ม.ปลาย 3 ปีเพื่อเรียนให้จบไปเงียบ ๆ ดีกว่า จะได้ไม่เดือดร้อน ไม่มีประวัติอะไรในห้องปกครอง
แต่เด็กม.4 ในซีรีส์เรื่องนี้ไม่ได้เป็นเด็กม.4 ใส ๆ แบบที่มีตัวตนอยู่ในความทรงจำของใครหลายคน การที่พวกเขากล้าที่จะเป็นเด็กนักเรียน “หัวขบถ” ลุกขึ้นมา “ปล้น” โรงเรียน ปล้นเอาสิ่งที่ตัวเองถูกเอารัดเอาเปรียบจากผู้ใหญ่ที่ชอบอ้างว่าตัวเองมีคุณวุฒิ วัยวุฒิ มีความรู้ มีประสบการณ์มากกว่าเด็ก เลยสร้างความชอบธรรมบางอย่างขึ้นมาในการปกครองเด็ก ซึ่งถ้าเป็นผู้ใหญ่ดี ๆ วางตัวน่าเคารพ ทำตัวเป็นตัวอย่างที่ดี เด็กมันก็นับถือเอง แต่บางคนกลับอ้างความเป็นผู้ใหญ่เพื่อให้ตัวเองอยู่เหนือเด็ก มีอำนาจมากที่จะทำเรื่องผิด ๆ เด็กพวกนี้ก็เลยคิดขึ้นมาได้ว่าแล้วทำไมเด็กถึงต้องยอมก้มหัวให้กับผู้ใหญ่ที่ทำผิด การเมินเฉยทำให้ผู้ใหญ่คนนั้นยังทำผิดไปได้เรื่อย ๆ และตัวเด็กเองก็เดือดร้อน
เท่าที่ดูมา 4 ตอน เนื้อหามันก็ไม่ได้แรงขนาดนั้น (แต่ส่วนตัวคิดว่ามีการปรับบทจาก teaser ปีที่แล้ว) แล้วที่สำคัญก็คือทุกการกระทำของตัวละครหลักก็มีที่มาที่ไป มันมีเหตุผลว่าทำไมจู่ ๆ เด็กนักเรียนทุน 2 คนที่เก่งระดับหัวกะทิ และเป็นหน้าเป็นตาสร้างชื่อเสียงให้โรงเรียน ถึงได้กลายเป็นเด็กที่ “มีปัญหา” มากมายกับโรงเรียน และ “สร้างปัญหา” ให้กับผู้ใหญ่บางคนจนไม่สามารถขยับตัวทำผิดได้ถนัดนัก ถ้าไม่มีเหตุปัจจัยที่เด็ก ๆ พวกนี้ถูกปล้นไปก่อน พวกเขาก็จะเป็นแค่เด็กธรรมดา ๆ ที่ก้มหน้าก้มตาเรียนและสอบเอายอด และถูกโรงเรียนใช้เป็นเครื่องมือในการไต่ระดับเป็นโรงเรียนมีชื่อเสียงเท่านั้นเอง เพราะตัวเด็กแทบไม่ได้อะไรจากความพยายามนั้นเลย แถมยังเสียอะไรไปอีกมากมาย
ตัวละครเด็กหัวขบถที่เห็นในตัวอย่าง พอมาดูจริง ๆ พวกเขาก็เป็นแค่เด็กธรรมดา ๆ ที่ถูกกระทำก่อน จึงรู้สึกสงสัยในความผิดปกติ ว่าตัวเองถูกโรงเรียนขโมยอะไรบางอย่างไป แต่แทนที่พวกเขาจะเงียบ ใช้ชีวิตแบบที่เด็กนักเรียนควรจะทำ พวกเขากลับเลือกที่จะ “ไม่เพิกเฉย” ต่อสิ่งผิดปกติที่เกิดขึ้นนั้น “ไม่ยอม” ที่จะถูกเอารัดเอาเปรียบอีกต่อไป ไม่ยอมที่จะถูกผู้ใหญ่โกงแบบหน้าไม่อาย จนนำไปสู่การตามหาความจริง และการเปิดโปงตัวคนผิดในที่สุด ก็เท่านั้น พวกเขาแค่ลุกขึ้นมา “ปล้น” สิ่งที่โรงเรียนเคยปล้นจากพวกเขาไปก่อนก็เท่านั้นเอง ทำไมผู้ใหญ่ถึงโกงเด็กได้ โกงเด็กไม่ใช่ไม่ผิดเหรอ แต่ขอโทษที เด็กพวกนี้ไม่ใช่หมูที่จะมาเคี้ยวกลืนได้ง่าย ๆ พวกเขาไม่ยอม พวกเขาจะเอาคืน
ดีเนอะ แค่มีเงิน ทุกอย่างมันก็ง่ายไปหมด แม้กระทั่งเรื่องเรียน
คืองี้นะ ด้วยความที่เราเห็น teaser เก่าของซีรีส์เรื่องนี้มาตั้งแต่เมื่อต้นปีที่แล้วแล้ว (ยังหาดูได้ในเฟซบุ๊ก) พอมาเทียบกับ teaser ใหม่ของปีนี้ที่ถูกปล่อยออกมาก่อนที่เรื่องจะลงสตรีมประมาณ 3 สัปดาห์ เราคิดว่า (ย้ำว่าคิดเอง) น่าจะมีการปรับบทและถ่ายใหม่บางส่วน และอาจเป็นสาเหตุที่ทำซีรีส์เรื่องนี้ไม่ได้ถูกปล่อยสตรีมในปีที่แล้ว ทั้งที่ซีรีส์เรื่องนี้อยู่ในลิสต์ original series ของ viu ที่เปิดตัวในงาน Viu Original Line Up 2022 ตัวอย่าง 2 เวอร์ชันก็แตกต่างกัน โดยเฉพาะคาแรกเตอร์หลักของนักเรียนหญิง 2 คนที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง ใน teaser เก่า เหมือนว่า 2 คนนี้จะเป็นพวกเดียวกันมาตั้งแต่ต้น แต่ teaser ใหม่และเนื้อเรื่องที่ลงสตรีมแล้ว 2 คนนี้กลับไม่ถูกกันอย่างแรง
และสาเหตุที่ทำให้ 2 คนนี้ศรศิลป์ไม่กินกัน มันมีที่มาจากเรื่อง “เงิน” นั่นเอง เงินเนี่ยดูจะเป็นต้นตอของความบาดหมางได้ในทุก ๆ หย่อมหญ้าเลยนะ คือนักเรียนหญิง 2 คนนี้มีสถานะทางบ้านที่แตกต่างกัน คนหนึ่งเป็นนักเรียนทุนของโรงเรียน “โรส” เด็กสาวที่ใคร ๆ ก็เห็นว่าอนาคตไกล เพราะเธอเป็นเด็กเรียนดีกีฬาเก่ง ทว่าทุนที่ได้กลับเป็นทุนประเภท “เรียนก่อนจ่ายคืนทีหลัง” เธอจึงกลายเป็นหมากตัวหนึ่งที่ถูกโรงเรียนใช้งานสร้างชื่อเสียงให้โรงเรียน แถมยังต้องเอาเงินที่ได้จากการออกไปสอบแข่งขันกลับมาทยอยใช้ทุนคืนให้โรงเรียน เป็นไปได้ก็ควรใช้คืนให้หมดก่อนที่จะเรียนจบนั่นเอง แต่ดูเหมือนว่าก่อนจะลำบาก ครอบครัวเธอก็เคยมีกินมีใช้มาก่อน
การย้ายโรงเรียนมายังโรงเรียนผู้ดีเก่าแก่ มีคอนเนกชันมากมาย เหมือนจะเป็นใบเบิกทางที่ทำให้เธอสามารถไปต่อได้ในที่ที่ดี ๆ แต่เมื่อเธอได้เข้ามาสัมผัสกับความเป็นจริงของโรงเรียนแห่งนี้ เธอจงได้รู้ความจริงว่าโรงเรียนแห่งนี้เป็นโรงเรียนที่ให้ความสำคัญกับเงินมากกว่านักเรียนในโรงเรียน และที่สำคัญ การจะไต่เต้าให้มีชีวิตที่ดีในประเทศนี้ได้ “เงิน” คือทุกอย่าง และในโรงเรียนนี้ ทุกอย่างดูจะเป็นเงินและคอนเนกชันจากผู้ปกครอง ซึ่งคนที่ดูจะใช้ประโยชน์จากเงินและคอนเนกชันมากมายมากที่สุดก็คือนักเรียนหญิงอีกคน “ลิลลี่” ลูกคุณหนูบ้านรวย พ่อของเธอเป็นหนึ่งในสมาคมผู้ปกครอง เธอจึงมักจะได้การยอมรับจากคนอื่นเสมอด้วยเงินและคอนเนกชันที่เธอมี ไม่ใช่ความสามารถตัวเอง
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าโลกจะใจดีกับลิลลี่มากกว่าที่ใจดีกับโรส เพราะสิ่งที่ลิลลี่มีโอกาสมากกว่า แต่ตัวลิลลี่เองก็ไม่ได้กระจอก และไม่ได้ใช้แค่อำนาจเงินที่ตัวเองมี เธอเองก็พยายามอย่างมากเหมือนกันที่จะพิสูจน์ตัวเองว่ามีดีจากความสามารถของตัวเอง ไม่ใช่มีดีเพราะเอาเปรียบคนอื่นมา ถึงอย่างนั้น มันก็ไม่ได้เปลี่ยนความจริงที่ว่า “แค่มีเงิน ทุกอย่างก็ง่ายไปหมด แม้กระทั่งเรื่องเรียน” ด้วยความที่ครอบครัวลิลลี่มีเงิน พ่อแม่ส่งเสียให้เธอลงเรียนพิเศษวิชาอะไรก็ได้ที่เธออยากเรียน ในขณะที่คนอื่น ๆ ที่ไม่มีเงินเรียนพิเศษก็ต้องช่วยเหลือตัวเอง ดิ้นรนเรียนรู้ด้วยตัวเองไป
แม้ว่าเงินจะไม่ใช่ทุกอย่าง แต่ไม่มีปัญหาไหนที่แก้ไม่ได้ด้วยเงิน ทั้งบรรดาลูกคุณหนูและเหล่านักเรียนทุน (ที่เงินไม่พอใช้) รู้เรื่องนี้ดี เด็กนักเรียนที่มีเงินที่มองว่าการบ้านเป็นปัญหาของชีวิต ก็สามารถจ้างเพื่อนทำการบ้านให้เพื่อแก้ปัญหาชีวิตตรงนั้นซะ หรือเวลาที่โรงเรียนเรียกเก็บค่าใช้จ่ายนู่นนี่เพิ่มเติม พวกเด็กทุนที่ชักหน้าไม่ถึงหลังก็ต้องมานั่งคิดหนักว่าจะเอาเงินมาจากไหน จะเอ่ยปากบอกที่บ้านยังไงดี แต่เด็กบ้านรวยก็สามารถพูดแซะคนอื่นได้เต็มปากเต็มคำว่าเงิน “แค่” ไม่กี่บาท อย่าทำตัวเป็นตัวถ่วงที่จะไม่จ่าย ในเมื่อคนอื่น ๆ เขาก็จ่ายกันได้ หรือแม้แต่เวรทำความสะอาด ถ้ามีเงินก็ไม่ต้องอยู่เวรทำความสะอาดก็ได้ ความเท่าเทียมภายใต้ชุดนักเรียนที่เหมือนกันมันไม่มีอยู่จริง
แต่ “เงิน” ต่างหากสิของจริง! มันคือความจริงของโลกใบนี้จริง ๆ นะ แค่มีเงิน ทุกอย่างมันก็ง่ายไปหมด ไม่ใช่ว่าคนมีเงินไม่ต้องพยายามอะไรนะ แต่การเริ่มต้นมันง่ายกว่าคนที่ไม่มีเป็นไหน ๆ ไม่อยากทำการบ้านเองก็จ้างเพื่อนทำให้มันจบ ๆ โรงเรียนเรี่ยไรเงินเมื่อไรก็มีจ่ายโดยไม่ต้องมานั่งคิดว่าจะไปหามาจากไหน ไปแข่งขันกลับมา ทุกคนโดนโกงหมด แต่คนที่มีกินมีใช้โดนโกงไปไม่กี่บาทก็คงไม่รู้สึกอะไร สามารถคิดบวกได้ว่าอาจจะเป็นค่านั่นค่านี่ ครูเขาไม่โกงหรอก แต่กับคนที่ลำบากและจำเป็นต้องใช้เงินก้อนนั้นอย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วยเพื่อต่อชีวสิตตัวเอง พอถูกโกงเงินไปแม้จะเล็กน้อย สถานการณ์มันก็เปลี่ยน
เรื่องที่โรสทำอยู่ มันไม่ใช่ไม่ควร มันแค่ไม่เคยมีใครทำ
และคนดูเกือบทุกคนก็คงพูดตอบพี่บอมในใจแบบที่โรสพูดตอบไปนั่นแหละว่า “ก็นั่นน่ะสิ ทำไมถึงไม่มีใครทำ ในเมื่อเห็น ๆ กันอยู่ว่ามันเป็นเรื่องไม่ถูกต้อง” เวลาที่เห็นเรื่องผิดปกติอยู่ตรงหน้า มนุษย์เราจะมีอยู่ด้วยกัน 3 แบบ แบบแรกคือทำทุกอย่างเพื่อถามหาความถูกต้อง ทวงคืนความยุติธรรมกลับมา ไม่ว่าตัวเองจะมีส่วนได้ส่วนเสียหรือไม่ก็ตาม แบบที่สอง คือเมินเฉย อยู่เงียบ ๆ ไม่รู้ไม่ชี้ ไม่ใช่เรื่องของฉัน ฉันจะไม่ยุ่ง เดี๋ยวเดือดร้อน และแบบที่สาม หลอกตัวเองว่าฉันไม่เป็นไร แค่นี้เอง มองข้ามมันไปแล้วกัน ทั้งที่ตัวเองได้รับผลกระทบจากสิ่งผิดปกตินั้นเต็ม ๆ
เอาจริง ๆ ซีรีส์อาจจะดูเกินจริงไปหน่อยนั่นแหละ การที่เด็กอายุ 16 เรียนแค่ ม.4 จะลุกขึ้นมาทำอะไรที่แตกต่างจากเด็กนักเรียนทั่วไป หลายคนอาจมองว่าโดนผู้ใหญ่หลอกใช้หรือโดนปั่นหัวด้วยซ้ำ เพราะเข้าใจว่าเด็กก็คือเด็ก อ่อนประสบการณ์ ไม่น่าจะคิดนั่นคิดนี่ซับซ้อนได้ แต่บอกเลยว่ามันใช้ไม่ได้กับเด็กยุคนี้นะ เด็กยุคนี้โตมาพร้อมอินเทอร์เน็ต สงสัยหรืออยากได้ความรู้อะไรก็เสิร์ชหาได้เลยทันที จริงอยู่ที่ว่าข้อมูลในอินเทอร์เน็ตไม่ได้ถูกต้องไปเสียทุกอย่าง แต่มันก็ทำให้พวกเขาได้คำตอบในเบื้องต้นถึงเรื่องที่สงสัย เพื่อที่พวกเขาจะได้ไปหาข้อมูลที่น่าเชื่อถือเพิ่มเติม เพราะฉะนั้น เด็กพวกนี้หาคำตอบในสิ่งที่ตัวเองสงสัยได้ง่ายมาก และเด็กหลาย ๆ คนก็ฉลาดกว่าคนตัวโตบางคนด้วย
การที่ไม่เคยมีใครต่อต้านสิ่งผิดปกติที่เกิดขึ้นในสังคม ก็ต้องตั้งคำถามว่าทำไมถึงไม่มีใครทำ เพราะอะไรคนหลายคนที่รู้ดีอยู่แก่ใจว่าสิ่งที่ตัวเองเห็นไม่ใช่เรื่องถูกต้อง กลับเลือกที่จะเงียบไว้และพยายามใช้ชีวิตตัวเองให้เป็นปกติที่สุด ปลอบใจตัวเองและปล่อยผ่านมันไปเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ไม่ก็ยอมจำนนอยู่กับมันแบบไร้ทางสู้ อำนาจอะไรที่ทำให้คนเหล่านั้นเลือกที่จะไม่พูด เพราะมันอาจไม่คุ้มค่าที่จะแลกกับบางสิ่งบางอย่างหรือเปล่า หรือเพราะเข้าใจว่ามันเป็นเรื่องปกติไปแล้ว ทว่าทำไมเด็กสมัยนี้กลับกล้าที่ลุกขึ้นมาสวนทางสิ่งผิดปกติที่ถูกทำให้เป็นเรื่องปกติมาเนิ่นนาน ทำไมพวกเขายอมแลก เปิดหน้าพลีชีพต่อสู้กับอะไรบางอย่างที่สุ่มเสี่ยง และทั้ง ๆ ที่น่าจะรู้ดีว่าตัวเองต้องโดนอะไร
ถ้ามีเรื่องไม่ดีถูกซุกซ่อนไว้ใต้พรมเป็นจำนวนมาก มันจำเป็นจริง ๆ นะที่ต้องมีใครสักคนเสียสละตัวเองเป็น “ผู้กล้า” ที่จะลุกขึ้นมาแก้ไขอะไรบ้างอย่าง “ลงมือทำในสิ่งที่ไม่เคยมีใครทำ” เพื่อสร้างมาตรฐานสังคมใหม่ที่จะไม่เมินเฉยกับสิ่งผิดปกติต่าง ๆ เลิกเพิกเฉยในเรื่องที่ใคร ๆ เคยปล่อยผ่านทั้งที่ตัวเองมีส่วนได้ส่วนเสีย ได้รับผลกระทบ หรือได้รับความเดือดร้อน แล้วมันก็เป็นปรากฏการณ์ใหม่ที่เด็กรุ่นใหม่ทนไม่ไหวกับเรื่องผิดที่ผิดทางแบบนี้ เลยเลือกที่จะลุกมาเปิดประเด็นให้คนอื่นได้ฉุกคิดตามว่าเราสูญเสียอะไรไปบ้างจากการอดทนเงียบและใช้ชีวิตไปเงียบ ๆ มุตาไม่ใช่เหยื่อของแกอีกต่อไป!
สิ่งที่อยากจะบอกก็คือ อย่าดูแคลนในสิ่งที่เด็กรุ่นใหม่ ๆ ทำเลย อย่างน้อยที่สุดก็ควรจะเปิดใจรับฟังเสียงของพวกเขาบ้าง เสียงที่ถ้าสถานการณ์มันปกติดี ก็คงไม่มีใครอยากจะส่งเสียงออกมาหรอก พวกเขายังอ่อนด้วยประสบการณ์ คุณวุฒิ วัยวุฒิ ก็จริง หรือข้อมูลที่พวกเขาได้รับมามันอาจจะผิด หรือพวกเขาอาจจะคิดผิด แต่มันไม่ได้แปลว่าพวกเขาคิดไม่ได้ คิดไม่เป็น ดังนั้น อย่าเพิ่งตัดสินสิ่งที่พวกเขากำลังทำอยู่ว่ามันไม่ถูกต้อง และไม่สมควรไปเพิกเฉยสิ่งที่พวกเขาสงสัยเพียงเพราะพวกเขาเป็นเด็กด้วย เด็กก็คิดเป็นสงสัยเป็น ก็แค่หาคำตอบที่สมเหตุสมผลตอบพวกเขาให้ได้ก็พอ ถ้ามันฟังขึ้นหรือเป็นเหตุผลที่ยอมรับได้ พวกเขาจะถอยหลังไปเอง แต่ถ้าไม่ พวกเขาก็หวังที่จะ “เปลี่ยนแปลง”
Get Rich เปิด โรงเรียน ปล้น คือซีรีส์น้ำดีในรั้วโรงเรียนอีกเรื่องที่สะท้อนสังคมโรงเรียนไทยในความเป็นจริงออกมาได้ค่อนข้างไม่ต่างอะไรจากเรื่องจริงเลย ลองมองย้อนกลับไปดูก็ได้ ว่าในตอนนั้นมันมีประเด็นมากมายที่เราในสมัยเป็นนักเรียนเคยหลับหูหลับตาคิดว่ามันไม่มี เคยพยายามมองข้ามไปและนิ่งเงียบเข้าไว้เพราะไม่อยากเดือดร้อน แต่การที่เด็กสมัยนี้ลุกขึ้นมาทำในเรื่องที่เราเคยไม่กล้า มันก็ไม่ยุติธรรมสำหรับพวกเขานักที่เราจะไปตัดสินว่าพวกเขาเป็นพวกเด็กหัวรุนแรง เด็กหัวขบถ พวกเขาแค่ “ไม่ยอม” ที่จะถูกเอาเปรียบ หรือถูกใช้อำนาจในทางที่ไม่สมเหตุสมผลก็เท่านั้นเอง 🏫
