ในที่สุด “เรือใบสีฟ้า” ทีมจากเกาะอังกฤษก็สามารถลอยลำเข้าสู่รอบตัดเชือกในฟุตบอล ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีกไปได้อย่างสะดวกโยธิน ส่วนหนึ่งของความสำเร็จคงต้องยกให้กับฟอร์มอันร้อนแรงของศูนย์หน้าเด็กโข่งอย่าง เออร์ลิ่ง เบราท์ ฮาลันด์ ซึ่งถึงตอนนี้เขาระเบิดประตูให้ต้นสังกัดอย่างบ้าคลั่งในฤดูกาลนี้ไปแล้วถึง 45 ประตูจาก 40 เกมผลงานทุกนัดที่ลงสนาม บวกกับ “แฮตทริค” อีก 6 ครั้งคนเดียวเน้น ๆ (นี่ขนาดเพิ่งพลาดจุดโทษกับบาเยิร์นไปหนึ่งดอกนะโยม)!
ว่ากันว่าไอ้หนุ่มนอร์เวย์ผู้นี้กำลังทำให้สถิติยิงทุกถ้วยของ เอียน รัช เพชฌฆาตหน้าติดหนวดของลิเวอร์พูล ซึ่งทำไว้ 47 ลูกเมื่อปี 1984 และไคล์ฟ อัลเลน แห่ง ท็อตแน่ม ฮอตสเปอร์ ซึ่งลงอาคมไว้ยาวนานตั้งแต่ปี 1987 ด้วยปริมาณ 49 เม็ดตุงตาข่าย ถึงเวลาถูกทำลายลงอย่างช่วยไม่ได้
“Sooner or later” ช้าหรือเร็วเท่านั้นเองพี่น้อง อะไรก็คงหยุดยั้งเขาไม่อยู่แล้ว สำหรับฟอร์มอันร้อนแรงของฮาลันด์ ในระดับนี้
ถือเป็นการตัดสินใจมาร่วมถิ่น เอติฮัด สเตเดี้ยม อย่างถูกต้องเหมาะเหม็ง ด้วยราคาเพียง 52 ล้านปอนด์จากโบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ยิ่งกว่าถูกหวยเพียงแค่ฤดูกาลแรก ฮาลันด์ก็ฟอร์มลั่นเปรี้ยง ประกอบกับ เป๊ป กวาดิโอล่า กุนซือเข้าใจจัดหน่วยสนับสนุนในการผ่านบอลให้เขาถลุงประตูอย่าง แจ็ค กรีลิช ที่ลากเลื้อยและเปิดลูกให้จากทางฝั่งซ้าย ตรงกลางมี เควิน เดอ บรอยน์ คอยทะลุทะลวงใส่พาน ส่วนด้านขวามี ริยาห์ด มาห์เรซ คอยครอสส์บอลให้โหม่ง
นอกเหนือจากนั้นแล้วการทำหน้าที่สังหารจุดโทษ ยังเปิดโอกาสให้ตัวเขาเองเพิ่มยอดการจบสกอร์ให้พุ่งสูงขึ้นอีกอย่างช่วยไม่ได้
ทุกทิศทุกทาง ว่าอย่างง้าน!
ปีนี้เลยกลายเป็นปีที่ “เป๊ป” กุนซือผู้เคยครีเอตนักเตะตำแหน่ง “ฟอลส์ไนน์” ขึ้นมา เชิดชูและหันไปใช้สไตล์ศูนย์หน้าแบบธรรมชาติมากที่สุดในชีวิตก็ว่าได้ แถม กรีลิช กลายเป็นคนที่ปั้น ฮาลันด์ ได้เป็นอย่างดีที่สุด เพราะเข้าขาป้อนให้กันอย่างเป็นปี่เป็นขลุ่ย
เอาเฉพาะแค่ในพรีเมียร์ลีก หัวหอกผู้นี้ยิงไปแล้ว 32 เท่ากับ โม ซาลาห์ ทำไว้เมื่อซีซั่น 2017-18 และใกล้จะทาบสถิติตลอดกาลของ แอนดี้ โคล (1993-94) กับอลัน เชียร์เรอร์ (1994-95) ซึ่งทั้งคู่ทำไว้ที่ตัวเลข 34 ประตูเท่ากัน
เพิ่งจะอายุ 22 ปี แต่ด้วยคุณสมบัติการเป็นผู้เล่นตัวใหญ่แข็งแกร่งด้านแรงปะทะ แถมยังมีความเร็วจัดแบบผมยังไม่เคยเห็นนักฟุตบอลร่างยักษ์คนไหนทำได้แบบนี้มาก่อน ทั้งในลักษณะไปกับบอล หรือไปแบบตัวเปล่าเล่าเปลือย ทั้งเร็วทั้งหนักแบบนี้ใครจะไปหยุดเอ็งอยู่!
ไม่น่าสงสัยว่าทำไม แมนเชสเตอร์ ซิตี้ จึงต้องพยายามเจรจาขอเซ็นสัญญาฉบับใหม่กับดาวเตะผู้นี้ เพื่อต้องการลบข้อแม้ในสัญญาเดิม ซึ่งมีการเปิดออปชันให้ย้ายทีมได้เมื่อสิ้นสุดฤดูกาล 2023-24 แล้วมีใครยอมจ่ายค่าตัวที่ตัวเลข 150 ล้านปอนด์
ตัวเลขแค่นี้ ไม่ว่าจะเป็น เปแอสเช หรือ เรอัล มาดริด ไม่น่าจะมีปัญหาหรือเกี่ยงงอนอะไรในการจ่าย เป็นเรื่องของ ซิตี้ ที่จะต้องรีบผูกมัด ฮาลันด์ ให้ได้อย่างด่วนที่สุด
แต่ก่อนจะไปถึงจุดนั้น น่าลุ้นครับว่าเมื่อจบฤดูกาลนี้ ฮาลันด์ จะทำลายสถิติทั้งหมดทั้งมวลของพรีเมียร์ลีกและอังกฤษอะไรบ้าง รวมทั้งพา แมนฯ ซิตี้ ฟาดทั้งหมดกี่แชมป์!?!
