วันนี้ขอออกนอกเรื่องฟุตบอลไปคุยเรื่องอื่นบ้าง เพราะมีข่าวใหญ่ในวงการกีฬาช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา บริษัท บุญรอดบริวเวอรี่ จำกัด ในนาม สิงห์ คอร์เปอเรชั่น ได้ตอกย้ำความเป็นแบรนด์ระดับโลก ด้วยการพาสองนักขับเอฟวันมาเยือนเมืองไทย วัลท์เทอรี่ บอททาส วัย 34 ปี และโจ กวนยู อายุ 24 ปี เพื่อทำการถ่ายภาพยนตร์โฆษณาเรื่องใหม่ของสิงห์ที่จะใช้ในหลายประเทศทั่วโลก
ความน่าสนใจอยู่ที่ความต้องการ “โก โกลบอล” ลุยตลาดโลกของแบรนด์จากเมืองไทยเจ้านี้ ที่ผู้บริหารอย่าง คุณวรวุฒิ ภิรมย์ภักดี ให้ข้อมูลว่าอยากจะลุยเกาะอังกฤษเพื่อแชร์ส่วนแบ่งในตลาดที่นั่นมาให้ได้เยอะขึ้น เพราะอย่างที่ทราบกันดีว่าคนที่นั่นชอบดื่มเบียร์กันมากขนาดไหน รวมทั้งประเทศอื่น ๆ ในยุโรปด้วย
สิงห์เองนั้นใช้เวลาถึง 14 ปีในการกระโดดเข้าสู่วงการมอเตอร์สปอร์ต เริ่มจากสนับสนุนทีมเรดบูล เรดซิ่ง ในปี 2009 ต่อด้วยเฟอร์รารี่ ปี 2013 จนปัจจุบันเข้าเป็นโกลบอล พาร์ทเนอร์ กับ อัลฟ่า โรมิโอ เอฟวัน ทีมระดับตำนานที่เข้าสู่วงการนี้มาตั้งแต่ปี 1911 อย่างที่ทราบกันดีว่าทีมนี้เคยคว้าแชมป์รายการเวิลด์ แชมเปี้ยนชิป หรือฟอร์มูล่าวันในยุคปัจจุบันได้ถึง 5 สมัย ในปี 1925, 1950, 1951, 1975 และ 1977
วงการฟอร์มูล่าวันทุกวันนี้กลายเป็นที่รู้จักมากยิ่งขึ้นจากผู้คนและวัยรุ่นทั่วไป หลังจากที่ NETFLIX ได้ผลิตสารคดีเกี่ยวกับรถสูตรหนึ่ง Drive to Survive จนได้รับความนิยมเป็นอย่างสูงจากผู้ชม ทำให้เหมือนเป็นการปลุกกระแสมอเตอร์สปอร์ตขึ้นมาอีกครั้ง
สิ่งที่น่าตื่นเต้นมาก คือการที่ตอนนี้ประเทศจีนมีนักขับคนแรกในประวัติศาสตร์ฟอร์มูล่าวันอยู่ในทีม “อัลฟ่า โรมิโอ เอฟวัน” นั่นคือ โจ กวนยู อาตี๋รูปหล่อวัย 24 ปี นั่นจะทำให้บรรยากาศของเอฟวันเข้ามาใกล้คนเอเชียมากยิ่งขึ้น แม้จะยังไม่ใช่คนขับของไทยเราเองก็ตาม ทางสิงห์เองอยากเห็นเด็กไทยในเวทีโลกเหมือนกัน แม้จะยังไม่ใช้ระดับเอฟวันก็ตาม จึงอยากให้ทุกฝ่ายช่วยกันสนับสนุนในทุก ๆ มิติ
ส่วนการที่สิงห์ได้เลือกทีม “อัลฟ่า โรมิโอ” นั้น เพราะร่วมทำงานกันเป็นอย่างดี รวมทั้งผลงานและอันดับของทีมก็ดีขึ้นเรื่อย ๆ ปีที่แล้วขึ้นมาจบอันดับ 6 ในประเภททีม ล่าสุดเตรียมต่อสัญญากันต่อไปอีกเป็นเวลา 2 ปี
การถ่ายทำโฆษณาครั้งนี้ไปถ่ายกันที่บริเวณท้องสนามหลวง บริเวณพระบรมมหาราชวัง ซึ่งผลพลอยได้จะทำให้ชาวโลกได้เห็นความสวยงามและเอกลักษณ์ของเมืองไทย ซึ่งเชื่อว่าถ้าใครเห็นภาพแล้วเป็นต้องอยากมาเที่ยวเมืองไทยกันอย่างแน่นอน ไม่ว่าชาวต่างชาตินั้นจะเป็นชาติใดก็ตาม มีส่วนช่วยในการกระตุ้นเรื่องการท่องเที่ยวบ้านเราอย่างแน่นอน
อย่าลืมว่านอกเหนือจากนั้นแล้ว “สิงห์” เองได้สนับสนุน “สิงโตน้ำเงินคราม” เชลซี ทีมฟุตบอลแห่งพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ถือเป็นความสัมพันธ์ที่ยาวนาน
ในวาระครบรอบ 90 ปีของสิงห์ คอร์เปอเรชั่น ผู้บริหารยังคงอุบไต๋ว่าจะมีอะไรน่าตื่นเต้นเกี่ยวกับวงการกีฬามาเซอร์ไพรส์คนไทยอีกบ้างในปีนี้ เชื่อแน่ว่าถ้าเป็นแฟนฟุตบอลก็คงอยากให้สโมสรเชลซี กลับมาเยือนบ้านเราอีกครั้ง เพราะห่างเหินไปนานถึง 8 ปีเข้าไปแล้ว ส่วนจะเป็นไปได้หรือไม่ คงต้องติดตามกันครับ.
