หากจะให้เลือกนึกถึงนักฟุตบอลที่ทำหน้าที่ตัวสำรองได้ดีสุดในวงการสักคนหนึ่ง ทุกคนคงต้องนึกถึง โอเล่ กุนนาร์ โซลชาร์ ของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด อีกรายถ้ายังพอจำกันได้ เดวิด แฟร์คลัฟ เจ้าลูกเป็ดขี้เหร่ของลิเวอร์พูล ซึ่งเป็นนักเตะในยุค 70-80 เก่าหน่อย ทั้งคู่ลงสนามมาเมื่อไหร่แฟนได้ลุ้นกันตัวโก่งเมื่อนั้น
“ตัวสำรอง” ตำแหน่งนี้เผินๆอาจจะดูไม่ค่อยมีความหมาย แต่ถ้ามองให้ลึกไปถึงจิตใจพวกเขามันก็น่าสนใจเหมือนกันว่าแต่ละรายมีแนวความคิดอย่างไร บางคนอาจจะซังกะตายนั่งรอโอกาสไป ผิดกับอีกบางคนที่มีทัศนคติในแง่บวก ถือเป็นความท้าทายยามได้ลงไปช่วยทีมปลดล็อคตอนสถานการณ์คับขัน ขึ้นอยู่กับมุมมองของแต่ละคน
สมัยโซลชาร์ ยังเล่นอยู่ พอได้โอกาสที่เท้าแตะพื้นสนามเมื่อไหร่ แฟนๆ “ปิศาจแดง” จะเห็นเขาลงมาด้วยความมุ่งมั่น กระชับกระเฉง และพร้อมจะกระซวกประตูทุกเมื่อถ้าช่องเปิดแม้เพียงเสี้ยววินาที ใช้เวลาของตัวเองให้มีค่าที่สุด
ไม่น่าเชื่อว่าถึงเวลานี้ “พระรอง” อย่างเขากลายมาเจ้านายใหญ่แห่งถิ่น โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด แถมประเดิมผลงานได้เป็นอย่างดีเสียด้วย คือชนะ 4 นัดรวดในการเริ่มคุมทีม ถือเป็นสถิติที่เทียบเท่ากับปรมาจารย์อย่างท่านเซอร์ แม็ตต์ บัสบี้เลยทีเดียวเชียว ใครเลยจะไปนึกว่าเขาจะเริ่มต้นได้เร็วขนาดนี้ ด้วยการใช้กลุ่มนักเตะที่กุนซือคนเดิมอย่าง โชเซ่ มูรินโญ่ บ่นนักบ่นหนาว่าไม่ดีพอ
ผมชอบทัศนคติของ โซลชาร์ ที่พูดกับลูกทีมไว้ว่า “ทุกคนจะได้รับโอกาส แต่บางคนอาจจะต้องรอ เพราะตัวจริงมีแค่ 11 คน ไม่มีใครรู้หัวอกการเป็นตัวสำรองได้ดีเท่าผมหรอก”
ถ้าคุณมี “ตัวสำรอง” ที่ดี แน่นอนก็ย่อมจะกดดันให้คุณต้องมี “ตัวจริง” ที่ดียิ่งกว่า ไม่งั้นก็จะถูกตัวสำรองแซงหน้าลงเป็นตัวจริงเข้าสักวันหนึ่ง
เกมกับนิวคาสเซิล ที่ผ่านมา โซลชาร์ พิสูจน์ให้เห็นว่า ไม่ว่าจะเป็นใครมาจากไหน หรือค่าตัวเท่าไหร่ ถ้ายังไม่พร้อมหรือฟอร์มตก เก้าอี้บนม้าสำรองก็เปิดกว้างต้อนรับทุกคนเสมอ ซูเปอร์สตาร์อย่าง โรเมลู ลูกากู และ อเล็กซิส ซานเชส ก็ยังต้องนั่งรออยู่ที่ข้างสนาม ไม่ใช่กลับมาแล้วจะเข้าสู่ทีมตัวจริงได้โดยอัตโนมัติ
อย่างนี้ยิ่งสร้างกำลังใจให้ดาวรุ่งอย่าง มาร์คัส แรชฟอร์ด ที่ทำผลงานได้ดีอยู่ได้เป็นตัวจริงต่อไป มันก็ Fair Enough ส่วนคนอื่นเพิ่งกลับมาไม่ว่าใหญ่มาจากไหนก็ต้องพิสูจน์ตัวเองก่อน ตราบใดที่เป็นตัวสำรองที่ดียังไม่ได้ ก็อย่าหวังจะเป็นตัวจริง และในที่สุด ลูกากู ถูกเปลี่ยนลงมากระหน่ำประตูได้
ไม่น่าเชื่อเลยว่า โอเล่ กุนนาร์ โซลชาร์ บนเก้าอี้ผู้จัดการทีม ได้พิสูจน์ให้เห็นถึงความสำคัญของตัวสำรองอีกครั้ง.
