ศิลปะแห่งการช่างแม่ง

บางครั้งการได้สบถคำว่า “ช่างแม่ง” ออกไปก็เหมือนทำให้ตัวเราได้ตัด ความรู้สึกที่รบกวนอารมณ์ในเวลานั้นได้เป็นอย่าง และ บางครั้งคำว่า “ช่างแม่ง” ก็เหมือนจะเป็นข้อสรุปที่ดีที่สุดแล้วในห้วงเวลานั้น

สัปดาห์นี้อาจจะทักทายกันรุนแรงไปหน่อย แต่รับรองว่าไม่หยาบคายหากแต่จะพาคุณผู้อ่านเข้าไปสู่ความลึกของคำว่า “ช่างแม่ง” ด้วยหนังสือที่ถูกติดป้ายไว้ที่หน้าปกว่า “ยอดขายถล่มทลายมากกว่า 2 ล้านเล่มทั่วโลก” กับชื่อหนังสือที่แสนจะสะดุดสายตา “ชีวิตติดปีก ด้วยศิลปะแห่งการ ช่างแม่ง” (The Subtle Art of Not Giving A F*CK) โดยมาร์ค แมนสัน

หนังสือชื่อแรงพร้อมกับคำบรรยายว่า “มองโลกในมุมกลับ เพื่อให้ชีวิตของคุณดีขึ้น” เริ่มต้นบทแรกได้อย่างน่าสนใจกับ “อย่าพยายาม” เป็นการย้อนเกล็ดความเชื่อที่เราถูกปลูกฝังมาว่า ความพยายามอยู่ในไหน ความสำเร็จอยู่ที่นั่น โดยมาร์ค ได้ยกเอาชีวิตของนักเขียนชือ่ดังอย่าง ชาลส์ บูเคาว์สกี มาเป็นตัวอย่าง ชาลส์ ผู้ที่ใฝ่ฝันอยากเป็นนักเขียนมาตลอดชีวิต แต่กลับต้องอยู่กับกองจดหมาย และ ต้นฉบับที่บรรดาสำนักพิมพ์ตอบปฎิเสธ เขาจมอยู่กับเหล้า และ ผู้หญิง และก้มหน้าก้มตาทำงานเป็นคนคัดแยกจดหมายอยู่ในที่ทำการไปรษณีย์

จนวันหนึ่ง บรรณาธิการจากสำนักพิมพ์เล็กๆได้เห็นงานของชาลส์ เขารู้สึกชอบขึ้นมาและติดต่อกลับเพื่อขอพิมพ์ เวลานั้นชาลส์ ในวัย 50 ปีรู้ดีว่านี่คือโอกาสครั้งสุดท้ายและเขาก็ต้องเลือกว่าจะอยู่กับงานในไปรษณีย์และเป็นไอ้ขี้เมาจนตาย หรือ จะออกมาเป็นนักเขียนไส้แห้งแล้วอาจอดตาย สุดท้ายชาลส์ เลือกที่จะซื่อสัตย์กับความรู้สึกตนเอง เขาออกมาเขียนต้นฉบับส่งสำนักพิมพ์ และ หลังจากนั้น ชาลส์ ก็กลายเป็นนักเขียนที่ประสบความสำเร็จ

แต่ความสำเร็จของ ชาลส์ ไม่ได้ทำให้เขาเปลี่ยนไป ชาลส์ ยังคงกินเหล้า เที่ยวผู้หญิง ทำตัวเหมือนเช่นเดิมเขาไม่ได้คิดว่าความสำเร็จต้องทำให้เขาเปลี่ยนไป เขามองความสำเร็จแล้วบอกว่า “ช่างแม่ง” บนหลุมศพของชาลส์ นั้นสลักคำจารึกไว้ว่า “อย่าพยายาม” เพราะชาลส์ เชื่อว่าการที่เขาเดินทางมาถึงจุดที่เขาใฝ่ฝันได้นั้นเพราะเขารู้ดีว่าเขาก็เป็นแค่ไอ้ขี้แพ้คนหนึ่งเท่านั้นและเขาเลือกที่จะยอมรับมันแบบไม่แต่งแต้มใดๆ และทุกอย่างก็ถ่ายทอดออกมาในงานเขียนของชาลส์

เรื่องของ ชาลส์ กับ บทที่ว่าด้วย “อย่าพยายาม” เป็นเพียงแค่การเริ่มต้น ทฤษฎี “ช่างแม่ง” ของ มาร์ค แมนสัน และถ้าคุณยิ่งพลิกอ่านเข้าไปด้านใน มาร์ค จะเปิดวิธีคิดอีกด้านหนึ่งให้คุณได้เห็น วิธีคิดว่า “คุณไม่ได้พิเศษกว่าคนอื่น” วิธีคิดที่จะเตือนให้คุณรู้ว่า “คุณกำลังเลือกเสมอ” หรือ วิธีคิดที่ว่า “ความล้มเหลวคือการก้าวไปข้างหน้า”

ในสังคมทุกวันนี้ เรามักถูกสอนให้มองโลกด้วยความสวยงาม คำว่าคิดบวก ลอยเต็มไปทั่วท้องฟ้า บนดินก็เลยเต็มไปด้วยคนที่พยายามจะตะเกียกตะกาย หลายคนพยายามอย่างยิ่งที่จะเป็น Somebody ให้ได้โดยไม่สนใจวิธีการว่าจะต้องเหยียบใครขึ้นไป หรือ ไปก้อปปี้งานใครมา ทั้งที่ความสามารถไปไม่ถึง สังคมเราจึงเต็มไปด้วย “ไอ้ขี้แพ้” ที่ไม่ยอมรับความจริง แล้วก็ยังดันทุรังที่จะทำต่อไป ลองหัด “ช่างแม่ง” กันดูบ้างเพราะเราคงไม่ได้ทุกอย่าง ตามที่เราต้องการไปตลอดชีวิต