ทรัพยากรใจ อย่าใช้ให้เปลืองกันนัก

เล่นทวิตเตอร์กันหรือเปล่าคะ ผู้เขียนนี่เรียกได้ว่าเป็นขาประจำ และมักจะได้ข่าวหรือข้อความที่เป็นประโยชน์มาใช้ในการทำงานเสมอ อย่างล่าสุดมีผู้ใช้งานท่านหนึ่งในทวิตเตอร์ที่ใช้ชื่อว่า @kid_DD ทวิตข้อความมาว่า “นักข่าวได้ถามคู่สามีภรรยาชราผู้หนึ่งว่า ทำอย่างไรถึงอยู่ด้วยกันได้ยาวนานถึง 65 ปี: ฝ่ายหญิงตอบว่า เราเกิดมาในยุคที่หากอะไรเสียต้องซ่อม ไม่ใช่โยนทิ้ง”

โอ้โห!! อ่านแล้วรีบรีทวิต กดไลค์ คือโดนกันเลยทีเดียว เลยทำให้วันนี้อยากจะชวนคุณผู้อ่านคุยเรื่องความสัมพันธ์ในปัจจุบันดูจะเปราะบางไปหมด ไม่ว่าจะระหว่าง ชายหนุ่มกับหญิงสาว ชายหนุ่มกับชายหนุ่ม หญิงสาวกับหญิงสาว หรือความสัมพันธ์ในครอบครัวที่ถูกโยนทิ้งมากขึ้น ทั้งที่ในความเป็นจริงแล้ว เรามีอุปกรณ์หรือพื้นที่ที่จะแสดงความรักต่อกันเยอะขึ้นและซ่อมแซมได้ไม่ยากหากมันเกิดรอยรั่วหรือบาดแผลในใจ แต่ดูเหมือนความรักที่มากขึ้นกลับกลายเป็นว่าความรักนั้นจะถูกโยนทิ้งได้ง่ายขึ้นเช่นกัน

แล้วทำไมคนในยุคนี้ถึงไม่ค่อยอยากจะซ่อมแซมความสัมพันธ์ เป็นเพราะเรามีตัวเลือกมากขึ้น เป็นเพราะเราสามารถยืนได้ด้วยตัวเอง หรือ เป็นเพราะเราไม่เคยเรียนรู้ที่จะซ่อมแซมมัน

ผู้เขียนมีเพื่อนสมัยเรียนในรั้วมหาวิทยาลัย เป็นชายหนุ่มหน้าตาดี ฐานะดีมีหญิงสาวมาติดพันมากมาย ตั้งแต่สมัยเรียนเราทุกคนในกลุ่มมักจะได้รับการแนะนำให้รู้จักกับหญิงสาวของเพื่อนคนนี้ และ ยังไม่ทันที่จะได้ทำความคุ้นเคยกับคนที่เพื่อนบอกว่าเป็นแฟน ทุกคนในกลุ่มก็จะได้รับการแนะนำให้รู้จักกับหญิงสาวคนใหม่ของเพื่อนคนนี้ ชนิดที่ทำให้ทุกคนต้องอ้าปากค้าง

เหตุการณ์ดังกล่าว หมุนเวียนเปลี่ยนหน้าหญิงสาวให้พวกเราได้ทำความรู้จักตลอดทั้งสี่ปี จนผู้เขียนเคยบอกกึ่งประชดกับมันไปว่า “ให้ฉันทำ ‘Girls Friend Tree’ ให้แกเอาไหมจะได้จำได้ว่าทำร้ายใจผู้หญิงมาแล้วกี่คน” คำตอบของมันคือเสียงหัวเราะขบขันก่อนจะเดินจากไป

หลังจากเรียนจบ ต่างคนต่างแยกย้ายกันไปตามทางที่ตั้งใจไว้ เรื่องราวของเพื่อนคนนี้ก็ยังคงดำเนินไปในลักษณะของ “คาสซาโนว่า” จนกระทั่งเพื่อนในกลุ่มแต่ละคนแยกย้ายกันไปมีครอบครัว คาสซาโนว่าก็เริ่มแก่ตัวลง อาจไม่เจ้าเสน่ห์เหมือนในอดีต แต่ก็ไม่เคยทิ้งลาย และจนปัจจุบันก็ยังคงไม่ได้ลงหลักปักฐานกับใครทั้งสิ้น

ครั้งหนึ่งเมื่อเจอกันในงานเลี้ยงรุ่น ผู้เขียนเอ่ยถามตรงๆว่า ทำไมยังไม่ลงเอยกับใครสักที เพราะเห็นผู้หญิงดีๆก็เข้ามาในชีวิตมันเรื่อยๆ ตอนนั้นนึกในใจว่ามันคงตอบแบบหล่อๆว่า “ไม่อยากถูกผูกมัด” แต่พอเอาเข้าจริงเจ้าตัวกลับบอกว่า “ไม่รู้เหมือนกัน เพราะทุกครั้งเขาเป็นฝ่ายถูกบอกเลิก ไม่ได้บอกเลิกผู้หญิงเอง” พร้อมกับให้เหตุผลว่า ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา เวลามีความสัมพันธ์กับผู้หญิงคนไหนก็จะคบเป็นคนๆไป ไม่เคยคบใครซ้อนแต่ส่วนใหญ่ผู้หญิงจะเดินจากไปเอง และทุกคนให้เหตุผลเหมือนกันหมดว่ารู้สึกเข้าไม่ถึงตัวตนที่แท้จริงของผู้หนุ่มนักรัก

เมื่อถามกลับไปว่าแล้วทำไมไม่คุยกับเขา หรือ ปรับปรุงตัวเองเพื่อให้ไปกันต่อได้ เพื่อนคาสซาโนว่า ของผู้เขียนตอบกลับมาว่า “ก็ไม่ได้คิดว่าตนเองทำอะไรผิด ไม่ได้นอกใจ เพียงแค่ขอมีพื้นที่ส่วนตัวบ้าง” และทุกครั้งก็เลยสรุปจบด้วยการไปเริ่มความสัมพันธ์กับหญิงสาวคนใหม่ แล้วก็วนมาจบลงเหมือนเดิม

เป็นตัวอย่างที่ชัดเจนของประโยคด้านบนกันดีไหมคะ ความสัมพันธ์ในปัจจุบัน เปราะบางไม่ใช่เพราะ โซเชียล ไม่ใช่เพราะวัตถุนิยม และไม่ได้เกี่ยวกับเจนเอ็กซ์ วาย แซด อะไรหรอกค่ะ แต่เป็นเพราะเราไ่ม่เคยเรียนรู้ที่จะซ่อมแซมตัวเอง เราต่างปล่อยให้โลกหมุนอยู่รอบตัวเรา แล้วก็ใช้ทรัพยากรใจกันอย่างสิ้นเปลืองและจนถึงเวลานี้ดูเหมือนว่า “ซากของความรัก” ในสังคมจะมีเยอะพอๆกับขยะเทคโนโลยี ที่เรายังไม่รู้ว่าจะหาทางกำจัดมันยังไง

แล้วพบกันใหม่สัปดาห์หน้าค่ะ