เชื่อว่าหลาย ๆ คนน่าจะรู้จักกับนิทานสอนใจเรื่อง “เด็กเลี้ยงแกะ” กันเป็นอย่างดี เราอาจได้ยินผู้ใหญ่เล่านิทานเรื่องนี้ให้ฟังตั้งแต่จำความได้ หลังจากนั้นก็ได้เจอเข้ากับสถานการณ์ต่าง ๆ ที่ผู้ใหญ่มักจะอ้างอิงนิทานเรื่องนี้ขึ้นมาบอกสอนและเตือนใจอยู่เสมอ ๆ ว่าราคาที่ต้องจ่ายจาก “การพูดโกหก” มันมหาศาลแค่ไหน
การใช้ชีวิตอยู่บนคำโกหกที่อย่างน้อยที่สุดก็ตัวเราเองที่รู้อยู่แก่ใจว่ามันไม่ใช่ความจริง ไม่ย่อมไม่สบายใจอยู่ลึก ๆ การที่ต้องพยายามทำให้เรื่องแต่งกลายเป็นเรื่องจริง ต้องจำรายละเอียดต่าง ๆ ว่าแต่งขึ้นมาแบบไหน ต้องอยู่อย่างหวาดระแวงว่าใครจะจับโป๊ะได้เมื่อไร เพราะเมื่อนั้นก็เท่ากับเราจบเห่เสียแล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งในวันที่เราสูญเสียความน่าเชื่อถือทั้งหมดไป เพราะหลังจากนั้นไม่ว่าจะพูดอะไรออกมา ทุกคนก็จะตีความว่าเป็นเรื่องโกหกไว้ก่อน และหายนะจากการที่พูดอะไรก็ไม่มีใครเชื่ออีกต่อไปมันเป็นยังไง
คอลัมน์ชะนีติดซีรีส์ในสัปดาห์นี้ ขอเสนอซีรีส์จากฝั่งเกาหลีใต้ เรื่องราวของผู้หญิงลวงโลกคนหนึ่งที่เริ่มต้นชีวิตจอมปลอมจากการโกหกเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่ไม่น่าจะเป็นอะไร แต่สุดท้ายก็เลยเถิดมาจนถึงขั้นที่ขโมยตัวตนของคนอื่นแล้วสวมรอยใช้ชีวิตเป็นคนอื่นเสียเอง จากชีวิตน่าสงสารที่ต้องเผชิญกับความลำบากลำบนแร้นแค้น กลายมาเป็นไฮโซสาวลูกคนรวย ที่มีชีวิตหรูหราอู้ฟู่ในฐานะศาสตราจารย์มหาวิทยาลัยและภรรยาของนักธุรกิจชื่อดังที่กำลังจะลงเล่นการเมือง ตามดูชีวิตของ “อียูมี” ที่กลายมาเป็น “อีอันนา” ได้ในซีรีส์เรื่อง Anna
แต่ก่อนอื่นต้องขอบอกให้รู้ว่าซีรีส์เรื่องนี้ไม่มีสตรีมมิ่งเจ้าไหนที่ซื้อลิขสิทธิ์มาแปลเป็นซับไทยอย่างถูกต้อง (หรือซื้อไม่ได้อันนี้ไม่แน่ใจ) เอาเข้าจริงซับไทยในเว็บเถื่อนยังหาดูไม่ได้เลยด้วยซ้ำ ที่แย่หนักกว่าก็คือใครที่พอจะมีความรู้ภาษาอังกฤษก็คงคิดว่าเดี๋ยวหาซับอิ๊งดูก็ได้ ระวังจะฝันสลาย เพราะนี่ก็เป็นคนหนึ่งที่คิดแบบนี้ แต่ในความเป็นจริงซับอังกฤษก็หายากมาก ๆ ด้วยเช่นกัน แล้วมันก็ไม่ใช่ซับที่ถูกลิขสิทธิ์ด้วย พูดง่าย ๆ ก็คือถ้าจะดูซีรีส์เรื่องนี้แบบถูกกฎหมายจริง ๆ ต้องดูแบบดำน้ำปราศจากซับไตเติลเท่านั้น และใช่แล้ว ฟังตัวละครพูดภาษาเกาหลีไปนั่นแหละ
แต่ว่าบาป นี่ก็ไปหาซับอังกฤษมาดูจนได้ ภาษาอังกฤษที่แปลมาจากเกาหลีก็แปลก ๆ คิด ๆ ดูนี่น่าจะเป็นเหตุผลที่หาซับไทยเถื่อนดูก็ไม่ได้ ขนาดภาษาอังกฤษยังหาแทบไม่มี ซีรีส์ซับไทยจำนวนมากจะแปลมาจากอังกฤษอีกที เพราะคนที่ได้ภาษาอังกฤษมันมีมากกว่าคนที่ได้ภาษาเกาหลีอยู่แล้วในบ้านเรา ซีรีส์เรื่องนี้เลยไม่ค่อยเป็นที่รู้จักในต่างแดน ทั้งที่มีนักแสดงสาวคนดังของวงการบันเทิงเกาหลีใต้อย่าง “แพซูจี” แสดงนำ และเป็นการกลับมาครั้งแรกหลังจากซีรีส์เรื่อง Start-up ในปี 2020 ซึ่งกระแสตอบรับในบ้านผ่านแพลตฟอร์ม Coupang play (แพลตฟอร์มเดียวกันกับเรื่อง One Ordinary Day) ถือว่าดีงามมาก ทำให้ยอดสมาชิกของแพลตฟอร์มพุ่งสูงขึ้นเป็นประวัติการณ์
และเพราะกระแสตอบรับดีกว่าที่คาดไว้ (แน่นอนว่าส่วนหนึ่งน่าจะเป็นเพราะนักแสดงสาว “ซูจี” ฉายาของเธอเป็นถึง “รักแรกแห่งชาติ” ของคนเกาหลีใต้) ทาง Coupang play ก็เลยมีแผนที่จะเผยแพร่ซีรีส์เรื่อง Anna เวอร์ชันภาคขยายในเดือนสิงหาคม โดยจะเป็นเรื่องราวที่ลงลึกไปอีกของตัวละครหลักทั้ง 4 ตัว เนื่องจากเวอร์ชันที่เพิ่งจบไปนี้ค่อนข้างที่จะเล่ารวบรัดไปนิด จากที่เดิมตั้งใจจะปล่อย 8 ตอนจบ ก็มาตัดเหลือแค่ 6 ตอนจบในนาทีสุดท้ายที่จะฉาย เรื่องมันเลยดูห้วนเกินไปหน่อย แต่ก็ไม่ได้มีผลต่อเนื้อเรื่องโดยรวม ไม่ได้ทำให้งงหรือสับสนอะไร ขนาดไปม่ดูซับไทย แค่ดูภาพกับแปลภาษาอังกฤษได้นิดหน่อยก็พอจะปะติดปะต่อเรื่องได้แล้ว
อ้อ! อีกอย่างที่ต้องบอกก่อนที่จะเข้าใจผิด ทั้งจากชื่อเรื่องและการนำเสนอเรื่องของผู้หญิงที่พูดโกหก ทำให้หลายคนอาจเข้าใจผิดว่ารีเมกมาจากซีรีส์ฝรั่งใน Netflix ที่สร้างจากเรื่องจริงของมิจฉาชีพในนิวยอร์ก เรื่อง Inventing Anna (2022)
แต่จริง ๆ แล้ว Anna (2022) ดัดแปลงจากนวนิยานิยายเรื่อง Intimate Stranger ของนักเขียนจองฮันอา พล็อตเรื่องเกี่ยวกับผู้หญิงคนหนึ่งที่เริ่มต้นจากการพูดปดเล็ก ๆ แต่กลับลงเอยด้วยการใช้ชีวิตเป็นผู้หญิงอีกคนที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง ซึ่งเรื่องนี้ออนแอร์จบแล้วเพราะมีแค่ 6 ตอนสั้น ๆ แต่เพราะหาดูยากมากเลยเพิ่งมีโอกาสได้เขียน
มันเป็นอย่างนั้นมาตลอด เมื่อฉันตั้งใจจะทำอะไรบางอย่าง
กิมมิคอย่างหนึ่งที่น่าสนใจของซีรีส์เรื่อง Anna ก็คือการเปิดทุกตอนด้วยคำพูดของ “อียูมี” หรือในที่สุดเธอก็ได้กลายเป็น “อีอันนา” สมใจ ซีรีส์ขนาดสั้นความยาวแค่ 6 ตอน แต่เปิดตอนใหม่ด้วยเสียงพูดซ้ำ ๆ ของตัวละครว่า “มันเป็นอย่างนั้นมาตลอด เมื่อฉันตั้งใจจะทำอะไรบางอย่าง” พร้อมกับภาพของผู้หญิงคนหนึ่งที่แต่งตัวปิดหน้าปิดตามิดชิด เดินลากเลื่อนอยู่ท่ามกลางภูเขาหิมะ มันชวนให้ติดตามต่อว่าการโกหกของ “ยูมี” จะไปสิ้นสุดที่ตรงไหน จุดจบของคนโกหกที่สามารถทำทุกอย่างที่ตัวเองต้องการให้สมปรารถนา มันเป็นยังไง
จริง ๆ จะบอกว่าประโยคข้างต้นเป็นภาษิตประจำใจของ “อียูมี” ที่จะอนุมานให้มันเป็นความตั้งใจเชิงบวกหรือเชิงลบก็ได้ อยู่ว่าสิ่งที่เธอตั้งใจจะทำมันคืออะไร มันสมเหตุสมผล มันผิดกฎหมาย มันผิดศีลธรรมหรือไม่ เนื้อเรื่องตลอด 6 ตลอด จะพาผู้ชมอย่างเราค่อย ๆ ด่ำดิ่งสู่ชีวิตที่ “เคย” ไม่ได้ดั่งใจของยูมี จุดเริ่มต้น เธออาจจะเป็นแค่คนธรรมดา ๆ ที่โชคร้ายคนหนึ่ง ยูมีที่ชะตาชีวิตพลิกผันเพราะเดินทางผิดพลาด และได้รับบทเรียนชีวิตที่ไม่ยุติธรรม ขาดโอกาสหลาย ๆ อย่าง จังหวะชีวิตไม่ส่ง มันต้อนเธอให้จนมุมอย่างช้า ๆ แต่ด้วยความปรารถนาอันแรงกล้า เธอไม่ยอมแพ้
เพราะในที่สุด โอกาสก็อุบัติขึ้นจากสถานการณ์ที่ต้อนให้เธอต้องเริ่มต้นโกหก การโกหกเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่ตอนนั้นเธอก็ไม่คิดหรอกว่ามันจะกลายเป็นการโกหกคำโตและแหกตาคนครึ่งค่อนประเทศในอีกไม่กี่ปีต่อมา จากการโกหกเพื่อให้พ่อแม่สบายใจ เพราะรู้สึกรับไม่ได้ถ้าพ่อแม่จะต้องมาผิดหวังในตัวเธอ ปูทางมาสู่เส้นทางที่เธอเคยอิจฉาคนอื่นเข้าจนได้ ถ้าชีวิตคนเราจะเปลี่ยนเมื่อเราพยายามมากพอ ยูมีคือคนที่ยึดมั่นในความพยายามที่จะก้าวพ้นชีวิตเส็งเคร็งนี่ ในเมื่อการโกหกมันไม่จบอยู่แค่นั้น และนับวันก็ยิ่งน่ากลัวขึ้นเรื่อย ๆ เธอจึงต้องเดินหน้าต่อไป ไปให้สุดทาง
ยูมีประคับประคองตนเองให้อยู่บนหลังเสือของคำโกหกมานานหลายปี จนในที่สุด เธอก็สามารถมีชีวิตแบบพลิกฝ่ามือ ด้วยการ “ขโมยชีวิตคนอื่นมาเป็นของตัวเอง” จาก “ยูมี” เด็กสาวธรรมดาผู้ที่โชคชะตาหันหลังให้ มาเป็น “อันนา” ไฮโซสาวสวยผู้ที่มีเบื้องหลังมาจากครอบครัวอันมีจะกิน ลูกคุณหนูเรียนจบจากเมืองนอก วุฒิการศึกษาสุดปัง ทั้งที่ตัวตนจริง ๆ ของยูมีเรียนจบแค่ม.ปลายด้วยซ้ำ แถมจบมาแบบกระท่อนกระแท่น เกรดไม่ดี สอบมหาวิทยาลัยไม่ติด แต่การมีชีวิตอยู่ภายใต้การโกหกก็ไม่ง่ายอย่างที่คิด เธอต้องอยู่อย่างหวาดระแวงว่าจะโดนจับโป๊ะแล้วกลับไปมีชีวิตแบบเดิม
เพราะสิ่งที่เธอพยายามหนักมากจริง ๆ ก็คือการทำให้ตัวเองดูน่าเชื่อถือที่จะใช้ชีวิตเป็นอันนา หญิงสาวอีกคนที่เธอขโมยตัวตนมา ยูมีศึกษาหาข้อมูลต่าง ๆ ที่จะทำให้ตัวเองเป็นอันนาอย่างสมบูรณ์ และเพื่อทำให้คำโกหกดูสมจริงชนิดที่ใครก็จับไม่ได้ และมันก็ได้ผล จากชีวิตแร้นแค้นที่หางานทำยากเพราะไม่มีวุฒิการศึกษา เป็นได้แค่แม่บ้านและพนักงานพาร์ตไทม์ กลายมาเป็นศาสตราจารย์ด้านศิลปะของมหาวิทยาลัยที่ใคร ๆ ก็ชื่นชมและนับหน้าถือตา เมื่อคนในสังคมต่างก็มองกันแค่เปลือกนอก ชนชั้นทางสังคมระดับสูงจึงเป็นสิ่งเดียวที่จะทำให้เธอได้ทุกอย่างที่ต้องการ
และเพื่อให้โปรไฟล์ดูเลิศหรูอลังการมากกว่านี้ แบบที่หลุดพ้นจากชีวิตชนชั้นล่างก้าวขึ้นสู่ชนชั้นสูงแบบเด็ดขาด เธอถึงกับยอมแต่งงานกับชายคนหนึ่งโดยปราศจากความรัก ใช้ชีวิตหรูหราอู้ฟู่ในฐานะศาสตราจารย์และภรรยาของนักธุรกิจหนุ่มไฟแรงที่เตรียมลงเล่นการเมือง แต่ชีวิตที่หลอกคนอื่นมานานหลายปีและดูเหมือนจะเริ่มมั่นคงกลับเริ่มสั่นคลอน เพราะเธอได้เจอเข้ากับอันนาตัวจริง และสามีสุดทะเยอทะยานที่กำลังจะเป็นนักการเมืองก็กลายเป็นคนบ้าอำนาจ เห็นทรงมาแต่ไกลว่าไม่ใช่นักการเมืองน้ำดี ยูมีในคราบอันนาจึงต้องต่อสู้อีกครั้งเพื่อความอยู่รอด
ใคร ๆ ก็เขียนคำปด แม้จะในไดอารี่ของตัวเองที่เอาไว้อ่านคนเดียว
นี่คือเหตุผลที่เริ่มต้นย่อหน้าแรกของคอลัมน์ด้วยนิทานเรื่อง “เด็กเลี้ยงแกะ” สุดท้ายจุดจบของคนโกหกมักจะลงเอยเหมือน ๆ กัน คือแพ้ภัยตัวเอง เอาเข้าจริงในช่วงที่ชีวิตของยูมีตกต่ำถึงขีดสุด มันก็เป็นเรื่องที่เข้าใจได้นะว่าทำไมเธอถึงเลือกที่จะพูดโกหก การโกหกคำโตครั้งแรกของเธอมันมีที่มาจากความต้องการให้พ่อแม่สบายใจ ไม่อยากให้พ่อแม่ผิดหวังที่มีลูกสาวที่ล้มเหลวอย่างเธอ แต่เพราะคำโกหกนั้นมันล้ำเส้นมากเกินไป เธอจึงต้องไปต่อ หยุดอยู่แค่นั้นไม่ได้ เริ่มโกหกแล้วสำเร็จครั้งหนึ่ง มันก็จะมีครั้งต่อ ๆ ไป และต้องโกหกไปเรื่อย ๆ ไม่มีที่สิ้นสุด
เอาจริง ๆ ตอนดูก็แอบลุ้นตามนะว่านางจะโดนจับโป๊ะจนโป๊ะแตกตอนไหน นางจะโกหกได้ตลอดรอดฝั่งหรือเปล่า เพราะการโกหกของเธอมันคือการที่เธอขโมยตัวตนของคนอื่นมาแล้วใช้ชีวิตเป็นคนนั้น พื้นฐานชีวิตที่ผ่านมาของคนที่เธอไปขโมยชีวิตมาก็คือแตกต่างกันมาก ๆ แต่เธอกลับทำได้ดีเกินคาด ส่วนหนึ่งมาจากการที่มีหน้าตาสะสวย แต่งนิดแต่งหน่อยก็ดูมีสง่าราศีของลูกคุณหนู อีกทั้งเธอยังพยายามอย่างหนักที่จะกำจัดตัวตนของยูมีให้สิ้นซาก และเริ่มต้นชีวิตใหม่ด้วยตัวตนใหม่คืออันนา ศึกษาทุกอย่างให้สมจริง ดูมีความรู้ระดับศาสตราจารย์จริง ๆ ทั้งที่ตัวเองก็ไม่ได้เรียนมหาวิทยาลัย แสดงให้เห็นว่าเธอไม่ได้แค่โกหกเพื่อเอาตัวรอด แต่ต้องการที่จะมีชีวิตอยู่รอดโดยการโกหก
อีกทั้งเป็นเพราะเนื้อแท้ของยูมีไม่ใช่คนเลวร้ายอะไรแต่แรก แบบที่สารภาพให้รุ่นพี่ที่เธอสนิทใจและไว้ใจมากคนหนึ่งให้ได้รู้ถึงจุดเริ่มต้นที่เธอพาตัวเองมาไกลขนาดนี้ ชีวิตที่จนตรอกของเธอบอกให้เธอต้องทำอะไรสักอย่าง และอย่างเดียวที่ทำได้ในเวลานั้นคือการโกหก ชีวิตที่ล้มเหลว เธอพยายามลุกด้วยวิธีที่สุจริตมานานหลายปีแต่มันลุกไม่ขึ้น ก็แอบทำให้คนดูรู้สึกเห็นใจด้วยเพราะชีวิตที่ผ่านมาของเธอมันไม่ง่ายจริง ๆ แม้กระทั่งการมีชีวิตแบบหลอกลวงคนอื่นไปวัน ๆ มันก็ไม่ง่ายเหมือนกัน เธอมาไกลขนาดนี้ได้ก็ด้วยความพยายามจริง ๆ เพียงแต่ใช้แบบผิด ๆ เท่านั้นเอง
ถึงแม้ว่าตอนแรกที่กลิ่นชนชั้นสูงมันหอมหวานจนเธอเองก็หลงใหลกับมันเหมือนกับว่าเธอจะไม่มีจิตสำนึกในด้านศีลธรรมที่รู้ผิดชอบชั่วดีอีกแล้วว่าสิ่งที่ตัวเองทำมันผิด แต่ซีรีส์ก็ได้ส่งตัวละครสบทบตัวหนึ่งเข้ามาในชีวิตเธอ ตัวละครที่จะทำให้ยูมีในคราบอันนาสบายใจขึ้นมาก ตัวละครนั้นคือเลขาของสามีที่มีหน้าที่มาเฝ้าติดตามตัวเธอเอง เลขาคนนั้นก็มีชื่อว่ายูมีเหมือนกัน แถมยังทำงานงก ๆ ไม่ได้หลับได้นอนเพื่อรับใช้ตัวเธอและสามีเหมือนกับที่เธอเคยทำเมื่อหลายปีก่อน ตอนที่ยังสู้ชีวิตอย่างหนักอยู่ การเห็นตัวเองในอดีตทำให้เธอเริ่มคิดได้
มีฉากหนึ่งที่เธอถามเลขาสาวคนนั้นว่าได้นอนหลับบ้างไหม ทำงานให้สามีเธอขนาดนั้นเหนื่อยมากหรือเปล่า เมื่อได้รับคำตอบว่าไม่เหนื่อยเลย ยูมีในคราบอันนาถึงกับเปรยกับตัวเองเบา ๆ “เห็นไหม ทุกคนก็พูดโกหกกันทั้งนั้นแหละ” ยูมีนี้ทำให้เธอหวนนึกถึงตัวเองตอนที่ยังเป็นยูมีเหมือนกัน เหมือนเห็นตัวตนของตัวเองในอดีตก่อนที่จะขโมยตัวตนของอีอันนามาโกหกหลอกลวงทุกคน ปลุกจิตสำนึกที่หลับใหลไปนานขึ้นมา และหลังจากที่หลอกคนอื่นและหลอกตัวเองมานาน เธอก็ตัดสินใจจะแก้ไขชีวิตในไดอารี่ตัวเองที่ปกติเธออ่านมันคนเดียว
การขโมยชีวิตคนอื่นมีราคาที่ต้องจ่าย
และเพราะชีวิตของอีกคนหนึ่งที่ยูมีในคราบอันนาขโมยมาไม่ใช่ชีวิตธรรมดา แต่เป็นชีวิตไฮโซลูกคุณหนูเอาแต่ใจ ประเภทที่ทำงานไม่เป็นใช้เงินเป็นอย่างเดียว แถมยังเรียนจบนอกโปรไฟล์สุดปัง ราคาชีวิตของอันนาตัวจริงจึงมีราคาแพงมาก ในเวลานี้อันนาตัวจริงรู้ถึงความลับที่อันนาตัวปลอมกำลังหลอกลวงทุกคน ซึ่งเธอเองก็ไม่ใช่ผู้หญิงที่จะมีเมตตาให้อภัย ปล่อยให้คนที่ขโมยชีวิตเธอจนอู้ฟู่หรูหราไปง่าย ๆ ในเมื่ออันนาตัวปลอมขโมยชีวิตเธอไป มันก็มีราคาที่ต้องจ่าย และเธอก็เรียกคืนแบบไม่ปรานี ยูมีในคราบอันนาจึงตกอยู่ในสถานการณ์ที่เหมือนตกนรกทั้งเป็นอีกครั้ง
แบบที่อันนาตัวจริงบอกกับอันนาตัวปลอมเลยว่า “นรกไม่ใช่สถานที่ แต่เป็นสถานการณ์” ชีวิตที่ยูมีในคราบอันนาต้องเจอมาตลอดเวลามันก็เป็นแค่ความสุขจอมปลอม ความสุขจากการที่ได้มีในสิ่งที่ตัวเองไม่เคยมี ทั้งชื่อเสียง เงินทอง หน้าที่การงาน สามีรวย การที่ต้องหลอกลวงคนอื่นและแม้กระทั่งคนใกล้ตัวที่เชื่อใจเธอและเธอก็เชื่อใจหล่อนมันไม่เคยเป็นเรื่องง่ายสำหรับยูมีในคราบอันนา เธอต้องหวาดระแวงกลัวว่าตนเองจะทำได้ไม่เนียนพอแล้วโดนจับโป๊ะ กลัวว่าจะสูญเสียทุกอย่างที่ได้มาแบบผิด ๆ ไป นั่นก็เป็นนรกขุมแรกที่เธอเจอ พอมีคนจับโกหกเธอได้เธอก็ต้องเจอกับนรกขุมต่อ ๆ ไป ทำให้หลังจากที่คิดได้ เธอก็ตั้งใจว่าเธอต้องเปลี่ยนแปลงชีวิตตัวเองอีกครั้ง ก่อนที่เธอจะมอดไหม้
จริง ๆ นี่ว่าซีรีส์ 6 ตอนมันก็จบในตัวแบบสมบูรณ์อยู่นะ ไม่รู้ว่ามันจะไปจบที่ตรงไหนถ้าทำภาคต่อ แต่เท่าที่อ่านข่าวเรื่องเวอร์ชันขยายก็เข้าใจว่าจะเป็นการขยายพวกความคิด ความรู้สึก และเหตุของการกระทำต่าง ๆ ของตัวละครหลัก 4 ตัวมากกว่าไม่น่าใช่ภาคต่อ เหมือนพยายามจะให้คนดูได้เข้าเก็บบทเรียนชีวิตของยูมีในคราบอันนาที่เธอได้รับมาจากการลวงโลกและแหกตาคนครึ่งค่อนประเทศ จากเนื้อเรื่องหลักเราพอจะจับจุดได้อยู่ว่าเมื่อไรกันที่อันนาตัวปลอมเกิดคิดได้ว่าราคาที่เธอต้องจ่ายให้กับการใช้ชีวิตเป็นคนอื่นมันแพงเกินไป จนเธออยากหยุดอยากจบทุกอย่าง เธอมาไกลมาก และพร้อมยอมรับผลของการกระทำที่ตัวเองเป็นคนก่อ
ชีวิตที่ต้องทิ้งและกำจัดตัวตนทั้งหมดของตนเองเพื่อที่จะได้ใช้ชีวิตเป็นคนอื่นอย่างสมบูรณ์ ในการได้มาในสิ่งที่ตนเองต้องการ เป็นชีวิตที่เราตั้งใจว่าจะอยู่มันไปแบบนี้ได้ตลอดชีวิตจริง ๆ อย่างนั้นหรือ ความจริงมันเป็นเรื่องง่าย ๆ แต่การโกหกมันซับซ้อน เราจะเลือกมีชีวิตอยู่อย่างคนโกหกได้นานแค่ไหนกัน ซีรีส์เรื่อง Anna ได้รวบรวมคำใบ้ของคำตอบจากคำถามว่าการมีชีวิตแบบนั้นมันมีความสุขได้จริง ๆ เหรอไว้ให้ผู้ชมทุกคนได้พยายามไขต่อและตีความ จุดจบของยูมีในคราบอันนา สาสมหรือเกินเหตุเมื่อเทียบกับสิ่งที่เธอทำ ไหนจะคนรอบข้างเธอที่มีส่วนสนับสนุนให้เธอเป็นแบบนี้ จะบอกว่านี่เป็นซีรีส์ที่จบแบบโศกนาฏกรรมก็ไม่ผิดนัก 🤫