ห่างกันสักพักนะ “เวิลด์ ซูเปอร์ไบค์”


ห่างกันสักพักนะ “เวิลด์ ซูเปอร์ไบค์”

ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ต้องบอกว่าเป็นสัปดาห์แห่ง “ชีพจรลงเท้า” สำหรับผมอย่างแท้จริง กับการเดินทาง กรุงเทพฯ-บุรีรัมย์-กรุงเทพฯ ภายในระยะเวลา 48 ชั่วโมง เนื่องจากมีทั้งภารกิจไปถ่ายทำรายการ Destination of Speed ทางช่อง3SD ในศึกเวิลด์ ซูเปอร์ไบค์ 2017 ที่จังหวัดบุรีรัมย์ รวมถึงกลับมารับบทพิธีกรจำเป็นในรายการ เกมมันส์วันเสาร์ ทางช่อง beIN SPORTS1

อย่างไรก็ดีประเด็นสำคัญที่อยากจะนำมาถ่ายทอดให้กับท่านผู้อ่าน ทั้งที่ติดตามมอเตอร์สปอร์ต และไม่ได้ติดตามกีฬาชนิดนี้ คือการที่ผมได้พบเจอผู้คนทั้งนักบิดระดับโลก และผู้สื่อข่าวต่างประเทศหลายสำนัก ที่สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต ซึ่งมันทำให้ผมกลับมาคิดพาดหัวคอลัมน์เอาไว้ด้านบนนั่นเอง

ใช่แล้วครับ อ่านไม่ผิดแน่นอน เพราะแม้ไทยเราจะประสบความสำเร็จแบบสุดๆในการจัดเวิลด์ ซูเปอร์ไบค์ มาตลอด 3 ปีที่ผ่านมา รวมถึงครั้งนี้ปี 2017 ด้วยยอดผู้ชมเฉียดแสน บวกกับความสำเร็จของนักบิดไทย อย่างเดชา ไกรศาสตร์ และฐิติพงษ์ วโรกร แต่เป้าหมายต่อไปที่คนในวงการความเร็วอยากเห็น ก็คือการก้าวไปเป็นเจ้าภาพโมโตจีพี สุดยอดการแข่งขันรถ 2 ล้อทางเรียบที่เร็วที่สุดบนโลกใบนี้

ผมมีโอกาสพูดคุยกับ ชาร์ลี ฮิสค็อตต์ โปรดิวเซอร์จาก Eurosport ที่เดินทางมาทำข่าวเวิลด์ซูเปอร์ไบค์ในเมืองไทยเป็นปีที่ 3 ติดต่อกัน เขาบอกว่า การผ่านการทำหน้าที่เจ้าภาพเวิลด์ ซูเปอร์ไบค์ ของสนามช้างฯตลอด 3 ปีที่ผ่านมา เป็นสิ่งยืนยันได้เป็นอย่างดีว่า พร้อมแล้วกับการเป็นเจ้าภาพโมโตจีพี พร้อมบอกว่า จุดเด่นของสนามแห่งนี้ นอกจากมาตรฐานระดับเอฟไอเอ็ม เกรด เอ แล้ว มิตรภาพของคนไทย คือสิ่งที่สร้างความประทับใจให้เขามากที่สุดจากบรรดาทุกสนามทั่วโลก


ส่วน เอ็มเร่ พอลโลวิตส์ จากนิตยสาร Motopress ของเยอรมนี ซึ่งเป็นผู้สื่อข่าวสายโมโตจีพี และเวิลด์ ซูเปอร์ไบค์ ตอบคำถามผมถึงโอกาสที่ไทยเราจะเป็นเจ้าภาพโมโตจีพีในปี 2018 ด้วยเสียงดังฟังชัด ลั่นห้องนักข่าวของสนามช้างฯว่า “Why not ?”

โดยเอ็มเร่ อธิบายเหตุผลเป็นฉากๆว่า เมื่อพูดถึงการแข่งขันจักรยานยนต์ชิงแชมป์โลก กับ ประเทศไทย ทำให้เขานึกถึง ฟิล์ม รัฐภาคย์ วิไลโรจน์ ตั้งแต่สมัยขี่ในระดับโมโตทู มาจนถึงการคว้าแชมป์ เวิลด์ ซูเปอร์ไบค์ รุ่น 600 ซีซี ที่สนามช้างฯ เมื่อปี 2015 ในวันนั้น เขาบอกบรรยากาศมันสุดยอดมากๆ และมันคงจะดีมากๆ หากไทยเราได้เป็นเจ้าภาพโมโตจีพีในฤดูกาลหน้า

งานนี้หากดูจากการแข่งขันเวิลด์ ซูเปอร์ไบค์ ที่เพิ่งจบลงไป และสังเกตกันให้ดี จะเห็นว่าไม่มีข่าวที่สนามช้างฯเตรียมต่อสัญญาการแข่งขันขันรายการนี้ออกไปในปี 2018 หลุดออกมาเลย ซึ่งนั่นทำให้ผมเข้าใจว่า คณะทำงานทั้งภาครัฐและเอกชน กำลังเจรจาในการคว้าสิทธิ์เพื่อเป็นเจ้าภาพโมโตจีพีในช่วง 3 ฤดูกาลนับจากนี้มาสู่ประเทศไทยนั่นเอง

สุดท้ายครับ คงต้องบอกว่า 3 ปีกับเวิลด์ ซูเปอร์ไบค์ ถ้าเปรียบเป็นคู่รัก ก็ถือเป็นแฟนที่ดีมากๆ แต่ด้วยเหตุผลบางประการ อาจทำให้เราต้องห่างกันสักพัก เพราะเรากำลังเจอคนที่ดีกว่า อย่างโมโตจีพี

แต่ความหวังกับ ไทยแลนด์ โมโตจีพี 2018 จะเป็นจริงหรือไม่ คงต้องตั้งตารอ จนกว่าจะถึงวันนั้นครับ