จังหวะนี้ต้องชักชวนเที่ยวเมืองไทย

กลับมาพบกันอีกในสัปดาห์นี้ ท่ามกลางบรรยากาศที่ยังอึมครึม เพราะโรคไวรัสระบาดยังไม่คลี่คลาย แถมในบ้านเรายังถูกซ้ำเติมด้วยภัยแล้งและไฟไหม้ป่า แต่ชีวิตก็ยังต้องดำเนินต่อไปด้วยจิตใจที่บรรจุด้วยความหวัง เพื่อลากจูงตัวเองกับคนรอบข้างให้เดินต่อไปให้ได้นะครับ

เข็มนาฬิกายังคงเดินหน้าแบบไม่มีวันหยุด อีกแป๊บเดียวก็จะถึงเดือนเมษาและพฤษภา ช่วงที่คนไทยนิยมเก็บกระเป๋าไปท่องเที่ยวกัน เพราะมีวันหยุดต่อเนื่องกันเยอะ แถมยังเป็นช่วงที่ลูกหลานปิดเทอมอีกด้วย

แล้วจะทำยังไงกันดี ญี่ปุ่น เกาหลี จีน และฮ่องกง อาจจะยังไม่พร้อมสำหรับการให้ไปเยือน หรือไม่สามารถเปิดรับชาวต่างชาติได้เต็มที่

ลองหันกลับมามองการพักผ่อนภายในของเราบ้างเป็นไงครับ บ้านเรามีที่สวยงามน่าไปสัมผัสตั้งมากมาย ไม่ว่าจะแบบใกล้ๆ กรุงเทพฯ อย่าง พัทยา หัวหิน เขาใหญ่ สวนผึ้ง หรือจะเอาแบบขยับไกลออกไปอย่าง เชียงใหม่ เกาะสมุย ภูเก็ต ตรัง ปาย เขาค้อ เกาะเสม็ด ระยอง จันทรบุรี ตราด อย่าลืมความงดงามของเมืองหลวงเองด้วย โอย ที่เที่ยวสวยๆบรรยากาศดีๆ ตั้งเยอะแยะ

นี่แค่นึกเร็วๆ ถ้านั่งไล่กันยาวๆ ยังมีอีกมากมายก่ายกอง แถมตอนนี้ถนนหนทางออกไปจากกรุงเทพฯ หรือแม้กระทั่งทางเชื่อมระหว่างเมืองถูกปรับปรุงให้ดีขึ้นมากแล้ว สนามบินก็ทันสมัยสะดวกขึ้นเช่นเดียวกัน

หลายคนอาจจะมีความคิดสะกิดใจว่า เที่ยวไทยแพงพอกับไปต่างประเทศใกล้ๆ เลยนะ แต่อย่าลืมครับว่า ประเทศเรามีความสะดวกสบาย บรรยากาศที่คลาสสิก แม่น้ำสวย ทะเลงาม บวกกับศิลปะและวัดวาอาราม แถมยังมีอาหารการกิน ผลไม้ ที่สุดยอดกว่าประเทศใดในโลกอย่างนี้แล้ว จะดิ้นรนไปเที่ยวต่างประเทศให้เงินรั่วไหลในช่วงเศรษฐกิจไม่ดีกันทำไม

ผมมองว่าน่าจะเป็นเวลาเหมาะที่รัฐบาล และการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย จะใช้โอกาสต่อจากนี้ ในการชักชวนให้คนไทยพักผ่อนอยู่ในบ้านเรา หรือแม้กระทั่งเชิญชวนนักเดินทางชาวต่างชาติ ที่มีข้อจำกัดจากการเลือกสถานที่พักผ่อนอื่นๆ ให้มาเยือนบ้านเรากันให้เยอะครับ

เรียกว่ายิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัวเลย คือได้คนไทย นอกจากเงินจะหมุนอยู่ภายในแล้ว อีกหนึ่งเป้าหมายคือฝรั่งมังค่าจะได้เบนเข็มมาเมืองไทยกัน ในช่วงเวลาที่เรายังต้องรอนักท่องเที่ยวจีนกลับมา จะมัวนั่งตบยุงกันอย่างเดียวทำไม

กินของไทย ใช้ของไทย เที่ยวเมืองไทยกันสิครับ