ตะลุยฟิลิปปินส์ (ตอนจบ) Goodbye Manila

ตะลุยฟิลิปปินส์ (ตอนแรก) 60 ปี “ซีเกมส์” จาก SEAP 1959 ถึง SEA 2019
ตะลุยฟิลิปปินส์ (ตอนที่ 2) จาก “กีฬาแหลมทอง” ถึง “ซีเกมส์”

ตามที่ให้สัญญาไว้ ว่าเราจะไปตะเวนเมืองหลักของ “ฟิลิปปินส์” เจ้าภาพจัดการแข่งขัน “ซีเกมส์ ครั้งที่ 30” และแวะไปดูสถานที่ท่องเที่ยวของเมืองต่างๆ ที่ใช้จัดการแข่งขันกันครับ เพื่อกล่าวคำอำลา “ซีเกมส์” กันเป็นการส่งท้ายครับ

มหกรรมการแข่งขันกีฬา “ซีเกมส์ ครั้งที่ 30” ที่ “ฟิลิปปินส์” เป็นเจ้าภาพในครั้งนี้ นับเป็นการฉลองครบรอบ “60 ปี ซีเกมส์” กันไปด้วยในตัวครับ

เพราะนับตั้งแต่การก่อกำเนิดมหกรรมการแข่งขันจาก SEAP Games เมื่อปี ค.ศ. 1959 มาจนกระทั่งถึง SEA Games ในปี ค.ศ. 2019 นี้จึงถือเป็นการฉลองครบรอบ “60 ปี ซีเกมส์” นั่นเอง

“ซีเกมส์ ครั้งที่ 30” ที่ “ฟิลิปปินส์” เป็นเจ้าภาพในครั้งนี้ ได้เปิด 3 เมืองใหญ่เพื่อใช้เป็นสนามหลักในจัดการแข่งขัน อันประกอบไปด้วย Clark City และเมืองหลวงคือกรุง Manila รวมถึง Subic

Clark City มี Landmark สำคัญคือสวนสาธารณะ Nayong ซึ่งมีมูลนิธิ Nayong Pilipino Foundation หรือ NPF เป็นเจ้าของ

Nayong

สวน Nayong มีชื่อเสียงจากการเป็น “สวนสนุกทางวัฒนธรรม” โดยดำริของอดีตประธานาธิบดี “กลอเรีย มาคาปากัล อาร์โรโย” ซึ่งเกิดขึ้นจากการบูรณะปฏิสังขรณ์ Old Nayong Pilipino หรือ “สวนวัฒนธรรมดั้งเดิม” ของ Clark City ครับ

เราขอข้ามจาก Clark City เข้าสู่เมืองหลวง คือกรุง Manila กันครับ

และแน่นอนครับ มา Manila ก็ต้องไปเยือน San Agustin Church โบสถ์คาทอลิกแห่งแรกบนเกาะลูซอน ได้รับการสร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1571 เพื่อเฉลิมฉลองชัยชนะในสงครามระหว่างสเปนกับฟิลิปปินส์ ตั้งชื่อตามนักบุญ Agustin ผู้มีชีวิตอยู่ระหว่างปี ค.ศ. 354 – ค.ศ. 450

San Agustin Church หลังแรกนั้น สร้างจาก “ไม้ไผ่” และ “ใบจาก” ในปี ค.ศ 1571 แต่ถูกไฟไหม้ไปในเดือนธันวาคม ปี ค.ศ. 1574 San Agustin Church หลังที่สองจึงได้รับสร้างขึ้นด้วยไม้บนพื้นที่เดิม แต่แล้วก็ถูกไฟไหม้อีกในเดือนกุมภาพันธ์ ปี ค.ศ 1583 San Agustin Church หลังที่สามจึงก่อสร้างด้วยหิน โดยเริ่มในเดือนมิถุนายน ปี ค.ศ. 1586 จะแล้วเสร็จสมบูรณ์เมื่อเดือนมกราคม ปี ค.ศ. 1607

San Agustin Church มีความสวยงามและคลาสสิกมาก จนกระทั่ง UNESCO ได้ขึ้นทะเบียน San Agustin Church ให้เป็น “มรดกโลก” เมื่อปี ค.ศ.1993 ซึ่งถือว่า “เหมาะสมด้วยประการทั้งปวง” จากประวัติศาสตร์ San Agustin Church ที่ยาวนานมากกว่า 400 ปี

โดยเฉพาะความวิจิตรประณีตบรรจงกับงานด้านสถาปัตยกรรมนั่นเองครับ

และแล้ว ก็ถึงเวลาอำลา “ฟิลิปปินส์” กันด้วย การนำทางไปสู่ Fort Santiago of Manila

Fort Santiago of Manila

Fort Santiago of Manila ป้อมปราการที่สำคัญที่สุดของกรุง Manila จัดสร้างขึ้นเพื่อเป็นอนุสรณ์ในการน้อมรำลึกถึง José Rizal วีรบุรุษของชาว “ฟิลิปปินส์” ทั้งมวล

Fort Santiago of Manila ที่สร้างขึ้นตั้งแต่คริสตศตวรรษที่ 16 ตั้งอยู่บนเนินสูงบริเวณปากแม่น้ำ Pasig นอกจากจะเป็น “ป้อมค่าย” ทั้งหอสังเกตการณ์ และติดตั้งอาวุธยุทโธปกรณ์สำหรับการป้องกันประเทศแล้ว Fort Santiago of Manila ยังเคยเป็นทั้งฐานทัพ และเป็นทั้งคุกคุมขังนักโทษอีกด้วย

โดยเฉพาะในช่วงช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ที่ญี่ปุ่นได้ทำการยึด Fort Santiago of Manila แห่งนี้ แล้วแปลงเป็นที่คุมขังและประหารนักโทษในห้องใต้ดิน

ประตูใหญ่ด้านหน้าของ Fort Santiago of Manila นั้น ได้รับการบูรณะขึ้นมาใหม่หลังจากถูกทำลายในช่วงสุดท้ายของสงครามโลกครั้งที่ 2 โดยด้านบนขื่อเป็นแผ่นไม้แกะสลักรูปนักบุญ James The Great บนหลังม้า นักบุญผู้คุ้มครองสเปน

นอกจาก Fort Santiago of Manila จะสร้างขึ้นเพื่อ รำลึกถึง José Rizal วีรบุรุษของชาว “ฟิลิปปินส์” ยังมีการก่อสร้าง Rizal Shrine เพื่อเป็นอนุสรณ์แห่งชีวิตของท่านอีกด้วย

เหตุผลหลักก็คือ José Rizal คือผู้นำขบวนการปลดแอกฟิลิปปินส์ออกจากการเป็นอาณานิคมของสเปนนั่นเองครับ

ภายใน Fort Santiago of Manila และ Rizal Shrine มีการจัดแสดง งานศิลปะ หนังสือ คัมภีร์ เสื้อผ้า ของ José Rizal อีกทั้งยังมี “โกฐิแก้ว” บรรจุกระดูก José Rizal ที่ยังคงมีกระสุนฝังอยู่นั่นเองครับ!

Hi-Light ของ Fort Santiago of Manila คือการเดินชมนกชมไม้ ในสวนเขตร้อนบริเวณรอบ “ป้อม” Fort Santiago of Manila ครับ

เดินทางไป Fort Santiago of Manila แห่งนี้ มีความสะดวกง่ายดาย ไม่ว่าจะทางรถแท็กซี่ รถประจำทาง หรือรถสองแถว ซึ่งสามารถโบกได้ทุกที่ทุกเวลา

นอกจากนี้ยังนั่งรถรางมาลงที่สถานี United Nations ได้อีกด้วย และเดินไปยัง Fort Santiago of Manila ได้โดยใช้เวลาเพียง 20 นาทีเท่านั้นครับ