You are number one: GoPro sport camera

ชั่วโมงนี้ นักกีฬา Extreme ทั่วทุกมุมโลก ไม่มีใครที่ไม่รู้จักกล้อง GoPro อีกแล้ว

GoPro คือกล้องถ่ายภาพนิ่งระบบดิจิทัล และวิดีโอ แบบมีเข็มขัดรัดในตัว สามารถคาดกล้องกับส่วนต่างๆ ของร่างกายและอุปกรณ์กีฬาอื่นๆ ได้อย่างสะดวกครับ

ทุกวันนี้ GoPro ได้ถูกนำไปใช้ในหลายวงการ ไล่ตั้งแต่ วงการกีฬา Extreme ไม่ว่าจะเป็นสกีผาดโผน สเก็ตบอร์ด โรลเลอร์เบลด จักรยานเสือภูเขา ดำน้ำ กระดานโต้คลื่น วินด์เสิร์ฟ เรือใบ

ไปจนกระทั่งการจ๊อกกิ้ง กระโดดร่ม ดิ่งพสุธา บอลลูน เครื่องบินเล็ก ฯลฯ

ความฮิตของกล้อง GoPro ก็เหมือนกับความพิเศษสุดที่แตกต่างซึ่งคนทั่วไป 99% บนโลกใบนี้ไม่สามารถทำได้

นั่นก็คือ การเล่นกีฬา Extreme ที่น้อยคนนักจักได้มีโอกาสสัมผัส ผมเชื่อว่า ในบ้านเรา หลายคนคงไม่คุ้นเคยนักกับภาพการเล่นสกีบนเนินเขาสูง หรือการมุดขึ้นมุดลงผ่านเกลียวคลื่นขนาดยักษ์ และมุมมองแบบเหยี่ยวถลาลมจากการดิ่งพสุธา

กล้อง GoPro ได้ตอบโจทย์นี้ครับ

แวดวงอื่นๆ นอกจากวงการกีฬา Extreme ก็มีการใช้กล้อง GoPro เหมือนกัน อาทิ อเมริกันฟุตบอล NFL ที่ติดตั้ง GoPro ไว้รอบเสา End Zone เพื่อรีเพลย์ภาพทัชดาวน์

หรือคนปู่หนังเหนียวแห่งวงดนตรี The Rolling Stone ที่มักอินเทรนด์กับเด็กๆ เสมอก็ใช้ GoPro ถ่ายทอดมุมมองของชาวคณะบนเวทีออกทางจอโปรเจกเตอร์ในคอนเสิร์ต

และผู้กำกับพันล้าน Michael Bay หรือผู้กำกับ Indy ฝุดๆ Danny Boyle และ Christopher Nolan ผู้กำกับที่กลายเป็นตำนานไปแล้วก็กำลังทดลองถ่ายหนังด้วยกล้อง GoPro เช่นกัน

จะเห็นได้ว่า ปัจจุบัน กล้อง GoPro ไปไกลกว่าจุดกำเนิดของมันมากมายนัก

เพราะแรงบันดาลใจของผู้สร้าง GoPro คือ Nicholas “Nick” Woodman เจ้าของ Woodman Labs ผู้ผลิตกล้อง GoPro ซึ่งเป็นนักโต้คลื่นตัวยง อยากได้รูปถ่ายและภาพวิดีโอสวยๆ ขณะเล่นกระดานโต้คลื่นมาอวดเพื่อนๆ

Nick จึงเอาสายรัดข้อมือมาผูกติดกับกล้องดิจิทัลแบบกันน้ำ ออกไปลุยโล้คลื่นกลางทะเล และบันทึกภาพมุมแปลกใต้คลื่นยักษ์!

ก่อนพัฒนามาเป็นกล้อง GoPro ที่กำลังดังก้องโลกอยู่ในปัจจุบัน Nicholas Woodman ก็เหมือนกับ Billionaire คนอื่นๆ ที่ล้มลุกคลุกคลาน กว่าจะประสบความสำเร็จ

Nicholas “Nick” Woodman เจ้าของ Woodman Labs ผู้ผลิตกล้อง GoPro

ขณะอายุ 27 ปี Nick เคยสร้างเกมออนไลน์ FunBug ออกขาย ในยุค Dot.Com เฟื่องฟูเมื่อต้นทศวรรษที่ 2000 ก่อนจะขาดทุนย่อยยับ ล่มสลายไปพร้อมอาณาจักรธุรกิจ Dot.Com ในช่วงนั้น

เขาจึงคลายเครียดด้วยการออกไปเล่นกระดานโต้คลื่นกับเพื่อนฝูง จนกระทั่งปิ๊งไอเดียถึงความต้องการรูปสวยๆ ในมุมมองของนักโต้คลื่นมาอวดต่อสายตาชาวโลก

จึงเป็นประวัติศาสตร์จุดเริ่มต้นการกำเนิดของกล้อง GoPro ดังที่กล่าวไป

ก่อนจดสิทธิบัตร GoPro และก่อนที่ Nicholas “Nick” Woodman จะกลายเป็นเศรษฐีพันล้าน 100 อันดับแรกของนิตยสาร Forbes เขาได้ลองผิดลองถูก และทุ่มเทแรงกายแรงใจให้กับการสร้างกล้อง GoPro มานับครั้งไม่ถ้วน

เริ่มจากการนำสายหนังบังเหียนม้าเก่าๆ มาตัดแล้วมัดกับกล้องเอามาผูกไว้ที่หน้าอก หรือจะเป็นการนำสายยางยืดมาร้อยหูกล้องกับรัดไว้กับข้อมือ แม้จะ Work ในช่วงทดลองอยู่บนบก หากเมื่อนำลงไปโต้คลื่นมุดน้ำของจริง กล้องก็ถูกกระแทกจะแตกเป็นชิ้นๆ

จากนั้น Nick ลองเอาชุดดำน้ำมาตัดเป็นริ้วๆ คล้ายเชือก และหาซื้อกล้องกันกระแทก กันน้ำ และทนแรงดันสูงมา Modify เข้าด้วยกัน งานนี้ต้องใช้ทั้งสว่าง ทั้งตาไก่ และใช้น็อตยึดกล้องกับเศษผ้าประดาน้ำและริสแบนด์ แต่มันก็ยังไม่ Work นัก

จนกระทั่ง Nicholas Woodman ได้ท่องเว็บไปเจอบริษัทรับผลิตกล้องกันกระแทก Hotak ในประเทศจีน เขาจึงทำการสั่งผลิตโดยส่งต้นแบบกล้อง GoPro และตัวอย่างวัสดุที่เขาต้องการคือ Case กันพลาสติกกันน้ำ พร้อมโอนเงิน 5,000 เหรียญไปยังเซี่ยงไฮ้

อีกไม่กี่สัปดาห์ถัดมา Hotak ก็ส่งกล้องต้นแบบ Extreme 3D ตามสเป็กที่ Nicholas Woodman กำหนดไปกลับมาให้

และในเดือนถัดมา ธุรกิจกล้อง GoPro ของ Nick ก็ถือกำเนิดขึ้น ด้วยการวางจำหน่าย GoPro รุ่นแรกในงานขายอุปกรณ์ผาดโผนที่ San Diego เมื่อ ค.ศ.2004

ผลปรากฏว่า GoPro ทำรายได้มากถึง 350,000 ดอลลาร์ในปีนั้นเอง!

และผ่านมาถึงปี 2013 หรือ 10 ปีให้หลัง มูลค่าของ GoPro ทำเงินให้ Nicholas “Nick” Woodman ได้ 1,000 ล้านเหรียญ!

งานนี้ “ผู้มาก่อน” ในตลาด “กล้อง Action” หรือ “กล้อง Extreme” อย่าง iON ถึงกับตาค้าง และผู้นำในตลาดกล้องคอมแพคอย่าง Sony ก็ต้องมองตาปริบๆ เลยทีเดียว เพราะนอกจาก GoPro จะกลายเป็น “ผู้นำเดี่ยว” ใน ตลาด “กล้อง Action” และ “กล้อง Extreme” แล้ว GoPro ยังสามารถใช้ถ่ายรูปธรรมด๊าธรรมดาเหมือนที่กล้องคอมแพคทั่วๆ ไปทำได้อีกด้วยครับ