สมาคมกอล์ฟเตรียมส่งทีมชาติสู้ 2 ศึกใหญ่ปีนี้

“บิ๊กรัง” รังสฤษดิ์ ลักษิตานนท์ นายกสมาคมกีฬากอล์ฟฯ เดินหน้าจัดแข่งขันในประเทศเพื่อพัฒนานักกอล์ฟเยาวชนเต็มที่ หลังจากการแข่งขันในระดับนานาชาติได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19

เมื่อวันที่ 31 มี.ค.2564 ที่โพธาลัย เลเชอร์ ปาร์ค มีการประชุมใหญ่สามัญประจำปีของสมาคมกีฬากอล์ฟแห่งประเทศไทยฯ (สกท.)  โดยมีนายรังสฤษดิ์ ลักษิตานนท์ นายกสมาคมกีฬากอล์ฟแห่งประเทศไทยฯ (สกท.) และกรรมการส่งเสริมพัฒนาทีมชาติ เป็นประธานในที่ประชุม

ทั้งนี้ ในงานยังได้มีการแนะนำกรรมการกลางคนใหม่ คือ ร.ท.ณัยณพ ภิรมย์ภักดี ซึ่งเป็นผู้บริหารของ บริษัท บุญรอดบริวเวอรี่ จำกัด และยังเป็นผู้ก่อตั้งสถาบันกอล์ฟพ๊อยเซ็นเตอร์ ที่อาคารสิงห์คอมเพล็กซ์ ซึ่งใช้เทคโนโลยี “แทร็คแมน4” ที่ทันสมัยที่สุด เป็นระบบใช้ 2 เรดาร์ จับความเคลื่อนไหว (Dual Radar Technology) ระหว่างหัวไม้ และลูกกอล์ฟ รวมถึงมีกล้องเอชดี (HD) ในการจับความเคลื่อนไหวต่าง ๆ ซึ่งจะได้ค่าข้อมูลต่างๆครบถ้วนแม่นยำ ช่วยในการปรับปรุงพัฒนาวงสวิงให้ถูกจุด ซึ่งจะนำมาใช้ในการพัฒนานักกอล์ฟทีมชาติไทยในอนาคต

ส่วนงบดุลประจำปี นายสุชาติ โชคชัยกตัญญู เหรัญญิกสมาคมฯ  รายงานว่าสมาคมมีรายได้ 36,396,124.41 บาท ค่าใช้จ่าย 24,587,393.33 บาท ทำให้ปีนี้สมาคมมีรายได้สูงกว่าค่าใช้จ่าย 11,808,731.08 บาท

“บิ๊กรัง” รังสฤษดิ์ ลักษิตานนท์ นายกสมาคมกีฬากอล์ฟแห่งประเทศไทยฯ

“บิ๊กรัง” รังสฤษดิ์ ลักษิตานนท์ กล่าวว่า แม้ว่าแมตช์การแข่งขันในต่างประเทศจะถูกยกเลิก แต่ทางสมาคมจะพยายามเพิ่มแมตช์การแข่งขันในประเทศ เพื่อให้นักกอล์ฟได้ฝึกซ้อมแข่งขันและพร้อมอยู่เสมอ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง นักกอล์ฟทีมชาติไทยที่ได้เก็บตัวมาอย่างต่อเนื่อง

โดยสมาคมได้เชิญอดีตนักกอล์ฟทีมชาติที่ปัจจุบันเทิร์นโปรและประสบความสำเร็จในอาชีพ มาร่วมแข่งขันกับทีมชาติชุดปัจจุบัน เพื่อเรียนรู้วิธีการเล่นจากรุ่นพี่ พร้อมกับการใช้เทคโนโลยีมาช่วยในการพัฒนาวงสวิง

นอกจากนี้ในเดือนมิถุนายนนี้ สมาคมกอล์ฟฯ เตรียมส่งนักกีฬาไปป้องกันแชมป์โนมูระคัพ ที่เขตปกครองพิเศษฮ่องกงด้วย ซึ่งเป็นการป้องกันแชมป์ครั้งแรกหลังสร้างประวัติศาสตร์คว้าแชมป์ได้เป็นครั้งแรกในปี 2560 รวมถึงเตรียมทีมสำหรับ ซีเกมส์ ครั้งที่ 31 ที่จะจัดขึ้นในปลายปีนี้ ที่เวียดนามด้วย