คะแนนอย่างไม่เป็นทางการ (นับแล้ว 93%) จาก กกต.
เมื่อเวลา 23.21 น. ของวันที่ 24 มี.ค. 2562 คะแนนอย่างไม่เป็นทางการ (นับแล้ว 93%) จากกกต. สรุป 5 อันดับพรรค ได้แก่ เพื่อไทย 7.3 ล้านคะแนน (ส.ส.รวม 129), พลังประชารัฐ 7.5 ล้านคะแนน (ส.ส.รวม 118), อนาคตใหม่ 5.2 ล้านคะแนน (ส.ส.รวม 78), ภูมิใจไทย 3.3 ล้านคะแนน (ส.ส.รวม 52) และประชาธิปัตย์ 3.2 ล้านคะแนน (ส.ส.รวม 50) ตามลำดับ ทั้งนี้ พ.ต.อ.จรุงวิทย์ ภุมมา เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) แจ้งกับสื่อมวลชนว่าจะมีการแถลงข่าวสรุปการลงคะแนนเลือกตั้ง ส.ส. อย่างไม่เป็นทางการ ณ ห้องแถลงข่าว ชั้น 2 สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ กรุงเทพฯ ในวันนี้ 25 มี.ค. 2562 เวลา 14.00 น. โดยการนัดหมายแถลงผลสรุปคะแนนนี้ เป็นการเลื่อนจากเดิมที่นัดหมายไว้ก่อนหน้านี้ในเวลา 10.00 น.
“อภิสิทธิ์” แถลงลาออกจากหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์
เมื่อวันที่ 24 มีนาคม 2562 เวลา 21.47 น. นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิตย์ แถลงจุดยืนหลังทราบผลคะแนนอย่างไม่เป็นทางการว่า “ขอบคุณประชาชนที่ได้ไปใช้สิทธิเลือกตั้ง มีส่วนร่วมประชาธิปไตย และขอบคุณผู้มอบคะแนนเสียงให้กับพรรคประชาธิปัตย์ บัดนี้แม้ว่าผลการนับคะแนนยังไม่เป็นที่ยุติ แต่เป็นที่แน่ชัดว่าผลการเลือกตั้งไม่ได้เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ ผมต้องขอโทษผู้สนับสนุนพรรคประชาธิปัตย์ทุกคนที่ไม่สามารถผลักดัน แนวคิดของเราให้ประสบความสำเร็จในการเลือกตั้งครั้งนี้ได้” ในจังหวะนี้ผู้สนับสนุนพรรคต่างปรบมือ นายอภิสิทธิ์ กล่าวต่ออีกว่า “ขออภัยเพื่อนๆ ร่วมอุดมการณ์หลายคนที่ตั้งใจมุ่งมั่นที่จะเป็นนักการเมืองคุณภาพทั้ง อดีต ส.ส. และคนมาสมัครเป็นครั้งแรกที่เป็นคนรุ่นใหม่ จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมด ผมต้องแสดงความรับผิดชอบ ผมขอลาออกในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ตั้งแต่บัดนี้”
นิด้าโพล เปิดโพลจับขั้วรัฐบาลหลังเลือกตั้ง “เพื่อไทย+อนาคตใหม่” มาวิน
นิด้าโพล เปิดเผยผลสำรวจความคิดเห็นของประชาชน ในประเด็น “การจับขั้วรัฐบาลหลังการเลือกตั้ง” จากกลุ่มตัวอย่างจำนวน 1,253 คน เพื่อสอบถามเกี่ยวกับการจับขั้วรัฐบาลหลังการเลือกตั้ง โดยพรรคการเมืองที่ประชาชนอยากให้ร่วมกันจัดตั้งรัฐบาล พบว่า ประชาชนส่วนใหญ่ ร้อยละ 25.78 ระบุว่าเป็น “พรรคเพื่อไทย กับ พรรคอนาคตใหม่” รองลงมา ร้อยละ 15.40 ระบุว่าเป็น “พรรคประชาธิปัตย์ กับ พรรคพลังประชารัฐ” ส่วนคำถามที่อยากให้พรรคการเมืองพรรคเดียวจัดตั้งรัฐบาล พบว่า ในจำนวนของผู้ที่ระบุว่าเป็น “พรรคเพื่อไทย” ส่วนใหญ่ ร้อยละ 3.11 ระบุว่า อยากให้เป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล ขณะที่ ร้อยละ 2.00 ระบุว่า ไม่อยากให้จับขั้วกับใคร
สรุปพบกระทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง หลังปิดหีบรวม 49 คดี
หลังการปิดหีบเลือกตั้งทั่วประเทศ พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการรักษาความปลอดภัยและความสงบเรียบร้อย การจัดการเลือกตั้งสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ประชุม Video Conference กับตำรวจทั่วประเทศ ระบุได้รับรายงานล่าสุดเมื่อวันที่ 24 มีนาคม 2562 เวลา 18.00 น. พบการทำผิดกฏหมายเลือกตั้ง ในส่วนที่ตำรวจรับเป็นคดีซึ่งเป็นความผิดที่เกิดขึ้นนอกคูหาเลือกตั้ง จำนวน 49 คดี ใน 7 ความผิด ได้แก่ ฉีกบัตรเลือกตั้ง 27 คดี ผู้กระทำผิดส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุ ก่อเหตุเพราะเมาสุรา วิกลจริต หรือรู้เท่าไม่ถึงการณ์, ซื้อเสียง 4 คดี, ขายเสียง ใส่ความ อย่างละ 1 คดี, จำหน่ายสุรา 6 คดี, เซลฟี่ในคูหาเลือกตั้ง 3 คดี และ ก่อกวน 7 คดี อย่างไรก็ตามในส่วนของคดีซื้อเสียง ซึ่งเป็นคดีจับกุมระหว่าง กกต. เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง และ ทหาร หากกกต. ไม่รับสำนวนไปดำเนินการ ตำรวจจะพิจารณาดำเนินการตามขั้นตอน
โซเชียลดันแฮชแท็ก #วิกฤตฝุ่นเชียงใหม่ ค่ามลพิษพุ่งลั่นจะตายกันหมดแล้ว
จากการตรวจสอบในเว็บไซต์ airvisual.com ล่าสุดเมื่อวันที่ 24 มีนาคม 2562 เวลา 15.00 น. พบว่า หลายอำเภอของ จ.เชียงใหม่ คุณภาพอากาศเข้าขั้นวิกฤตมาก อ.แม่ริม ค่า AQI พุ่งสูงถึง 406 ถือเป็นตัวเลขที่น่าตกใจมาก ขณะเดียวกัน ในทวิตเตอร์ แฮชแท็ก #วิกฤตฝุ่นเชียงใหม่ กำลังเป็นที่พูดถึงจนติดเทรนด์ หวังผลักดันให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งดำเนินการแก้ไขอย่างด่วนที่สุด เพราะถือเป็นสถานการณ์อันตรายต่อสุขภาพประชาชนอย่างยิ่ง แม้อยู่ในบ้านหลายคนยังมีอาการแสบตา แสบจมูก หายใจไม่สะดวก บางรายอาการหนักถึงขั้นเลือดออกจมูกเลยทีเดียว นอกจากนี้ไม่ใช่เพียงจังหวัดเชียงใหม่เท่านั้นที่อากาศแย่เข้าขั้นวิกฤต หลายจังหวัดในภาคเหนือ อาทิ แม่ฮ่องสอน และ เชียงราย ดัชนีคุณภาพอากาศ หรือ ค่า AQI ก็พุ่งสูงจนระดับการเตือนเป็นสีม่วงเช่นเดียวกัน
