สำหรับแฟนเพลงชาวไทยนั้น หากถามว่ารู้จักวงดนตรีไอริชวงไหนกันบ้าง หลายๆคนก็อาจจะตอบเป็นเสียงเดียวว่า “U2” แต่วงชื่อดังอีกหนึ่งวง ซึ่งเป็นขวัญใจของแฟนเพลงวัยรุ่นที่ Tonkit360 อยากจะมานำเสนอในวันนี้นั้น ก็คือวงอย่าง The Script ที่นำมาโดยนักร้องเสียงดีอย่างแดนนี่ โอโดโนฮิว (Danny O’Donoghue) (คนกลางในภาพ) และพวกเขาก็จะมาเปิดคอนเสิร์ตที่เมืองไทยกันในช่วงปลายเมษายนนี้อีกด้วยนะ
เพื่อเป็นการเรียกน้ำย่อย และทำความรู้จักผลงานของสามหนุ่มวงนี้ วันนี้ Tonkit360 จะมาแนะนำ 7 บทเพลงดังของ The Script ที่คุณอาจจะรู้จัก (หรือไม่รู้จัก) กัน บอกเลยว่าถ้าใครชอบเพลงรักๆ อกหักๆ เนี่ย จะต้องชอบเพลงของพวกเขาอย่างแน่นอน แต่เราจะมาแนะนำเพลงไหนกันบ้าง อันนี้ก็ต้องอ่านต่อกันเลย!
The Man Who Can’t Be Moved
เพลงนี้ถือเป็นซิงเกิลที่สองของวงนี้ และน่าจะเป็นเพลงแรก ที่พาวงจากเมืองดับลินวงนี้ ขึ้นมาอยู่ในสายตาของคนทั่วโลกมากขึ้น โดยเพลงนี้เล่าถึงผู้ชายที่รอแฟน อยู่ที่มุมถนนแห่งหนึ่ง และในเพลงก็เล่าว่า เขาจะรอผู้หญิงคนนี้ไปตลอดกาล และจะไม่ขยับไปไหนจนกว่าเขาจะได้พบกับเธออีกครั้ง
Breakeven
ถัดจากเพลง The Man Who Can’t Be Moved ก็มาต่อที่เพลงอย่าง Breakeven ที่มาเป็นซิงเกิลที่ 3 ของอัลบั้มเปิดตัวของวง (อัลบั้มชื่อ The Script) เนื้อหาของเพลงก็ยังอยู่ที่เรื่องอกหักๆ อยู่ โดยเพลงเล่าถึงความทรมานใจของชายที่ถูกผู้หญิงบอกเลิก โดยมีเนื้อเพลงเริ่มต้นด้วยคำว่า “What am I suppose to say when I’m all choked up and you’re OK” หรือแปลว่า “จะให้ฉันพูดอย่างไรเมื่อฉันแทบจะพูดไม่ได้ แต่เธอยังดูโอเคดีอยู่” โดยเพลง Breakeven นั้นถือเป็นหนึ่งในเพลงที่ดังที่สุดเพลงหนึ่งของวง The Script เลยก็ว่าได้ เพราะก็ถือว่าเคยโลดแล่นอยู่ในชาร์ตของคลื่นวิทยุเพลงสากลในเมืองไทย เมื่อ 10 กว่าปีก่อนด้วย
For The First Time
เมื่อออกอัลบั้มที่ 2 มาอย่าง Science & Faith เพลงที่ถือเป็นซิงเกิลแรก ที่ต่อยอดความสำเร็จของอัลบั้มประเดิมของวง ก็คือเพลง For The First Time ที่มีทีเด็ดอยู่ที่มิวสิค วิดีโอ เพราะได้ลูกสาวของ “โบโน่” นักร้องนำชื่อดังของวงไอริชรุ่นพี่อย่าง U2 มาร่วมแสดงเป็นนางเอกในเอ็มวีด้วย โดยเนื้อเพลงนี้มีคอนเซ็ปต์ว่า คนเรามักจะเจอกับ “คนที่ใช่” ในเวลาที่ผิดแปลก และในเวลาที่เหมือนตกต่ำมากที่สุดครั้งหนึ่งในชีวิต
Hall of Fame
ถือเป็นอีกหนึ่งบทเพลงที่ทำให้ The Script มีชื่อเสียงไปทั่วโลก เพราะเพลงนี้ ซึ่งเป็นเพลงซิงเกิลนำของอัลบั้มที่ 3 ของวง The Script นั้น ได้นักร้องนำของวง Black Eyed Peas อย่าง will.i.am มาร่วมแจมด้วย โดยมีเนื้อหาปลุกใจชวนให้หลายๆคนเชื่อมั่นในตัวเอง ให้ทำตามความฝัน ว่าหากเราพยายามทำอะไร เราก็จะประสบความสำเร็จได้ และจะสำเร็จมากจนมีชื่อขึ้นทำเนียบแห่งความสำเร็จ หรือ Hall of Fame นั่นเอง
เพลงนี้ถือว่าประสบความสำเร็จมาก เพราะนับถึงวันนี้ เพลง Hall of Fame ก็ยังเป็นเพลงที่มีคนเข้าไปฟังมากที่สุดใน YouTube อย่างเป็นทางการของวงด้วย
Superheroes
มาถึงในอัลบั้มที่ 4 ที่มีชื่อว่า No Sound Without Silence นั้น ก็เพลงซิงเกิลแรกของอัลบั้มอย่าง Superheroes มาเอาใจแฟนเพลงทั่วโลก โดยเพลงนี้นั้น แดนนี่ โอโดโนฮิว ที่เป็นคนแต่งเพลงนั้น บอกว่าเขาแต่งเพลงนี้ให้กับวีรบุรุษของโลก ที่อาจจะไม่ได้รับคำชมมากเท่าที่ควร และยังเป็นเพลงที่ให้กำลังใจกับคนที่กำลังตกที่นั่งลำบากในชีวิต ว่าให้เข้มแข็ง และหันมาสู้กับชีวิต โดยมีประโยคเด็ดว่า “A heart of steel starts to grow” ที่แปลว่า “หัวใจเหล็กที่กำลังเติบโตขึ้น”
Rain
หลังจากที่เขียนเพลงดังเป็นเพลงปลุกใจบ้าง เพลงสรรเสริญบ้างอยู่พักใหญ่ ในอัลบั้มใหม่ล่าสุด ซึ่งเป็นอัลบั้มที่ 5 อย่าง Freedom Child ที่พวกเขาจะมาทัวร์คอนเสิร์ตในไทยครั้งนี้ ก็มีเพลงดัง สไตล์อกหักมาเป็นซิงเกิลหลัก โดยเพลง Rain เพลงนี้ ที่ท่อนฮุคที่เล่าว่าหลังจากที่ผู้หญิงนั้นเลิกกับเขาไป ฝนก็ตกอยู่ตลอดเวลาพร้อมกับความเจ็บปวดของเขา ถือเป็นซิงเกิลแรกที่ถูกปล่อยออกมาในอัลบั้มนี้
Arms Open
เพลง Arms Open นั้นถือเป็นอีกหนึ่งเพลงที่เจาะถึงการใช้ชีวิต ซึ่งในมิวสิค วิดีโอของเพลงนั้นเป็นการร่วมงานกับองค์กรอย่าง A Sense of Home ที่พยายามช่วยเหลือเด็กที่ไร้ที่อยู่ แต่มีอายุเกินที่สถานสงเคราะห์เด็กกำพร้าจะรับได้ ซึ่งองค์กรนี้มีเป้าหมายที่จะสร้างบ้านให้เด็กเหล่านี้ โดยคำว่า Arms Open ที่แปลว่าการ “อ้าแขน” นั้นเหมือนเป็นการสื่อว่า “เราจะรับเด็กทุกๆคนที่เผชิญกับปัญหาชีวิตมาเลี้ยงดู” และเปิดรับทุกๆคนด้วย เรียกได้ว่าเป็นมิวสิค วิดีโอ และเพลงที่มีเนื้อหาลึกซึ้งพอควร (แถมเพลงก็เพราะด้วยนะ)
หากใครตัดสินใจจะไปชมคอนเสิร์ตของสามหนุ่มวง The Script จะต้องได้ชมเพลงเหล่านี้ ไม่มากก็น้อย กันสดๆอย่างแน่นอน!
