ตรวจสอบ “คำราชาศัพท์” ก่อนใช้งาน สำคัญอย่างไร

หากพูดถึง “คำราชาศัพท์” หลายคนน่าจะเคยมีภาพจำจากสมัยเรียนว่าเป็นบทเรียนที่เข้าใจยาก จำยาก เขียนก็ยาก แถมยังมีหลักการใช้งานที่ชวนสับสนไม่น้อย ซึ่งเชื่อได้เลยว่าบางคนจะต้องเคยตั้งคำถามในใจกับตัวเองด้วยว่าจะต้องเรียนเรื่องการใช้คำราชาศัพท์ไปทำไม เพราะมันเป็นเรื่องที่ค่อนข้างไกลตัว และไม่ใช่คำที่จะนำมาใช้งานจริงในชีวิตประจำวันปกติด้วย ดังนั้น นอกจากทำข้อสอบสมัยเรียนไม่ได้แล้ว การใช้คำราชาศัพท์ไม่เป็นหรือใช้ไม่ถูกต้องก็ดูจะไม่ใช่ปัญหาอะไรมากมาย

นั่นทำให้เมื่อเราจำเป็นต้องใช้คำราชาศัพท์ตามโอกาส หลายคนใช้คำราชาศัพท์ไม่เป็น หรือใช้ไม่ถูกต้องตามหลักการ คนส่วนใหญ่จะใช้ตามที่เห็น ๆ คนอื่นเขาใช้กันแล้วนำมาใช้บ้าง ไม่ก็ใช้ตามความเข้าใจเดิมของตัวเองทั้งที่ไม่รู้ว่าใช้ถูกหรือใช้ผิด นั่นทำให้เกิดความเข้าใจที่คลาดเคลื่อน รวมถึงมีการใช้คำผิดระดับตามอิสริยศักดิ์ด้วย ดังนั้น ก่อนที่จะใช้คำราชาศัพท์ จึงควรตรวจสอบความถูกต้องก่อน นี่เป็นเรื่องที่ค่อนข้างสำคัญและจำเป็น

คำราชาศัพท์ คืออะไร

คำราชาศัพท์ คือ ถ้อยคำที่ใช้สำหรับพระมหากษัตริย์ ตลอดจนพระบรมวงศานุวงศ์ และสมเด็จพระสังฆราช แต่อีกนัยหนึ่ง คำราชาศัพท์ จะหมายรวมถึงคำศัพท์ที่ใช้สำหรับพระภิกษุสงฆ์ และคำสุภาพที่สุภาพชนใช้สื่อสารอย่างเป็นทางการ เพื่อให้เหมาะสมกับโอกาสและฐานะของบุคคลต่าง ๆ

การใช้คำราชาศัพท์กับลำดับอิสริยศักดิ์

เพราะหัวใจหลักของการใช้คำราชาศัพท์ให้ถูกต้อง คือการคำนึงถึงและเข้าใจในระดับชั้นของบุคคลที่กำลังกล่าวถึงหรือสนทนาด้วย เพื่อใช้สามารถเลือกใช้ถ้อยคำที่เหมาะสมในการแสดงความเคารพและให้เกียรติอย่างสูงสุด ดังนั้น เราจึงควรต้องรู้จักกับ “ลำดับอิสริยศักดิ์” ในราชสกุลก่อน ซึ่งการใช้คำราชาศัพท์ก็จะแตกต่างกันไปตามลำดับขั้น โดยการแบ่งลำดับอิสริยศักดิ์ในการใช้คำราชาศัพท์ มีดังนี้

1. พระบาทสมเด็จ

  • พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทร มหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว
  • พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร

2. สมเด็จพระบรม

  • สมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พัชรสุธาพิมลลักษณ พระบรมราชินี
  • สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง
  • สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี

3. สมเด็จเจ้าฟ้า

  • สมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี
  • สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี
  • สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา
  • สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าทีปังกรรัศมีโชติ มหาวชิโรตตมางกูร สิริวิบูลยราชกุมาร
  • ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี

4. พระองค์เจ้า

  • พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี กรมหมื่นสุทธนารีนาถ
  • พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าสิริภาจุฑาภรณ์
  • พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอทิตยาทรกิติคุณ
  • สมเด็จพระสังฆราช (สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ)

5. หม่อมเจ้า เป็นลำดับชั้นสุดท้ายของพระบรมวงศานุวงศ์ที่จะมีการใช้คำราชาศัพท์

ทำไมเราถึงต้องใช้คำราชาศัพท์ให้ถูกต้อง

เพราะการใช้ “คำราชาศัพท์” ให้ถูกต้อง ไม่ใช่แค่เรื่องของหลักภาษาหรือมารยาทในการใช้ภาษา แต่ยังสะท้อนให้เห็นถึง “ความเข้าใจในระบบคุณค่าทางวัฒนธรรมไทย” ที่ลึกซึ้งของผู้ใช้ภาษาด้วย เนื่องจากคำราชาศัพท์เกิดขึ้นในบริบทของสังคมไทยที่มีลำดับชั้น โดยเฉพาะในราชสำนัก อีกทั้งยังมีความละเอียดอ่อนในการเลือกใช้คำให้เหมาะสมกับกาลเทศะและบุคคล ดังนั้น เหตุผลที่เราต้องใช้คำราชาศัพท์ใหู้กต้องจึงมีอยู่ด้วยกันหลายเหตุผล

1. “คำราชาศัพท์” เป็นการใช้ภาษาเพื่อแสดงความเคารพและให้เกียรติ ตามลำดับชั้นและสถานะทางสังคม

เนื่องจากคำราชาศัพท์เกิดขึ้นในบริบทของสังคมไทยที่มีลำดับชั้น โดยถูกกำหนดขึ้นเพื่อใช้ใหเหมาะกับชั้นหรือฐานะของบุคคล โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับ พระมหากษัตริย์ พระบรมวงศานุวงศ์ และพระสงฆ์ การใช้การใช้คำราชาศัพท์จึงเป็นวิธีหนึ่งในการแสดงความเคารพและให้เกียรติผู้ที่มีลำดับชั้นและสถานะทางสังคมสูงกว่า โดยการใช้คำราชาศัพท์ให้ถูกต้องและเหมาะสม ก็จะถือเป็นการแสดงออกซึ่งความเคารพนับถืออย่างสูงและให้เกียรติแก่บุคคลเหล่านั้นอย่างถูกต้องตามธรรมเนียมและวัฒนธรรมไทย ขณะเดียวกัน การใช้คำราชาศัพท์ผิด ๆ ถูก ๆ ใช้โดยไม่ตรวจสอบความถูกต้องก่อน ก็อาจถูกมองว่าไม่รู้กาลเทศะ หรือไม่ให้ความเคารพได้

2. การใช้คำราชาศัพท์ให้ถูกต้อง เป็นการธำรงรักษาขนบธรรมเนียมและอัตลักษณ์ทางภาษา

ภาษาไทยมีระบบคำที่แสดงฐานะและความสัมพันธ์ทางสังคมอย่างละเอียด ซึ่งถือเป็นเอกลักษณ์เฉพาะ และคำราชาศัพท์ก็เป็นมรดกทางภาษาที่มีใช้กันมาอย่างยาวนาน โดยสะท้อนถึงความละเอียดอ่อน และความพิเศษของภาษาไทยที่มีระดับภาษาหลายชั้น การรักษาไว้และใช้ให้ถูกต้อง จึงเป็นการช่วยธำรงรักษาและสืบสานความละเอียดอ่อนของภาษาไว้

3. เพื่อความถูกต้องในทางราชการและพิธีการ

แม้ว่าในชีวิตประจำวัน เราอาจจะไม่มีโอกาสได้ใช้คำราชาศัพท์บ่อยนัก แม้แต่คำสุภาพทั่วไปก็ไม่ยังไม่ค่อยได้ใช้ แต่คำราชาศัพท์ก็ไม่ได้ไกลตัวเราขนาดนั้น เรายังเห็นการใช้คำราชาศัพท์ผ่านข่าวหรือประกาศจากทางราชการอยู่บ่อย ๆ และเมื่อเราอาจจำเป็นที่จะต้องใช้คำราชาศัพท์ในบางโอกาส อย่างเช่นในเอกสารราชการ งานพิธี หรืองานที่เกี่ยวข้องกับสถาบัน การใช้คำราชาศัพท์ผิดอาจถือเป็นข้อผิดพลาดร้ายแรงได้ เพราะคำราชาศัพท์บางคำมีความหมายเฉพาะที่ใชบ้กับพระมหากษัตริย์เท่านั้น ไม่สามารถใช้กับบุคคลทั่วไปได้ การตรวจสอบก่อนใช้คำราชาศัพท์จะช่วยให้แน่ใจว่าได้เลือกใช้คำที่ถูกต้องตามลำดับชั้นและความหมาย เพื่อป้องกันความเข้าใจผิดหรือการใช้ที่ไม่เหมาะสม

4. เพื่อให้เกิดความเข้าใจที่ถูกต้อง

เพราะคำราชาศัพท์บางคำมีหลักการใช้ที่ซับซ้อน แต่ถ้าเข้าใจหลักการใช้แล้ว จะพบว่ามันไม่ได้ยาก เช่น การใช้คำว่า “ทรง” จะไม่ได้ใช้แบบนึกจะใช้ก็ใช้ แต่จะใช้นำหน้าคำกริยาสามัญเพื่อทำให้กลายเป็นราชาศัพท์ หรือการเลือกใช้คำนำหน้า “พระบรม” “พระราช” และ “พระ” จะใช้ตามลำดับอิสริยศักดิ์ ซึ่งถ้าหากใช้คำผิดหลักการ เช่น ใช้ “ทรงเสวย” แทน “เสวย” หรือใช้คำผิดระดับชั้น อาจทำให้เกิดความสับสนหรือคลาดเคลื่อนในการสื่อสารและการตีความสารที่เกี่ยวข้องกับสถาบันได้ ที่สำคัญ ยังทำให้เกิดความเข้าใจและการจำไปใช้งานแบบผิด ๆ อีกด้วย

5. สะท้อนให้เห็นถึงความเป็นสุภาพชน มีวัฒนธรรม มีความรอบรู้ และมีความละเอียดอ่อนในการใช้ภาษา

ผู้ที่ใช้คำราชาศัพท์ได้ถูกต้องเหมาะสม มักถูกมองว่าเป็นผู้มีการศึกษา เข้าใจภาษา และให้ความสำคัญกับวัฒนธรรม โดยเฉพาะกับผู้ที่พยายามตรวจสอบความถูกต้องก่อนใช้งาน จะเป็นการแสดงออกซึ่งความเป็นผู้มีวัฒนธรรมอันดีงาม และเป็นสุภาพชนในสังคม ที่ใส่ใจและให้ความสำคัญกับการใช้ภาษาให้ถูกต้อง และในบางบริบท เช่น ผู้ที่ทำงานด้านสื่อ พิธีกร นักเขียน หรือข้าราชการ การใช้คำราชาศัพท์ให้ถูกต้อง ยังเป็นการ “สร้างความน่าเชื่อถือ” และ “ความเป็นมืออาชีพ” ในสายงานอีกด้วย