“ปรากฏการณ์ Max” จาก 104 เหลือ 40

ภาพจาก FB: Oracle Red Bull Racing

ใครจะไปคิดครับว่าการออกจากทีมเรดบูลล์ของ คริสเตียน ฮอร์เนอร์ และการที่ช่วงหนึ่ง แม็กซ์ เวอร์สแตพเพ่น มีแต้มตามหลังผู้นำสุดกู่ 104 คะแนน มาถึงวันนี้ ศึกเอฟวัน 2025 ยังเหลือการแข่งขันอีก 5 สนาม แม็กซ์ จะทำผลงานพุ่งพรวดลดช่องห่างจาก ออสการ์ ปิแอสทรี เหลือเพียง 40 คะแนน ทำให้การลุ้นแชมป์โลกกลายเป็นศึก 3 เส้าที่เข้มข้นขึ้นมาอีกครั้ง

ผมคนหนึ่งครับที่ยอมรับว่ากาชื่อ แม็กซ์ ออกจากนักขับลุ้นแชมป์โลกไปแล้ว ทั้งสมรรถนะของรถเรดบูลล์ รวมไปถึงการเข้ามารับงานกลางคันของทีมบอสคนใหม่ โลรองต์ เมคีส์ ที่แบกรับความกดดันหนักอึ้งในการทำหน้าที่แทนทีมบอสที่ดีที่สุดคนหนึ่งในประวัติศาสตร์เอฟวันอย่างคริสเตียน ฮอร์เนอร์ แต่สิ่งหนึ่งที่ผมลืมไปคือ เรดบูลล์ ยังมีแม็กซ์ เวอร์สแตพเพ่น อยู่เหมือนเดิม

จะว่าไป ผลงานของเรดบูลล์โดยรวมในเอฟวันต้นซีซัน แม้จะถูกแม็คลาเรนกลบรัศมี แต่ถ้าไปดูผลงานเฉพาะแม็กซ์ เขาก็ถือว่ามีกรังด์ปรีซ์ วินเนอร์ รวมถึงโพเดียมอยู่เรื่อย ๆ นั่นหมายถึงมาตรฐานของแชมป์โลก 4 สมัย ยังมีดีพอที่จะไล่ล่าแชมป์สมัยที่ 5 ติดต่อกัน รวมไปถึงฟอร์มในเมนเรซ 4 สนามล่าสุดที่ชนะไปถึง 3 เรซ และอีก 1 เรซเป็นโพเดียมอันดับ 2

ปัจจัยสำคัญที่กูรูต่างประเทศมองตรงกันกับปรากฏการณ์ Max ในครั้งนี้ คือการอัปเกรดชิ้นส่วนของรถ RB21 ในช่วงครึ่งซีซันหลัง โดยเฉพาะ Floor และ Diffuser ที่ช่วยเพิ่มแรงกด (Downforce) และลดอาการดื้อโค้ง (Understeer) ได้อย่างมาก รวมถึงยังมีกลยุทธ์ที่ยอดเยี่ยมในการเข้าพิตแต่ละเรซที่ได้เปรียบคู่แข่งตลอด และสำคัญที่สุด คือฟอร์มการขับที่ไร้ที่ติของนักขับดัตช์

ภาพจาก FB: Oracle Red Bull Racing

ขณะที่ฝั่งแม็คลาเรน จริง ๆ แล้ว ช่องห่าง 40 แต้ม จากอันดับ 1 ออสการ์ ปิแอสทรี กับอันดับ 3 แม็กซ์ เวอร์สแตพเพ่น หากไปย้อนดูสถิติของเอฟวัน นี่คือช่องห่างที่ไม่น่ามีปัญหาในการประคองเข้าป้ายเป็นแชมป์โลก แต่อย่าลืมว่าการแบ่งแต้มและแรงกดดันระหว่างเพื่อนร่วมทีม แลนโด นอร์ริส อันดับ 2 ที่แต้มตามหลังออสการ์ 14 แต้ม กลายเป็นเป็นดาบสองคมให้นักขับตัดแต้มกันเอง

นอกจากนี้ ทีมแข่งสีส้มจากอังกฤษ ที่ตามรายงานบอกว่าจะไม่มีการอัปเกรดแพ็กเกจต่าง ๆ ของตัวรถอีกแล้ว ก็เริ่มมีปัญหาในการรักษาจังหวะการทำความเร็วสูงสุดต่อรอบ (Race Pace) ในสนามที่ต้องใช้ความเร็วสูงและโค้งต่อเนื่องยาว ๆ อย่างไรก็ดี สิ่งที่แฟนแม็คลาเรนพอจะอุ่นใจได้บ้าง แม้ทั้งออสการ์และแลนโด จะไม่ชนะเมนเรซ แต่ก็ยังเกาะกลุ่มโพเดียมมาได้ต่อเนื่อง

นั่นทำให้สถานการณ์ลุ้นแชมป์โลกประเภทบุคคลในปีนี้กลับมาเข้มข้นอีกครั้ง ในช่วง 5 สนามสุดท้าย จากที่ก่อนหน้านี้เป็น 2 นักขับแม็คลาเรนขับเคี่ยวกันเอง ก็จะมีแชมป์โลก 4 สมัยมาขอร่วมวงด้วย ที่สำคัญหากดูฟอร์ม 4 สนามล่าสุด แม็กซ์ ก็จัดเต็มเป็นกราฟขาขึ้นพุ่งพรวดเสียด้วย ทำให้เอฟวันปีนี้กลับมาน่าดูอีกครั้ง

หากย้อนดูประวัติศาสตร์การคัมแบ็กกลับมาเป็นแชมป์โลก ในยุคที่นับคะแนนแบบใหม่ (ชนะได้ 25 แต้ม) เซบาสเตียน เวทเทล เคยตามหลัง เฟร์นานโด อลอนโซ 44 แต้ม แล้วกลับมาเป็นแชมป์โลกได้ในปี 2012 แต่นั่นก็เป็นช่องห่างที่เกิดขึ้นตั้งแต่กลางซีซัน มาปีนี้ แม็กซ์ ไล่กวดจาก 104 ลงมาเหลือ 40 ซึ่งมีแนวโน้มจะลดลงได้อีกในสนามที่เหลือ

ทว่าสุดท้าย ก็เชื่อว่าไม่ใช่เรื่องง่ายกับการลดช่องห่าง 40 แต้มเพื่อแซงคว้าแชมป์ เพราะยังมีแลนโด ในอันดับ 2 ขวางหน้าอยู่ด้วย และทีมงานแม็คลาเรนก็ต้องรู้ว่าจะวางแผนอย่างไรเพื่อให้นักขับของเขาได้แชมป์โลก แต่ไม่ว่าจะออกหน้าไหน หวังว่า “ปรากฏการณ์ Max” น่าจะทำให้เอฟวัน 2025 ได้ลุ้นแชมป์โลกไปถึงสนามสุดท้ายที่อาบูดาบีนะครับ