“3 คนไทย” ใน F1, F2 และ F3

ภาพจาก FB: DAMS

สมัยเด็ก ๆ เวลาดูถ่ายทอดสดเอฟวัน จำได้ว่าเราแทบจะลืมนึกถึงโอกาสของนักขับไทยไปเลย เพราะความรู้สึกในสมัยโน้นมันช่างห่างไกลมากที่จะมีคนไทยเข้าไปอยู่ตรงนั้น (ไม่นับพระองค์พีระในยุคบุกเบิก) แต่มาถึงวันนี้ เรากำลังจะเห็น “คนไทย” มีส่วนร่วมกับการแข่งขันรถสูตรชิงแชมป์โลก ครบทุกรุ่นภายในฤดูกาลเดียวกันเป็นครั้งแรก

การประกาศอย่างเป็นทางการของทีม DAMS ในศึกฟอร์มูล่า ทรี ที่ยืนยันรายชื่อ เจม-นันทวุฒิ ภิรมย์ภักดี เข้าสู่ entry list ปี 2026 ถือเป็นอีกหนึ่งสเตปที่น่าสนใจของวงการมอเตอร์สปอร์ไทย เพราะดูจากรายชื่อนักขับ F3 ปีหน้า ไม่มีชื่อของ เติ้น-ทัศนพล อินทรภูวศักดิ์ นั่นหมายความว่า เติ้น จะขยับจาก F3 สู่ F2 ค่อนข้างแน่

ซึ่งเมื่อรวมกับพี่ใหญ่ที่ชื่อเล็ก (อเล็กซ์ อัลบอน อังศุสิงห์) นักขับไทยที่ปักหลักในฟอร์มูล่า วัน มาอย่างต่อเนื่อง และยืนยันรายชื่อปี 2026 กับต้นสังกัดเดิม วิลเลียมส์ เรซซิ่ง เรียบร้อยแล้ว จะทำให้ในการแข่งขันรถสูตรชิงแชมป์โลกทั้ง 3 รุ่น เริ่มจาก F1, F2 และ F3 จะมีธงชาติไทยไปโบกสะบัดบนกริดสตาร์ตครบทั้ง 3 รุ่น

ไม่รู้ว่าตอนนี้โปรเจกต์เสนอตัวเป็นเจ้าภาพเอฟวันของไทยคืบหน้าไปถึงไหนบ้างสำหรับฝั่งของรัฐบาล แต่ที่แน่ ๆ คือ ครอบครัวของนักขับไทย 2 คน ทั้งเจมและเติ้น ในฐานะภาคเอกชน เขาคืบหน้าไปไกลมาก ๆ แล้ว กับการสนับสนุนและผลักดันนักขับไทยด้วยตัวเอง ซึ่งแน่นอนว่าการขึ้นมา F2 และ F3 เป็นสเตปเพื่อต่อยอดไปสู่เป้าหมาย F1

นอกจากความยอดเยี่ยมและผลงานของนักขับดาวรุ่งไทยเราแล้ว งานนี้ต้องขอบคุณทั้ง คุณจ๊ะ-วรวุฒิ ภิรมย์ภักดี และ คุณเต๊อะ-วุฒิกร อินทรภูวศักดิ์ คุณพ่อของทั้งเจมและเติ้น ซึ่งเป็นผู้อยู่เบื้องหลังทุนสนับสนุนในการไปสู่การแข่งขันระดับโลกในครั้งนี้ครับ ซึ่งก็เป็นเรื่องปกติของนักแข่งรถทั่วโลกที่จะต้องควักเงินเอง หรือไม่ก็ต้องมีสปอนเซอร์ติดตัวไปด้วย

ภาพจาก FB: DAMS

ตามรายงานจากเว็บไซต์ต่างประเทศ Formula Scout บอกว่างบประมาณของนักขับ F3 จะอยู่ที่ 8 แสนถึง 1.2 ล้านยูโร หรือราว 32 ถึง 50 ล้านบาทต่อซีซัน บวก-ลบ ขึ้นกับดีกรีของของทีมแข่งนั้น ๆ ส่วนใน F2 เว็บไซต์ Feeder Series บอกว่าอยู่ที่ปีละ 1.5 ถึง 2.5 ล้านยูโร หรือราว 60 ถึง 100 ล้านบาทเลยทีเดียว

ตัวเลขที่มหาศาล เป็นสิ่งพิสูจน์ “ความรัก” และ “ความทุ่มเท” จากครอบครัวนักแข่งอย่างแท้จริง เพราะการเดินทางสายมอเตอร์สปอร์ต โดยเฉพาะเส้นทางสู่ฟอร์มูล่า วัน ต้องมีงบประมาณระหว่างทางที่สูงมาก ๆ อย่างไรก็ดี ต่อให้มีเงินมากมายขนาดไหน แต่หากตัวนักแข่งเองไม่มีผลงาน ทีมแข่ง (ที่จริง ๆ คือผู้ที่รับเงิน) ก็มีสิทธิ์ปฏิเสธได้เช่นกัน

สำหรับผม ถือว่าเป็นมิติใหม่ของวงการความเร็วไทยครับ กับการมีคนไทย 3 คน ใน 3 ซีรีส์รถล้อเปิดชิงแชมป์โลก และหากมองไล่ลงมาอีก เราก็ยังมี เอ็นโซ่-สุภาวีระ ธารวณิชกุล อดีตแชมป์โลกโกคาร์ทรุ่นจูเนียร์ ที่ได้เข้าสังกัด Red Bull Junior Team เป็นที่เรียบร้อย รอต่อคิวพร้อมขยับขึ้นมาแข่งในรุ่นที่ใหญ่ขึ้นในอีกไม่กี่ปีนับจากนี้

น่าสนใจว่าระหว่างทั้งเจมและเติ้น ที่มีเป้าหมายไปสู่เอฟวันเหมือนกัน กับรัฐบาลไทยที่วางโปรเจกต์เสนอตัวจัดเอฟวันในปี 2028 เมื่อถึงเวลานั้นแล้ว ใครจะไปถึงเป้าหมายนั้นก่อนกันนะครับ แต่ที่ไม่ต้องรอนาน คือในปี 2026 เราได้เชียร์คนไทยบนเวทีระดับชิงแชมป์โลกทั้ง 4 ล้อและ 2 ล้อ กันอย่างคึกคักแน่นอน