อาบน้ำแมวยากแค่ไหนก็เสร็จ “ช่างตุ้ย” ผู้เปลี่ยนแมวโหดให้อยู่ในโหมดแมวอ้อน

ไลฟ์สไตล์ของคนสมัยใหม่เปลี่ยนไปจากแต่ก่อนค่อนข้างมาก สิ่งหนึ่งที่เห็นได้ชัดก็คือ มีคนรุ่นใหม่จำนวนไม่น้อยที่มีความคิดและค่านิยมเรื่องครอบครัวต่างไปจากอดีต พวกเขาไม่คิดอยากจะมีครอบครัวหรือมีลูกเป็นของตัวเอง ด้วยเหตุผลหลัก ๆ ก็คือ ครอบครัวที่สมบูรณ์ไม่จำเป็นต้องมีลูก ความไม่พร้อมในด้านต่าง ๆ ที่จะเป็นพ่อเป็นแม่ใคร รวมถึงการมีความสัมพันธ์รูปแบบอื่นที่ใกล้เคียงกันแต่ภาระน้อยกว่ามาก ทั้งเรื่องค่าใช้จ่าย ข้อผูกมัด และหน้าที่ที่ต้องทำ

ความสัมพันธ์รูปแบบที่ใกล้เคียงการมีลูกเป็นของตัวเองก็คือ การเลี้ยงสัตว์เลี้ยงประหนึ่งสมาชิกในครอบครัว สังคมยุคใหม่นี้ มีคนจำนวนไม่น้อยที่เลือกที่จะคลั่งไคล้และรักเหล่าบรรดาสัตว์เลี้ยงประดุจลูกคนหนึ่ง เกิดเป็นปรากฏการณ์ที่เรียกว่า Pet Humanization หรือพูดให้เข้าใจง่าย ๆ ก็คือ เจ้าของสัตว์เลี้ยงไม่ได้มองว่าตัวเองมีสถานะเป็นเจ้าของน้องหมาน้องแมว แต่มีสถานะเป็น “พ่อ/แม่” ของสัตว์เลี้ยงมากกว่า (Pet Parents) ซึ่งนับวันก็จะมีคนหันมาเลี้ยงสัตว์เลี้ยงเหมือนกับเป็นลูกของตัวเองมากขึ้น โดยเฉพาะน้องหมาน้องแมว

สิ่งที่ตามมาก็คือ การเติบโตของธุรกิจต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับสัตว์เลี้ยง พ่อแม่ที่มักจะเรียกตัวเองว่า “ทาส” ต่างก็ยอมเปย์ให้กับลูก ๆ ทูนหัว หรือ “เจ้านาย” อย่างไม่มีเงื่อนไข แถมยังมีผลวิจัยที่ระบุเหล่าทาสของลูกทูนหัวมีแนวโน้มที่จะใช้จ่ายเพื่อสัตว์เลี้ยงมากกว่าเพื่อตัวเองด้วยซ้ำไป!

ขอบคุณภาพจาก FB: Ministry of Cat

และด้วยเหตุที่ธุรกิจเกี่ยวกับสัตว์เลี้ยงบูมขึ้นอย่างรวดเร็วในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา จึงมีคนที่เห็นช่องทางของตลาดในการบริการสัตว์เลี้ยง หากทาสมีกำลังจ่ายเพื่อให้เจ้านายของตนเองมีความสุขที่สุด แพงแค่ไหนก็ยอมจ่าย อย่างไรก็ตาม เหล่าทาสก็ไม่ได้หลับหูหลับตาจ่ายโดยไม่คิดหน้าคิดหลัง แต่พวกเขาจะยินดีจ่ายก็ต่อเมื่อบริการต่าง ๆ เหล่านั้นสร้างความประทับใจให้กับเจ้านาย เมื่อเจ้านายแฮปปี้ ทาสก็แฮปปี้เช่นกัน

นี่จึงเป็นที่มาของบทสัมภาษณ์คนต้นคิดสัปดาห์นี้ ที่จะพาคุณผู้อ่านไปรู้จักกับบริการเพื่อน้องแมวที่สร้างรายได้หลักแสนต่อเดือน! พูดคุยกับ “ช่างตุ้ย” ทศทิศ สาครสินธุ์ เจ้าของเพจและร้านอาบน้ำแมว Ministry of Cat บริการอาบน้ำแมวที่ราคาไม่ธรรมดา แต่ทาสทุกรายกลับยินดีที่จะจ่าย และประทับใจจนต้องกลับมาอีกครั้งและหลายครั้ง ไม่ว่าน้องแมวจะดื้อหรือจะดุแค่ไหน เมื่อถึงมือช่างตุ้ยแล้วจะกลายร่างเป็นเจ้าเหมียวขี้อ้อนทันที แถมการอาบน้ำที่เคยอาบยาก ๆ พ่อแม่อาบหรืออาบกับช่างคนอื่นก็ประหนึ่งทำสงคราม แต่กับช่างตุ้ยจะยินยอมอาบแต่โดยดี ไปดูกันว่าบริการอาบน้ำแมวของช่างตุ้ยมีดีอย่างไร ทาสแมวถึงไว้ใจขนาดนี้ บอกเลยว่าบทสัมภาษณ์นี้ คนรักแมวต้องไม่พลาด!

จุดเริ่มต้นของร้านอาบน้ำแมว

ก็คือผมเลี้ยงแมวอยู่ก่อนแล้วครับ แล้วผมก็ดูไว้แล้วว่าอยากจะทำอะไรเกี่ยวกับแมวสักอย่างหนึ่ง แต่ก็ไม่อยากจะขายแมว ก็เลยมาลงที่อาบน้ำแมวครับผม ลองอาบน้ำแมวตัวเองก่อนแล้วก็ไปเรียนมา แล้วพอมาอาบน้ำลงเพจของแมวผม ก็เลยมีคนอยากจะให้อาบให้บ้าง ก็เลยเป็นจุดเริ่มต้น เริ่มจากการไปอาบน้ำแมวที่บ้านของลูกค้าก่อนครับ ตอนแรกที่ยังไม่มีหน้าร้านครับ

อาบน้ำแมวมานานเท่าไรแล้ว และรายได้เป็นอย่างไร

ขอบคุณภาพจาก FB: Ministry of Cat

ถ้ารวมตั้งแต่เริ่มต้นเลยก็ประมาณ 5 ปีครับผม ส่วนรายได้หลักแสนครับ ก็คือมันมี 2 ช่วงครับ ช่วงเริ่มแรก ตั้งแต่เริ่มต้นมามันโอเคเลย มันก็ระดับ 3-4 หมื่น แต่พอมาช่วงโควิด-19 จริง ๆ เริ่มก่อนจะโควิดเนี่ย รายได้จะขึ้นไปแตะอยู่เกือบแสน พอมาทำหน้าร้านเอง หลังจากนั้น 3 ปีอะครับ รายได้มันเกือบ ๆ แสน ก็เลยเริ่มกล้าที่จะเปิดร้าน พอเปิดร้านเองแล้ว รายได้มันอยู่ระหว่างเดือนละแสนกว่าถึงสองแสนกว่าครับ

สัตว์มีตั้งมากมาย แต่ทำไมถึงต้องเป็นน้องแมว!

ผมเป็นคนเลี้ยงแมวอยู่แล้ว ผมก็เลยดูตลาดครับว่าร้านอาบน้ำแมวและยิ่งอาบน้ำแมวถึงบ้านเนี่ย ยิ่งไม่มีคู่แข่งเลย ตอนที่ผมเริ่มทำแรก ๆ นะครับ น้อยมาก เรียกว่าไม่มีคู่แข่งครับตอนแรกเลย ผมก็เลยมองเห็นช่องทาง แล้วก็แต่ก่อนเวลาพาแมวไปอาบน้ำที่อื่น เขาก็จะอาบไม่เหมือนกัน คือคนเลี้ยงแมวเขาจะต้องการให้ลูกเขาอาบโดยการที่ไม่เครียด ให้สบายตัวอะครับ ซึ่งผมก็เคยมีประสบการณ์ที่ไม่ดีจากที่อื่นมา ก็เลยอยากจะมาอาบน้ำแมวตัวเอง แล้วก็เลยรู้ว่าคนเลี้ยงแมวต้องการอะไรจากการอาบน้ำแมว ก็เลยมาจับธุรกิจนี้ครับผม

มันเกิดอะไรขึ้น กับการพาแมวไปอาบน้ำ/ตัดขนแล้วแมวตาย

ผมพูดลักษณะแบบตามข่าวแล้วกันนะครับ ร้านนั้นผมสันนิษฐานว่าเขาไม่เป็นแมว เพราะว่าที่มีการไถขนแล้วแมวตายเนี่ย เขาใส่ที่ครอบด้วย ครอบหัวครอบปากเพื่อไม่ให้แมวกัด ซึ่งมันทำให้แมวหายใจลำบากครับ แล้วพอแมวตื่นเต้นมาก ๆ เนี่ยมันจะหายใจทางปาก แล้วพอใส่ตัวที่ครอบหัวปุ๊บแมวมันหายใจไม่ทัน มันก็เลยมีอาการหัวใจวายตายครับ

อย่างที่ร้านผมเนี่ย ถ้าแมวเริ่มอ้าปาก ผมจะหยุดแล้ว เพราะบางทีหัวใจแมวมันทำงานผิดปกติเกินไป ยิ่งแมวมันหายใจถี่ ๆ ยิ่งทำให้หัวใจมันทำงานหนักมาก แล้วยิ่งแมวที่มีโรคหัวใจอยู่ก็อาจจะตายได้ตามข่าวเลยครับ ถ้าเป็นร้านที่เป็นแมว หรืออย่างร้านผม หรือร้านที่อาบน้ำแมวโดยเฉพาะ ผมคิดว่าก็คงไม่มีใครจะไปใส่ตะกร้อ ใส่ฝาครอบ หรือไปใส่กรงอาบหรอกครับผม

เคยมีเจ้าของน้องที่เป็นสัตว์ชนิดอื่นจ้างให้อาบน้ำบ้างไหม

มี แต่ผมไม่รับอาบครับ เพราะว่าร้านที่อาบแมวล้วนเนี่ย พอแมวเข้ามา เขาก็จะสงบมากกว่าร้านที่มีกลิ่นหมาหรือสัตว์อื่น ๆ เพราะมันจะเป็นกลิ่นพวกเดียวกัน เขาก็จะสงบมากขึ้น แมวเป็นสัตว์ขี้ตกใจอยู่แล้วครับ แล้วอันนี้ก็เป็นเรื่องสำคัญด้วยครับว่าอย่างพอเป็นร้านแมวล้วนเนี่ย แมวจะนิ่งลงเยอะเลย แต่ถ้าสังเกตดู เวลาพ่อแม่คนไหนพาแมวไปร้านที่มีหมาอยู่ด้วย เขาจะเริ่มเครียด เริ่มไม่สบาย กลับมาเริ่มไม่กินอาหาร หรือถ่ายเหลว มันเป็นไปได้หมดครับ แมวปลงตกก็มีสิทธิ์ตายครับ เพราะฉะนั้น การที่พาเขาไปเจอสิ่งที่เครียด ๆ มันจะทำให้เขาปลงตกได้ครับ

จะเปิดร้านอาบน้ำแมวต้องเริ่มต้นอย่างไร

ขอบคุณภาพจาก FB: Ministry of Cat

หลังจากที่ออกรายการไปนะครับ ก็มีคนสนใจมาเรียน ติดต่อมากันเยอะมาก แล้วก็มีส่วนหนึ่งและก็จำนวนเยอะด้วยที่ว่ามองแต่รายได้ว่ารายได้สูง จริง! แต่ว่าตัวเองก็ยังไม่เคยเลี้ยงแมวหรือยังกลัวแมวอยู่ แต่จะมาให้ผมสอนโดยทำให้หายเนี่ยมันเป็นเรื่องยาก ซึ่งถ้าใครอยากจะเป็นเร็ว ควรจะเลี้ยงแมวและรักแมวอยู่แล้ว แล้วก็ต้องรักแมวคนอื่นด้วย ไม่ใช่รักแต่แมวตัวเอง เพราะว่าการอาบน้ำแมวเนี่ยมันยาก ถ้าไม่ยากมันคงไม่ราคาแพงขนาดนี้หรอกครับ ก็คือมันจะต้องเจอแมวที่ดุ ที่ดื้อ หรือว่าจะต้องเก็บอึแมวอะไรอย่างงี้ครับผม ก็อยากจะบอกว่าถ้าใครสนใจจริง ๆ ก็ต้องควรจะรักแมวก่อนครับผม ถึงจะไปได้เร็วขึ้น

คอร์สที่เปิดสอน ที่ผมสอนมี 2 แบบเลยก็คือ เรียนเพื่ออาบน้ำแมวตัวเองกับสอนเพื่อเป็นอาชีพครับ ส่วนสอนเพื่อเป็นอาชีพเนี่ยผมสอนตั้งแต่ไม่เป็นเลย จนเก่ง จนเปิดร้านได้เลย ไม่จำกัดชั่วโมง แล้วก็มีฝึกงานตลอด เพราะอยากให้จบไปแล้วเป็นเหมือนในแนวทางผม เพราะแนวทางผมไม่เหมือนร้านอื่นแน่นอน ผมสังเกตมาหลายร้านแล้ว วิธีการเข้าแมว วิธีการจับแมว ของผมจะทำเบามาก จะใส่ใจแมวมากครับ

ถ้าสำหรับการอาบน้ำแมวที่ร้านเนี่ย ผมมีช่างอีก 4 คนครับผม แต่ถ้าสอนเนี่ยผมจะเป็นคนสอนเอง แล้วก็จะให้เสาร์-อาทิตย์เป็นวันดูงานของนักเรียน เพราะว่าเสาร์-อาทิตย์คนจะเยอะ ก็จะให้นักเรียนคอยไปประกบช่างแล้วก็ดูช่างที่ชำนาญแล้วทำครับ แต่วันธรรมดาก็จะสอนนักเรียน

การอาบน้ำแมวใน 1 วัน เป็นอย่างไร

ถ้าในวันปกติ วิธีการของผมจะใช้วิธีการจองคิวนะครับ ไม่มีการรับ walk-in เลย เพราะฉะนั้น วันแต่ละวันผมจะมีคิวที่เป๊ะอยู่แล้ว วันธรรมดาจะมี 6-7 คิว แต่เสาร์-อาทิตย์ก็จะเยอะหน่อยครับ 9-10 หรือ 10 กว่าตัวครับ 12 ตัว 13 ตัว ประมาณนี้ แล้วก็ลูกค้าก็น่ารักดีที่มาตรงเวลาตามคิว ผมก็จะอยู่ร้านคอยดูน้องช่างที่ผมฝึกมาเองกับมือทุกคนนะครับ คือถ้าแมวปกติไม่ดื้อเกินไป น้องพวกนี้เอาอยู่อยู่แล้ว แต่ถ้าสมมติเจอตัวไหนที่ดื้อหรือดุเนี่ย ก็จะเป็นผมทำครับผม

สิ่งที่ยากที่สุดในการอาบน้ำแมวคืออะไร

ขอบคุณภาพจาก FB: Ministry of Cat

ผมอธิบายอย่างนี้ก่อนครับ จริง ๆ แมวไม่ได้เป็นสัตว์ที่กลัวการอาบน้ำนะครับ แต่มันกลัววิธีการอาบน้ำมากกว่า คือถ้าคุณอาบแบบถูกต้องทุกอย่างมันจะง่าย ไม่งั้นผมจะทำไม่ได้เลยจริงไหมครับ แมวของที่ร้าน 90 เปอร์เซ็นต์หรือ 99 เปอร์เซ็นต์เลยก็ได้ ที่พ่อแม่เขาว่าอาบยากหรืออาบที่อื่นไม่ได้ แต่มาที่ร้านนี้อาบได้ทุกตัวหรือเกือบทุกตัว ตั้งแต่เปิดร้านมา 5 ปี ผมปฏิเสธลูกค้าไปแค่ 10 ตัวเองครับจากที่อาบมาเป็นพันตัวแล้ว อาบไม่ได้แค่ 10 ตัว ซึ่งแมวที่อาบไม่ได้ก็คือ แมวที่ไม่ยอมให้จับตัว ซึ่งบางครั้งเขาอาจจะบาดเจ็บอยู่ครับ หรือเขาอาจจะมีประสบการณ์ไม่ดีในการโดนคนจับตัว โดนคนล็อกแรง ๆ แมวพวกนี้จะระแวงก็เลยไม่ให้ช่างจับตัว พอช่างจับตัวไม่ได้ มันก็จะทำอย่างอื่นไม่ได้

เคล็ดลับการอาบน้ำน้องแมวของช่างตุ้ย ทำยังไงเจ้าเหมียวถึงยอมแต่โดยดี

ก็คือผมจะสอนน้อง ๆ หมดนะครับ วิธีการรับแมวของร้านผม แล้วก็ลูกค้าก็จะชม ลูกค้าก็จะชอบด้วยในจุดนี้ การรับแมวร้านผมก็คือ ผมรับแมวมาแล้วผมจะไม่ทำเลย ผมจะไม่มีทางทำแมวแบบรับมาปุ๊บแล้วทำปั๊บ ไม่มีทาง ผมจะต้องเล่นกับแมวก่อน ทำความคุ้นเคยกับแมวก่อน ให้เขาเชื่อใจเราในระดับหนึ่งครับผมถึงจะเริ่มทำงานครับ นี่ล่ะเป็นเคล็ดลับของผม แล้วก็ทำทุกอย่างอย่างเบามือ เราอย่าไปหมั่นเขี้ยวหรือว่าไปใช้แรงที่เคยชินเหมือนตอนที่ทำให้หมาครับ คือแมวเนี่ยมันละเอียดอ่อนกว่าเยอะ

จริง ๆ แล้วแมวจำเป็นต้องอาบน้ำไหม

อันนี้ก็เป็นคำถามที่เจอบ่อยนะครับ คือการเลี้ยงแมวเนี่ยมันมีเลี้ยงอยู่ 2 แบบ ก็คือเลี้ยงเปิดกับเลี้ยงปิดใช่ไหมครับ เลี้ยงเปิดก็คือเลี้ยงปล่อยไปตามธรรมชาติ อันนั้นน่ะก็อาจจะไม่ต้องอาบน้ำ เพราะว่าเขาไม่ได้เลี้ยงแบบปิด คือเปิดน่ะมันสกปรกทุกวันอยู่แล้วล่ะ แล้วแมวก็ไม่ได้มาอยู่กับเราตลอด ให้ข้าวแล้วเขาก็ปล่อย อันนั้นคือเลี้ยงแบบเปิด ส่วนเจ้าของเลี้ยงปิดเนี่ย แมวมันมีโอกาสที่จะขึ้นมาบนเตียงเรา มาอยู่กับเรา มาเล่นกับเรา มาใกล้ชิด มากอด มาหอม มาอยู่บนโซฟาถูกต้องไหมครับ เพราะฉะนั้น ขนแมวน่ะมันตัวเก็บฝุ่นเลย นี่แหละครับมันถึงเป็นความจำเป็น

แล้วอีกอย่างก็คือ ขนแมวเนี่ยมันเหนียวมากครับ มันมีฮอร์โมน สำหรับตัวที่ยังไม่ทำหมันเนี่ย มันทำให้ขนแมวเหนียวเป็นปึก เขาเรียกว่า stud tail ครับ แบบโคนที่หางเป็นแบบเหนียวหนึบ ๆ นั่นแหละครับที่ทำให้แมวต้องอาบน้ำ แล้วก็ถ้าให้ผมแนะนำ จริง ๆ ก็ควรจะอาบเดือนละ 1 ครั้งครับ

แชร์ประสบการณ์การการทำงานกับแมวเซเลบหน่อยดีกว่า

ขอบคุณภาพจาก FB: Ministry of Cat

ผมเองก็เกิดมาจากแมวเซเลบเหมือนกันครับ เกิดมาจากจิ๋ว เกิดมาจากหัวหอม กะทิ แล้วก็แมวผมด้วย แมวผมก็ถือว่าเป็นแมวเซเลบเหมือนกัน (เพจแมวของช่างตุ้ยคือเพจ What’s Michael) ก็มีคนตามอยู่ประมาณ 4.6 หมื่นคน ผมก็เกิดมาจากพวกแมวเซเลบนี่แหละครับ แล้วก็พอมาช่วงหลังก็ได้เจอคิรัวร์กับชิเอลอีกก็สุดเลย (เพจชิเอลแมวมึน) ทำให้ได้ลูกค้าจากคิรัวร์กับชิเอลเยอะมาก

อย่างคิรัวร์ผมไปอาบมา 2 ครั้ง ครั้งแรกคือผมไปแบบไม่รู้จัก ผมทำแต่งานไม่ค่อยรู้จักแมวใคร พอไปถึง รุ่นน้องที่ไปด้วยเขาก็บอกพี่ ๆ นี่คิรัวร์นี่ ก็เลยอ๋อ! คิรัวร์เองเหรอ แล้วก็ลองอาบดู แต่ว่าตอนนั้นยังไม่รู้ว่าเขาเป็นยังไง สรุปว่าเขาก็ดุ ดุมาก แต่ก็อาบสำเร็จนะครับ แค่ใส่คอลล่าเพิ่มเข้าไปแล้วก็ใช้ความระมัดระวัง แต่พอมาครั้งที่ 2 เนี่ย ผมคิดไว้แล้ว แมวเนี่ยถ้าเราทำถูกวิธี ครั้งที่ 2 เขาจะต้องยอมแน่นอน ครั้งที่ 2 ก็เลยไปอีกเมื่อเร็ว ๆ นี้ ก็สรุปว่าเป็นไปตามที่ผมคิด ก็คือดีขึ้น จากที่ครั้งแรกต้องใส่คอลล่า ต้องคลุมผ้า หวีขนไม่ได้ แต่ไปครั้งที่ 2 นี่ไม่ต้องใส่อะไรเลย ยอมให้หวีขน แล้วตอนนี้หวีรุ่นที่หวีให้คิรัวร์นี่ขายดีถล่มทลายครับผม

ขอบคุณภาพจาก FB: Ministry of Cat

ก็อย่างที่บอกครับ วิธีของผมมันไม่ได้มีอะไรพิเศษแตกต่างจากช่างคนอื่น เพียงแต่ว่ามันมีรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ ครับว่าต้องทำอะไรก่อน วิธีคืออะไรก่อน ทำน้ำหนักมือขนาดไหน อะไรอย่างนี้ครับ นี่คือเคล็ดลับของผมครับ ตามที่เห็นจากคลิปคิรัวร์เลยครับ

ธุรกิจบริการสัตว์เลี้ยงกำลังมาแรง เป็นผลดีอย่างไรต่อเราบ้าง

ที่บอกว่าคนไทยไม่มีลูกแล้วเลี้ยงสัตว์ ผมก็เป็นหนึ่งในนั้นแหละครับ ผมไม่มีลูกแล้วผมก็คิดที่จะเลี้ยงแมว ผมขอตอบเฉพาะของแมวดีกว่านะครับเพราะว่าผมเป็นคนเลี้ยงแมว ก็คือในกลุ่มของคนเลี้ยงแมวเนี่ย มันจะมีอยู่กลุ่มหนึ่ง ซึ่งเดี๋ยวนี้แมวแพงมาก แพงแบบมหาศาล ตัวละแสน ตัวละสองแสน ซึ่งคนก็มีกำลังที่จะซื้อ ซื้อเยอะด้วย ซื้อแบบจองจนขาดตลาดอะครับแมวแพง ๆ เพราะฉะนั้นผมก็เลยมองถึงจุดนี้แหละครับ ในเมื่อกลุ่มนี้เขามีกำลังซื้อแมวขนาดนี้ ฉะนั้น กำลังในการดูแลแมวเขาต้องมีเยอะแน่นอน ผมก็เลยหันมาจับตลาดตรงนี้

ซึ่งการดูแลแมว พอเขาซื้อแมวแพงมา เขาก็ต้องดูแลแมวเขาดี ๆ ใช่ไหมครับ มันก็เลยเป็นประโยชน์กับพวกร้าน cat grooming ครับ เพราะว่าเราก็ได้ประโยชน์จากตรงที่ว่ายังไงเขาก็ต้องจ่ายค่าดูแลแมวอยู่แล้ว แล้วก็เป็นผลดีกับแมวด้วย แมวเนี่ย ผมพูดเลยว่าต่อให้ราคาแพงขนาดไหน แพงล้นฟ้าเลย ราคาเป็นล้านเลย ถ้าคุณไม่ดูแลนะ ก็กลายเป็นแมวที่ไม่สวยเลย แมวเป็นสัตว์ที่จะต้องดูแลครับ แล้วก็ต่อให้แมวราคาถูกขนาดไหน แต่ถ้าคุณดูแลดี ๆ ก็กลายเป็นแมวที่น่ารักมาก เพราะฉะนั้นเนี่ย แมวมันเป็นสัตว์ที่พิเศษกว่าสัตว์ชนิดอื่นนิดนึงว่ามันต้องดูแล อย่าลืมว่าขนแมวมันเหนียวมาก ไม่มีทางที่ปล่อยไปแล้วจะน่ารัก ไม่มีทางครับผม ผมก็เลยใช้จุดนี้ที่เราเลี้ยงแมวมา เรารู้จักแมว รู้จักนิสัยของเจ้าของแมวว่าเปย์ไม่อั้นอยู่แล้ว ก็เลยมาทำธุรกิจตรงนี้ครับ

อะไรที่ทำให้พ่อแม่ของน้องแมวไว้ใจให้ลูกอาบน้ำกับ Ministry of Cat

ก็คือผมรู้ว่าเจ้าของแมวต้องการอะไร เพราะฉะนั้น ผมก็เลยเอาจุดที่เจ้าของแมว จุดที่ตัวผมเองต้องการมานำเสนอให้ลูกค้าคนอื่นด้วยครับ คือเจ้าของแมวน่ะไม่ได้ต้องการความสวยงามมากอยู่แล้วครับ สวยงามโอเค สะอาดโอเค แต่จริง ๆ เขาต้องการแค่อาบแล้วให้ลูกเขาสบาย ลูกเขาไม่เครียด กลับไปนอนหงายพุงให้เขาเล่น กลับไปกินอาหารเยอะ ๆ มีลูกค้าหลายกลุ่มนะครับที่เปลี่ยนจากร้านอื่นมาเพราะว่าอาบเสร็จกลับมาแล้วลูกเขาเครียด เจ้าของเขาก็จะเครียดไปด้วย เขาซีเรียสเรื่องพวกนี้ เขาจะดูอาการหมดครับคนเลี้ยงแมวเนี่ย ธุรกิจนี้เงินเยอะจริง แต่คุณไม่ได้ได้เงินมาจากเขาง่าย ๆ แน่นอน เพราะฉะนั้น เราต้องบริการให้เขาประทับใจครับเขาถึงจะมาเป็นลูกค้าเรา

ขอบคุณภาพจาก FB: Ministry of Cat

ซึ่งลูกค้าเราก็คือลูก (แมว) ของเขานั่นแหละครับ เขาดูว่าลูกเขาน่ะ อาบเสร็จแล้วเป็นยังไง อาบเสร็จกลับไปบ้านแล้วเป็นยังไง เขาดูถึงอาการที่กลับไปบ้านเลยนะครับว่าอาบเสร็จแล้วกินข้าวไหม อาบเสร็จแล้วนอน อาบเสร็จแล้วไม่สบายไหม เพราะมีหลายคนเลยที่เปลี่ยนร้านเพราะว่ากลับไปแล้วแมวไม่สบายครับ ไม่กินข้าว หรือว่าที่แย่สุดก็คือไปบังคับแมวมากแล้วแมวก็ตาย แย่สุดก็คือตายเลยครับ หรือว่าที่บอกตัดเล็บแล้วแมวเล็บหลุด หรือว่าอาบน้ำแล้วแมวเล็บหลุด พวกนี้มันเกิดจากการใส่กรงอะไรพวกนี้แหละครับ ซึ่งร้านผมเนี่ยไม่มีทั้งกรง ไม่มีทั้งสายคล้องเลย มันจะทำให้แมวเกร็ง แมวช็อก แมวเครียดมาก นี่แหละครับ สาเหตุที่พ่อแม่อาบเองถึงทำสงครามกับลูก

คือผมก็อยากแนะนำว่าถ้าใครอยากอาบเองเนี่ย ให้มาเรียนวิธีอาบที่ถูกต้องดีกว่า เพราะว่าถ้าอาบโดยไม่ถูกต้อง มันเป็นการไปทำให้แมวยิ่งเครียดครับ ไปใส่กรง ใส่ตู้เป่าอะไรพวกนี้ มันไม่ใช่ครับ อย่างตู้เป่าเนี่ย เอางี้ดีกว่า แมวเป็นสัตว์ที่ขนหนามาก เป็นขนสองชั้น หรือว่าบางตัวขนยาว ตู้มันไม่มีทางที่จะเป่าได้หมดครับผม ที่ร้านไม่ได้ใช้เลย พวกแมวที่ขนหนามาก ๆ  ไม่มีทางที่ตู้จะเป่าให้ขนแมวแห้งได้

ถ้าพ่อแม่อยากพาลูกมาอาบน้ำกับช่างตุ้ย ต้องทำอย่างไรบ้าง

ผมใช้วิธีจองแบบ 100 เปอร์เซ็นต์นะครับไม่ได้รับ walk-in เลย ก็ติดต่อมาที่เพจ Ministry of Cat หรือว่า ID Line เบอร์โทรศัพท์ผมนี่แหละครับ 064 376 1189 ส่วนหน้าร้านผมอยู่ริมถนนเลยครับ ปากซอยสมเด็จเจ้าพระยา 9 นะครับ สี่แยกท่าดินแดง ใกล้ ๆ ไอคอนสยามครับ ทำการจองคิวก่อนแล้วก็มาอาบ แมวถ้าเราไม่จัดคิว แล้วให้มาอยู่ที่ร้าน เอาคิวมากอง ๆ ไว้ อยู่ร้านนานเกินเขาก็เครียดอีกครับ คือร้านผมจะเป็นแบบให้มาอยู่ที่ร้าน เสร็จก็ไปเลย มารอคิวสักแป๊บนึง รอคิวสักครึ่งชั่วโมง เพราะบางทีแมวแต่ละตัวมันอาบยากครับก็อาจจะเลทหน่อย

คิดจะอาบน้ำแมว ทำไมต้องเลือก Ministry of Cat

ขอบคุณภาพจาก FB: Ministry of Cat

อาบน้ำแมวแบบที่ว่าคุณพ่อคุณแม่สามารถดูแมวได้ทุกขั้นตอนเลยเนี่ย เชิญมาที่ร้านผมนะครับ ร้านผมไม่มีทั้งกรงไม่มีทั้งสายคล้อง แล้วก็ไม่บังคับแมวด้วย อัตราค่าบริการร้านผม จะรวมขจัดคราบมัน คราบเหลือง รวมตัดเล็บ รวมเช็ดหู รวมไถเท้า ไถก้นให้ทุกอย่างแล้วนะครับ ถ้าแมวขนสั้นเราก็จะเริ่มตั้งแต่ 800-1,500 บาทนะครับ ขึ้นอยู่กับน้ำหนัก ตามความยาก แล้วก็ตามสภาพเส้นขน ส่วนขนยาวก็ 1,000-2,000 บาท แต่ถ้าเป็นเปอร์เซียก็จะเป็น 1,000-2,500 บาทครับ ไถขนแมว 500-1,000 บาทครับ ตามความยาก และนอกจากอาบน้ำแมวที่ร้านแล้ว ผมยังมีบริการรับอาบน้ำแมวที่บ้าน แล้วก็รับสอนอาบน้ำแมว ทั้งแบบอาบแมวตัวเองแล้วก็อาบเป็นอาชีพด้วยครับ

ทิ้งท้ายเรื่องแมว ๆ ให้กับผู้อ่าน

ที่ผมอยากจะบอกก็คือแมวเนี่ยเป็นสัตว์ที่ต้องการการเอาใจใส่อย่างมาก เขาเป็นสัตว์ที่ไม่สบายง่าย ป่วยง่ายหรือตายง่ายมาก เพราะฉะนั้น ใครที่จะเลี้ยงแมวหรือเริ่มเลี้ยงแมวเนี่ยก็ควรจะศึกษาก่อน แมวไม่ใช่สัตว์ที่จะเอามาเลี้ยงเล่น ๆ ได้ ให้ข้าวคลุกปลาทูง่าย ๆ อย่างนั้นมันทำไม่ได้ครับ ก็คือใครอยากเลี้ยงแมว ผมก็อยากจะให้ศึกษาก่อน แล้วก็ดูแลแมวกันให้ดี ๆ ครับผม