รองเท้าฟุตบอลมิซูโน่ (Mizuno) มีจุดเด่นหลักๆ อยู่ที่รุ่น Made in Japan และการออกแบบทรงรองเท้าได้เหมาะกับเท้าของคนเอเชียจึงทำให้ได้รับความนิยมจากผู้เล่นฟุตบอลในไทยพอสมควรเลยทีเดียว แม้ว่าตัวพรีเซ็นเตอร์จะมีอยู่ไม่มากนักเมื่อเทียบกับไนกี้ อาดิดาส และพูม่า
คำว่า Made in Japan เป็นที่ยอมรับจากคนไทยมาช้านาน และที่ผ่านมาคุณภาพการผลิตก็ไม่ทำให้ผิดหวัง ยกตัวอย่างความพิถีพิถันของการผลิตรองเท้า 1 คู่ จะใช้เวลาถึง 24 ชม. ซึ่งก่อนจะออกมาจำหน่ายต้องแน่ใจว่าคุณภาพนั้นสูงสุด เมื่อเทียบกับกระบวนการผลิตรองเท้าทั่วไปในปัจจุบันจะใช้เวลาเพียง 20 นาที เท่านั้น ทำให้เห็นความแตกต่างเรื่องความพิถีพิถันอย่างชัดเจน
นอกจากรุ่น Made in Japan ที่ได้รับนิยมแล้ว รองเท้าฟุตบอลมิซูโน่ก็มีรุ่นที่ผลิตจากประเทศอื่นๆ อย่างอินโดนีเซีย โดยจะมีราคาถูกกว่ารุ่นที่เป็น Made in Japan ประมาณ 10-20%
จาก 3 ตอนที่ผ่านมาจนถึงตอนที่ 4 ยี่ห้อมิซูโน่ (Mizuno) ผมยอมรับเลยว่าหาข้อมูลยี่ห้อมิซูโน่ (Mizuno) ได้ยากที่สุด เพราะแม้แต่ในเว็บหลักของมิซูโน่เองก็แจกแจงรุ่นย่อยๆ ไว้ไม่ชัดเจน ผมจึงต้องรวบรวมข้อมูลเพิ่มเติมจากหลายแหล่ง เพื่อมาแจกแจงให้ผู้อ่านได้ทำความรู้จักกันนะครับ
อัพเดทล่าสุดตอนนี้มิซูโน่ ได้ยกเลิกการผลิต รุ่น Wave Ignitus ไปแล้ว เหลือการผลิตรองเท้าฟุตบอลไว้ 4 รุ่น ได้แก่ REBULA, MORELIA, BASARA และ Monacida โดยตอนนี้แต่ละรุ่นจะมีรุ่นย่อยๆ อะไรบ้าง เรามาดูกันครับ
1. รุ่น REBULA (เร-บู-ล่า) เป็นรองเท้าฟุตบอลสาย ALL IN ONE มีคุณสมบัติรอบด้านอยู่ในคู่เดียวทั้งเรื่องความคล่องแคล่ว สปีด และการคอนโทรลบอลใส่ได้ตั้งแต่กองหน้า กองกลาง ยันกองหลัง มีนักเตะชื่อดังที่ใช้อยู่ เช่นโอคาซากิ ,เคสุเกะ ฮอนดะ, มาย่า โยชิดะเป็นต้น
ซึ่งใน REBULA จะมีการแบ่งออกเป็นรุ่นย่อยๆ อีก 4 รุ่น
1.1 REBULA V1 Made IN Japan
1.2 REBULA V1
1.3 REBULA V2
1.4 REBULA V3
2. รุ่น MORELIA (โม-เร-เหลีย) เป็นรองเท้าสายคลาสสิค ที่เน้นความนุ่มของหนังจิงโจ้และปัจจุบันได้พัฒนาจนเป็นรองเท้าหนังจิงโจ้ที่เบาที่สุดในโลกในชื่อของ MORELIA NEO มีนักเตะชื่อดังที่ใช้อยู่ เช่น ฮัคเป็นต้น ซึ่งใน MORELIA จะมีการแบ่งออกเป็นรุ่นย่อยๆ อีก 7 รุ่น
2.1 MORELIAII Made in Japan
2.2 MORELIAII
2.3 MORELIAClassic
2.4 MORELIA Club
2.5 MORELIA NEO II Made in Japan
2.6 MORELIA NEO II
2.7 MORELIA NEO KL
3. รุ่น BASARA (บา-ซา-ร่า) เป็นรองเท้าสายสปีดแต่เนื่องจากพรีเซ็นเตอร์ที่เคยใส่รองเท้ารุ่นนี้อยู่ ย้ายไปใส่รุ่น REBULA กันเกือบหมด ก็เป็นไปได้ BASARA อาจจะหยุดผลิตในอนาคตอันใกล้ ซึ่งใน BASARAจะมีการแบ่งออกเป็นรุ่นย่อยๆ อีก 3 รุ่น
3.1 BASARA 101
3.2 BASARA 102
3.3 BASARA 103
4. รุ่น Monacida (โม-นา-ซิ-ด้า) เป็นรองเท้าที่พัฒนาต่อมาจาก MORELIA NEO รูปร่างดูไกลๆ แทบจะคล้ายกัน ซึ่งใน Monacida จะมีการแบ่งออกเป็นรุ่นย่อยๆ อีก 3 รุ่น
4.1 Monacida NEO II Made in Japan
4.2 Monacida NEO
4.3 Monacida 2 FS
รุ่นย่อยๆ ของมิซูโน่มีถึง 17 รุ่นย่อย โดยเน้นไปทางรุ่น MORELIA ที่เป็นรุ่นเก่าแก่ที่มีมาอย่างยาวนาน และคาดว่าจะเป็นรุ่นที่เป็นแกนหลักให้กับทาง Mizuno ไปอีกหลายปี และจุดเด่นอีกอย่างหนึ่งที่ยังไม่ได้พูดถึงคือเรื่องของหนังจิงโจ้ที่มิซูโน่มักนำมาใช้ในการผลิต จะเป็นหนังเกรดพรีเมียม สวมใส่แล้วนุ่มสบาย ขยายตามรูปเท้า หลายคนจึงติดใจ
ตอนนี้การแจกแจงผ่านมาครบ 4 ยี่ห้ออย่างที่ตั้งใจไว้ ได้แก่ ไนกี้ อาดิดาสพูม่า และสุดท้ายคือมิซูโน่ซึ่งรวมแล้วมีรุ่นย่อยๆ ถึง 55 รุ่น ซึ่งก็เป็นไปตามที่ผมกล่าวไว้ตั้งแต่แรกว่าบางร้านเขามีวางขาย 4 ยี่ห้อนี้ แล้วมีรุ่นย่อยครบทุกรุ่น ใครเข้าไปก็ต้องสตั๊นกับสตั๊ด เพราะรุ่นเยอะมาก ลายตาไปหมด
แต่ถ้าไม่อยากสตั๊นรีบ Bookmark ติดดาว หรือแปะคอลัมน์ผมไว้ได้เลย เวลาไปซื้อรองเท้าฟุตบอลจะได้เปิดเอามาเปรียบเทียบดูได้ แล้วในสัปดาห์ถัดไปผมจะมาต่อที่เรื่องของไซส์รองเท้าของแต่ละยี่ห้อว่าเขานิยมใช้หน่วยอะไรในการเรียก อย่าลืมติดตามชมกันนะครับ