4 วิธีรับมือจากความสูญเสีย


แพทย์หญิงณัฏฐพัชร์ ลำเลียงพล จิตแพทย์โรงพยาบาล BMHH – Bangkok Mental Health Hospital กล่าวว่า การสูญเสียคนรักเป็นหนึ่งในประสบการณ์ที่ยากลำบากที่สุดในชีวิต ความรู้สึกเศร้า เสียใจ โหยหา และสิ้นหวังเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ จนทำให้หลายคนเกิดความเปลี่ยนแปลงด้านพฤติกรรม หลังจากช่วงเวลาแห่งการสูญเสีย ซึ่งหากไม่ได้รับการดูแลที่ถูกต้อง ก็จะส่งผลต่อสุขภาพจิตในทางลบเป็นอย่างมาก โดยสภาพจิตใจของผู้ที่ได้รับความกระทบกระเทือนหลังการสูญเสียบุคคลที่รักมีหลายรูปแบบด้วยกัน เช่น 

อาการทางความรู้สึก

  • เศร้า มึนชา ช็อก โกรธที่ตัวเองไม่สามารถป้องกันการตายนั้นได้ โกรธที่ผู้ตายทิ้งตัวเองไป โกรธที่หมอไม่สามารถรักษาผู้ตายได้ ความโกรธที่น่ากลัวที่สุดคือ การโกรธตัวเอง จนบางคนคิดอยากฆ่าตัวตายตามผู้ตายไป
  • สิ้นหวัง รู้สึกว่าอยู่ไม่ได้ถ้าไม่มีผู้ตาย
  • ความวิตกกังวล กลัวว่าจะอยู่โดยไม่มีผู้ตายไม่ได้
  • รู้สึกโดดเดี่ยว
  • รู้สึกโหยหา
  • หมดอาลัยตายอยาก
  • บางคนอาจมีความรู้สึกโล่งอก เช่น กรณีผู้ตายเจ็บป่วยทุกข์ทรมานมานาน เมื่อเขาจากไป คนข้างหลังอาจเกิดความรู้สึกโล่งใจที่เห็นเขาหมดทุกข์ 

อาการทางกาย

  • แน่นหน้าอก หายใจไม่อิ่ม เหนื่อยล้าอ่อนแรง หมดพลัง
  • อาการทางความคิด
  • ไม่อยากจะเชื่อว่าเขาเสียไปแล้ว
  • คิดหมกมุ่นวนเวียนถึงผู้ตาย
  • มีอาการสับสน
  • บางคนอาจมีหูแว่วเสียงผู้ตาย เห็นภาพหลอนเป็นภาพผู้ตาย

อาการทางพฤติกรรม

  • นอนไม่หลับ
  • กินไม่ได้
  • เหม่อลอย ใจลอย
  • แยกตัวจากสังคม
  • ฝันถึงผู้ตาย
  • เรียกหาผู้ตาย โดยอาจเรียกในใจหรือเรียกออกเสียง
  • ไปยังสถานที่ที่ทำให้นึกถึงผู้ตาย นำสิ่งของของผู้ตายติดตัว ใส่เสื้อผ้าหรือใช้สิ่งของของผู้ตาย

ซึ่งอาการเหล่านี้เกิดขึ้นได้ในช่วงแรกของการสูญเสีย แต่ถ้าเวลาผ่านไปแล้วอาการเหล่านี้ยังไม่ลดลงหรือเป็นมากขึ้นจนไม่สามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ ก็อาจมีความเสี่ยงที่จะเกิดโรคซึมเศร้า ดังนั้น การเรียนรู้เพื่อรับมือที่จะก้าวข้ามผ่านความสูญเสียและยอมรับความจริงจะช่วยให้ปรับตัวเข้ากับสถานการณ์และสามารถช่วยให้ใช้ชีวิตอย่างเป็นปกติ 

4 ขั้นตอนการรับมือเมื่อสูญเสียบุคคลอันเป็นที่รัก

ขั้นที่ 1 ยอมรับความจริงว่ามีการสูญเสียเกิดขึ้น

ต้องยอมรับความจริงว่า “เขาตายไปแล้วไม่สามารถมาเจอกันได้อีก” แต่ถ้ายังไม่ยอมรับการสูญเสียก็สามารถสังเกตอาการได้ดังนี้ เก็บข้าวของผู้ตายไว้ ทำเหมือนการสูญเสียเป็นเรื่องไม่สำคัญ หรือพยายามติดต่อกับวิญญาณผู้ตาย

ขั้นที่ 2 รับรู้ความเจ็บปวดจากการสูญเสีย

ความเจ็บปวดจากการสูญเสียเป็นเรื่องปกติ การพยายามเลี่ยงหรือเก็บกดความรู้สึกไว้จะยิ่งทำให้กระบวนการก้าวข้ามความสูญเสียเป็นไปได้ช้าลง ดังนั้น ต้องยอมรับความรู้สึกสูญเสียที่เกิดขึ้น ระบายความรู้สึกออกมาด้วยการพูด การเขียน หรือร้องไห้

ขั้นที่ 3 ปรับตัวอยู่กับสิ่งแวดล้อมใหม่ที่ไม่มีคนรัก

ขึ้นอยู่กับผู้ตายเคยมีภาระหน้าที่ใด ผู้ที่ยังอยู่ต้องเรียนรู้ที่จะอยู่ต่อให้ได้และปรับการดำเนินชีวิตต่อไปโดยไม่มีบุคลลอันที่เป็นที่รักแล้ว

ขั้นที่ 4 ความรู้สึกสูญเสียเบาลงและเริ่มต้นความสัมพันธ์ใหม่

หลายคนพอสูญเสียคู่ครองจะไม่กล้าเริ่มต้นความสัมพันธ์ใหม่ อาจคิดว่าเป็นการไม่ซื่อสัตย์กับผู้เสียชีวิต กลัวสูญเสียคนใหม่อีก กลัวมีปัญหากับลูก หรือคิดว่าไม่สามารถรักใครได้อีกแล้ว ต้องทำความเข้าใจใหม่ว่า “การรักคนใหม่ไม่ได้ทำให้ความรักที่มีต่อคนเก่าลดลงเลย”

ทั้งนี้ ควรสังเกตอาการตัวเองหลังสูญเสียบุคคลอันเป็นที่รัก ว่ายังคงมีความรู้สึกเสียใจนานเกิน 3-6 เดือน หรือมีความเสียใจเรื้อรังจนส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวันหรือไม่ เช่น เก็บตัวไม่ออกไปพบใครนานนับเดือน อยากตายตามคนที่เรารักไป นอนไม่หลับอย่างต่อเนื่อง ละเลยสุขอนามัยจนร่างกายอ่อนแอ แนะนำให้มาปรึกษาจิตแพทย์หรือนักจิตวิทยาเพื่อรับการรักษาและคำแนะนำอย่างเหมาะสม

แพทย์หญิงณัฏฐพัชร์ ลำเลียงพล จิตแพทย์โรงพยาบาล BMHH – Bangkok Mental Health Hospital