คอซีรีส์เกาหลีอาจจะคุ้นเคยกับรูปแบบซีรีส์ทั่ว ๆ ไปที่มักเล่าถึงเรื่องราวของคู่พระนางก่อนที่จะรักกันและสุขสมหวัง happy ending ในตอนจบใช่ไหม ส่วนใหญ่ซีรีส์จะนำเสนอภาพนั้นแหละ แต่มักจะไม่มีใครได้รู้ว่าชีวิตหลังจากที่พวกเขารักกันแล้วมันเป็นยังไง จริง ๆ ก็มีซีรีส์อีกส่วนที่นำเสนอภาพของปัญหาครอบครัว ตัวเอกแต่งงานแล้ว ต่อมาประสบปัญหาต่าง ๆ มากมาย โดยเฉพาะเรื่องนอกใจ นำไปสู่การแยกทาง และการลุกขึ้นมายืนหยัดให้ได้อีกครั้งหลังจบปัญหาทุกอย่าง อย่างไรก็ตาม จะมีซีรีส์สักกี่เรื่องที่นำเสนอ “ปัญหาเรื่องบนเตียง” ของคู่พระนางที่แต่งงานกันแล้ว และยังอยู่กินกันฉันสามีภรรยา เรื่องอื่นอาจไม่ทำ แต่เรื่อง LTNS ทำ!
LTNS เห็นตัวย่อแบบนี้หลายคนอาจจะเข้าใจว่าเป็นตัวย่อมาจาก Long Time No See ที่มักใช้ในแชตหรืออีเมล ซึ่งแปลไทยว่า “ไม่ได้เจอกันนานเลยนะ” แต่ความเกาหลีอะเนอะ เขามีความล้ำกว่านั้นเยอะ ชื่อของซีรีส์เรื่องนี้ที่ใช้ตัวย่อ LTNS เหมือนเดิม แต่ชื่อเต็ม ๆ ของซีรีส์เรื่องนี้ คือ Long Time No Sex! ต่างหากล่ะคะท่านผู้ชม แล้วถ้าจะให้แปลเป็นไทยล่ะก็ หมายความว่า “นานมากแล้วนะที่ไม่ได้มีเซ็กซ์” นั่นเอง ดังนั้น นี่คือคำเตือน ซีรีส์เรื่องนี้มีเนื้อหา 18+ ถ้าอยู่กันหลายคน กรุณาอย่าเปิดลำโพงเสียงดัง และควรมีหูฟังประกอบการดูซีรีส์ด้วย
LTNS เป็นเรื่องราวของคู่สามีภรรยาคู่หนึ่ง ที่ “เคย” มีความสัมพันธ์กันอย่างเร่าร้อนในช่วงออกเดต แต่ทุกอย่างเปลี่ยนไปหลังจากที่ทั้งคู่แต่งงาน และใช้ชีวิตคู่กันมานาน 7 ปี แม้ว่าภาพภายนอกที่ใครต่อใครเห็น ทั้งคู่จะยังเป็นคู่รักที่รักและช่วยเหลือกันดี แต่ความจริงแล้ว พวกเขาเป็นคู่สามีภรรยาที่ไม่ได้มีเซ็กซ์กันมานานมาก นานชนิดที่ว่าจำไม่ได้ว่าครั้งล่าสุดคือเมื่อไร ทั้งคู่รู้ดีว่าปัญหาคืออะไร และเคยนั่งจับเข่าคุยกันว่าจะแก้ปัญหานี้ยังไงดี แต่ระหว่างนั้น ทั้งคู่ก็ดันไปล่วงรู้ความลับของเพื่อนคนหนึ่งที่กำลังคบชู้เข้า นี่จึงกลายเป็นจุดเริ่มต้นของปฏิบัติการตามล่าแฉคนคบชู้!
เพราะเพื่อนคนนั้นกลัวจะถูกแฉว่ามีชู้ และจะทำให้ตัวเขากับภรรยาต้องเลิกรากันไป ชีวิตครอบครัวอาจต้องพังทลาย เขายังรักภรรยาของเขาและไม่ต้องการเลิกกับเธอ (แต่ให้เลิกกับชู้ก็ไม่เอาเหมือนกัน อิหยังวะนี่!) เขาพยายามขอร้องสามีภรรยาคู่นี้ว่าอย่าแฉเรื่องที่เขามีชู้ได้ไหม เนื่องจากภรรยาของทั้งคู่สนิทกัน ธรรมชาติของผู้หญิงเมื่อรู้ว่าเพื่อนของตัวเองกำลังถูกสวมเขา ย่อมทนดูไม่ได้อยู่แล้ว เธอจะต้องไปบอกภรรยาของเขาอย่างแน่นอน แต่เมื่อขอร้องดี ๆ ไม่เป็นผล เขาจึงใช้ไม้ตาย ยอมใช้เงินปิดปากสามีภรรยาคู่นี้ซะ เงินจำนวนมากขนาดนั้นใครไม่รับก็เสียดายแย่ ที่สำคัญสภาพทางการเงินของสามีภรรยาคู่นี้ในเวลานี้ก็เข้าขั้นแย่ มันจึงเป็นข้อแลกเปลี่ยนที่สมน้ำสมเนื้อดี
เมื่อการรู้ความลับว่าเพื่อนมีชู้สามารถทำเงินให้กับสามีภรรยาคู่นี้ได้เป็นกอบเป็นกำ แน่นอนว่ามันต้องมีคนอีกมากที่จะยอมจ่ายเพื่อซื้อความมั่นคงของครอบครัวไม่ให้พังทลายลงไป เพราะถูกแฉว่าไปแอบมีความสัมพันธ์อื่นกับคนที่ไม่ใช่สามีหรือภรรยาของตัวเอง จึงเกิดเป็นไอเดียสุดบรรเจิด ไล่ล่าตามสืบหาคู่ชู้คู่อื่น ๆ ที่ไม่อยากถูกแฉ แล้วแบล็กเมล์ขู่เอาเงินดีกว่า เรื่องข้อมูลก็สืบไม่ยากอยู่แล้วด้วยหน้าที่การงานของทั้งคู่ ตัวภรรยาเป็นพนักงานต้อนรับของโรงแรม 3 ดาว ที่เธอมักจะได้กลิ่นตุ ๆ จากลูกค้าที่มาขอเปิดห้องอยู่บ่อย ๆ ว่าใครมาเปิดห้องกับชู้ ส่วนสามีก็ยึดอาชีพขับรถแท็กซี่ ขับตามสืบได้สบาย ๆ
นายรักผู้หญิงสองคนพร้อมกันได้ แต่ห้ามมากกว่านั้น ถ้าสามคนขึ้นไปจะไม่ใช่ความรักแล้ว
เอ้อ! ว่าไม่ได้นะซีรีส์เรื่องนี้ กับการเปิดตัวคู่ชู้คู่แรก (คู่เพื่อน) ด้วยผู้ชายที่มีตรรกะและทัศนคติแบบนี้ ถึงจะงงนิดหน่อยแต่ไม่เข้าใจมาก ๆ คำว่าอิหยังวะเต็มหัวไปหมด ทว่าส่วนตัวก็คิดว่ามันเรียลดี เพราะโลกนี้มันมีอยู่จริง ๆ แหละคนที่มีตรรกะแบบนี้ ใช้ข้ออ้างนี้ในการสนับสนุนว่าการมีชู้ไม่ใช่เรื่องผิดอะไร ก็ทำไมอะ ก็แค่รักผู้หญิงพร้อมกัน 2 คนเอง คนนึงเป็นเมีย ส่วนอีกคนเป็นแฟน (หัวจะปวด) เมียก็ไม่อยากหย่า แฟนก็ไม่อยากเลิก อยากเก็บเธอไว้ทั้ง 2 คน แถมยังมีหน้ามาสอนตรรกะบ้ง ๆ นี้กับเพื่อนอีก เกลียดความแอบพ่วงความดูเป็นคนดีเข้ามานิดหน่อย ว่าได้แค่ 2 เท่านั้นนะเฮ้ย จะมากกว่านี้ไม่ได้ มีสองยังเรียกว่าความรักได้ แต่ถ้ามีสามขึ้นไป มันจะไม่ใช่ความรัก
ในขณะเดียวกัน ก็ชื่นชมวิธีคิดพล็อตซีรีส์ของเกาหลีเขานะ แม้ว่าซีรีส์เรื่องนี้จะเป็นแนวโรแมนติกคอมเมดี้ขายขำแบบติดเรต 18+ แต่เนื้อหาจริง ๆ เขาก็ไม่ได้ตั้งใจให้คนดูรู้สึกตลกขบขันหรือมองว่าเรื่องการมีชู้เป็นเรื่องเล็ก ๆ แต่อย่างใด มันค่อนข้างสื่อให้เห็นชัดเจนว่าทุกการตัดสินใจมีราคาที่ต้องจ่าย และในตอนต้นเรื่อง หลายคู่อาจยอมจ่ายเป็นเงินมหาศาลเพื่อรักษาสถานภาพของครอบครัวไว้ แต่ถ้าคนเหล่านั้นยังคิดไม่ได้ว่าการมีชู้เป็นเรื่องผิด เรื่องที่ไม่สมควร และเป็นเรื่องที่ทำลายทุกคนที่เกี่ยวข้อง สุดท้ายคนเหล่านี้อาจจะต้องจ่ายค่าการมีชู้ ด้วยสิ่งที่มีค่าและสำคัญที่สุดในชีวิตไปก็ได้ ซึ่งกว่าจะรู้ว่าสิ่งที่กำลังจะสูญเสียเป็นสิ่งที่สำคัญมากที่สุด มันก็อาจจะสายไปแล้วก็ได้
อีกอย่างที่รู้สึกประทับใจซีรีส์เรื่องนี้ คือการที่เขาครีเอตคู่ที่มีชู้ให้ออกมาแบบหลากหลายดี ทั้งผู้ชายตรรกะบ้ง มีเมียไม่พออยากมีแฟนด้วย คู่แต่งงานหนุ่มสาวที่แต่งงานแล้วรู้สึกว่าตัวเองอยู่ในสุสานของความรัก แอบแซ่บเพื่อนร่วมงานสาวที่ทั้งโสดทั้งเด็ดดีกว่า คู่ชู้วัยเก๋า ความผิดพลาดในวัยหนุ่มสาวทำให้เจอคู่เวรคู่กรรม แต่มาเจอคนที่ใช่กว่าในวันที่สายไป และล่าสุด คู่ชู้ LGBTQ แต่งงานมีสามีไปแล้วแต่ยังเทียวไปมาหาสู่กับคู่ขาเลสเบี้ยน คือมันทำให้เห็นว่าปัญหาเล็ก ๆ น้อย ๆ ในบ้านแต่ละหลัง อาจ (ย้ำนะว่าอาจ) จะทำให้ใครบางคนตัดสินใจมีชู้ได้
เราอดทนกันมาขนาดนั้น นายไม่โกรธเหรอที่ถูกตอบแทนแบบนี้ ดูเราสิ บอกตามตรง เราไม่มีอนาคตหรอก ไม่ว่าเราจะพยายามแค่ไหน เราก็จะเป็นแบบนี้ไปจนตาย
ซีรีส์เกาหลีก็เข้าใจหยิบเรื่องราวแบบนี้มาสร้างพล็อตเรื่องนะ มันสะท้อนให้เห็นถึงความรักของหนุ่มสาวยุคใหม่ได้ดี กล้าที่รัก มีอิสระในร่างกายตัวเอง การมองเรื่องของเซ็กซ์ที่มันเป็นเรื่องธรรมชาติ และการแต่งงาน ที่เข้าใจกันว่าแค่ความรักก็พอ เธอรักฉัน ฉันรักเธอ เรารักกัน แค่นั้นก็พอ แต่พอเปลี่ยนสถานะจากแฟนมาแต่งงานอยู่กินกันฉันสามีภรรยาเข้าจริง ๆ หลายคู่ก็เริ่มตาสว่างว่าชีวิตที่อยู่บนพื้นฐานของความเป็นจริงมันไม่ได้สวยงามแบบในนิยายปรัมปรา ที่ชอบเขียนตอนจบแค่ว่า “เจ้าหญิงเจ้าชายได้ครองรักกันอย่างมีความสุข” ทั้งที่โลกแห่งความเป็นจริงมันไม่ได้ง่าย ๆ แบบนั้น มันยังมีเรื่องการทำมาหาเลี้ยงชีพให้อยู่รอด การมีชีวิตพื้นฐานไม่ต่ำกว่ามาตรฐาน เรื่องนี้ชวนเครียดกว่าเยอะ
นั่นแหละ พอทุกอย่างมันไม่เป็นไปตามที่ใจคิด มันก็พาลทำให้ความรู้สึกในความสัมพันธ์ถูกบั่นทอนลงไป ตอนเป็นแฟนกันธรรมดา ๆ อยู่คนละบ้าน ต่างคนต่างทำมาหากินเลี้ยงตัวเองคนเดียว แต่พอแต่งงานแล้ว ทุกอย่างมันจะถูกแชร์หมด การหมกมุ่นทำงานหาเงินเข้าบ้าน ทำให้เวลาที่คู่รักจะได้ใช้เวลาอยู่ด้วยกันค่อย ๆ หาไป อารมณ์ร่วมไม่ค่อยมี กลับมาจากทำงานก็เหนื่อย อยากนอน นำไปสู่ความหมางเมินกันแบบที่คู่พระนางของเราเป็น มันเป็นความจืดชืด ไม่อินกับการเล้าโลมจากอีกฝ่าย คนหนึ่งมีอารมณ์แต่อีกคนไม่มี นานวันเข้า มันก็กลายเป็นความคุ้นชินที่ต้องจัดการความต้องการทางเพศของตัวเองไป ยังคงความสัมพันธ์แบบสามีภรรยากันไว้ แต่ห่างร้างจากเรื่องบนเตียง
จริง ๆ แล้วเคมีของนักแสดง “อีซม” และ “อันแจฮง” กับการมาเล่นเป็นสามีภรรยากันเนี่ยดูเป็นธรรมชาติดีมากนะ แล้วด้วยฝีมือ ทั้ง 2 คนทำให้คนดูรู้สึกกระอักกระอ่วนกับความเป็นผัวเมียของคู่นี้มากเลยทีเดียว รู้สึกอินตาม มันเป็นความสัมพันธ์ที่พวกเขาไม่ได้โกรธเกลียดอะไรกัน มีทะเลาะกันบ้างแบบสามีภรรยาทั่วไป ยังห่วงหาอาทรช่วยเหลือกันอยู่ แต่กลับไม่สามารถมีอารมณ์ร่วมที่จะมีเซ็กซ์กันได้ เพราะสัมผัสได้ว่ามันมีความห่างด้วยอะไรสักอย่าง พยายามแก้ปัญหากันแค่ไหนก็ไปไม่รอด แต่การที่พวกเขาต้องกลายมาเป็นนักสืบคอยสืบเรื่องชาวบ้านมีชู้ กลับทำให้คนดูยังรู้สึกเลยว่าสองผัวเมียไร้เซ็กซ์คู่นี้ ยังได้ใช้เวลาใกล้ชิดสนิทสนมกันแบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อน จากการสุมหัววางแผนกัน
เรื่องที่เริ่มจากความห่างเหิน เป็นผัวเมียที่ไม่มีเซ็กซ์กันมานานแรมปี ขยับไปสู่การล่วงรู้ความลับเรื่องการนอกใจของเพื่อน และก้าวเข้าสู่การแบล็กเมล์เพื่อเอาเงินมาใช้ในครอบครัว กลัวก็กลัวแต่ชีวิตต้องใช้เงิน ไหน ๆ พวกเขาก็ไม่มีอนาคตกันอยู่แล้ว พวกเขาไม่มีอะไรจะเสีย แต่คนที่กำลังจะถูกแฉนี่สิมีอะไรให้เสียหายตั้งมากมาย คนเหล่านั้นจึงพยายามจะรักษามันไว้ จ่ายเท่าไรก็ยอม ทีนี้ก็ต้องมาตามดูกันต่อว่าผัวเมียคู่นี้จะกลับมาเร่าร้อนกันได้เหมือนเดิมไหม ซีรีส์มีแค่ 6 ตอนเอง คงจะได้คำตอบกันในไม่ช้า
น่าจะกินยาคุมให้มันดี ๆ
ถึงพล็อตหลักของซีรีส์เรื่องนี้จะพูดถึงคู่สามีภรรยาที่อยู่ในขั้นระหองระแหง หมางเมินในการทำกิจกรรมทางเพศเพื่อกระชับความสัมพันธ์ของชีวิตคู่ พ่วงมาด้วยเรื่องของการลักลอบมีชู้ที่ห้ามครอบครัวรู้ ถ้าเกือบจะรู้ ต้องเอาเงินปิดปากคนแฉไว้ก่อน แต่ทั้งหมดทั้งมวล มันก็ชัดเจนว่าเป็นซีรีส์ครอบครัวดี ๆ นี่แหละ ความสัมพันธ์คู่รักพระเอกนางเอกอาจจะขาด ๆ เกิน ๆ ใช้เล่าเรื่องได้ไม่ครอบคลุม แต่ก็ยังมีคู่รักคู่อื่น ๆ ที่เข้ามาช่วยขยายความคำว่าครอบครัวให้มันมีมุมมองที่หลากหลายขึ้น คู่พระเอกนางเอกที่เป็นตัวละครหลัก ตอนนี้คือจ้องแต่จะตามแบล็กเมล์คนที่มีชู้เพื่อหาเงินมาใช้จ่ายในบ้าน แต่กับครอบครัวอื่นที่คู่นี้ไปตามแบล็กเมล์เขา ต่างก็มีเรื่องเล่าในอีกหลากหลายมุมของครอบครัว
ยกตัวอย่างง่าย ๆ ที่ครอบครัวพี่สาวนางเอกล่ะกัน เธอเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยวที่มีลูก 3 คน เลิกรากับสามีเก่าที่ส่งเงินค่าเลี้ยงดูให้เหมือนเงินทอน ทำให้เธอต้องทำงานอย่างหนักเพื่อหาเลี้ยงเด็กทั้ง 3 คน อย่างไรก็ตาม มีอยู่คนหนึ่งที่ฉายแววความเป็นอัจริยะด้านดนตรี แต่สิ่งที่ประสบก็คือ การไม่มีเงินที่จะสนับสนุนลูกให้ไปได้ไกลกว่านี้ ขนาดวันที่ลูกแข่งขันชนะเลิศ คนเป็นแม่ยังไม่มีเงินที่จะซื้อช่อดอกไม้แสดงความยินดีกับลูกด้วยซ้ำไป ทุกครั้งที่ลูกลงแข่งก็ไม่มีเงินจะเช่าชุดสวย ๆ ให้ลูกใส่ และหลังจากนั่งปรับทุกข์กับน้องสาวอยู่สักพัก เธอก็เริ่มคร่ำครวญออกมาว่าตัวเองน่าจะกินยาคุมให้มันดี ๆ
การมีลูกทั้งที่ไม่พร้อมในยุคนี้เป็นหนทางสู่นรกของแท้ แล้วแถมนี่ยังมีตั้ง 3 คนอีก ถ้าเธอจะคร่ำครวญออกมาในขณะที่ขาดสติ มันก็ไม่ได้เซอร์ไพรส์อะไรเลย แต่ก็อย่างว่า มันเป็นเรื่องที่กลับไปแก้ไขอะไรไม่ได้แล้ว ได้แต่ทำใจแล้วก้มหน้าก้มตาทำงานหาเงินเลี้ยงลูกต่อไป
หรือจะยกตัวอย่างที่คู่ชู้นักปีนเขาอีกคู่ก็ได้ คู่นี้จะดูสูงอายุหน่อย แล้วการเล่นชู้ของคู่นี้มันก็ออกจะหวือหวาไปนิด แต่พอเรื่องเฉลยความเป็นมาของการมาเป็นชู้กันของคู่นี้ ความเดือดดาลในใจมันกลับลดลงได้หน่อยนึง แน่นอนว่าการเล่นชู้ยังเป็นเรื่องผิดและเรื่องที่ไม่น่าให้อภัยอยู่วันยังค่ำ มันคือการปล่อยตัวปล่อยใจไปตามอารมณ์ความรู้สึกมากกว่าจะใช้หลักศีลธรรมเข้ามาหักห้ามความอยากของตัวเองที่เข้าครอบงำ แต่ไม่มีใครบอกนี่น่าว่าเราจะต้องรู้โกรธหรือเดือดดาลกับคนเหล่านั้นได้เพียงความรู้สึกเดียวเท่านั้น ถ้าเรื่องราวความเป็นมามันมีประเด็น เราสามารถมีความรู้สึกเห็นอกเห็นใจเพื่อนมนุษย์ด้วยกันได้เหมือนกัน เพราะความเห็นใจกับความถูกผิด มันคนละเรื่องกันอยู่แล้ว
ภาพแรกของซีรีส์ LTNS อาจจะเป็นซีรีส์ขายขำที่ติดเรต 18+ ไปสักหน่อยก็จริง แต่เนื้อหาของมันไม่ได้ชวนสยิวอย่างที่คิดเลย ก็อย่างที่บอกไปก่อนหน้านี้ว่าซีรีส์เรื่องนี้น่าจะเป็นซีรีส์ครอบครัวดี ๆ นี่แหละ พล็อตหลักเล่าเรื่องเซ็กซ์กับชีวิตแต่งงาน แต่สอดแทรกความเป็นครอบครัวของแต่ละบ้านเอาไว้ให้น่าขบคิด ชีวิตคู่มันมีอะไรที่มากกว่าความรัก แล้วที่สำคัญก็คือ สองผัวเมียที่ไปตามติดชีวิตรักของชาวบ้านอย่างพระเอกนางที่กำลังเผชิญภาวะชีวิตรักจืดชืด จะได้รับบทเรียนอะไรจากงานใหม่ที่ทำอยู่นี้บ้างก็เป็นเรื่องที่ต้องติดตาม พวกเขาจะฟื้นฟูความสัมพันธ์กลับมาเป็นคู่รักที่ซาบซ่า จากการถอดบทเรียนชีวิตของผู้คนมากมายที่เลือกที่จะมีชู้ได้หรือเปล่า 📸
