วรุณ เอี่ยมแก้ว นักกอล์ฟวัย 28 ปีจากพิษณุโลก หวด 5 อันเดอร์พาร์ 65 เป็นวันที่สองติดต่อกัน รวมสี่วัน 15 อันเดอร์พาร์ 265 คว้าชัยชนะ 1 สโตรก ครองแชมป์ออลไทยแลนด์กอล์ฟทัวร์รายการที่สองและเป็นแชมป์ที่สามในการเล่นอาชีพ ในการแข่งขันกอล์ฟอาชีพรายการสิงห์ บางกอก โอเพ่น 2023 ชิงเงินรางวัลรวม 3 ล้านบาท ณ สนามบางกอก กอล์ฟ คลับ ระยะ 6,512 หลา พาร์ 70 จ.ปทุมธานี เมื่อวันที่ 10 กันยายน 2566 ที่ผ่านมา
การแข่งขันกอล์ฟอาชีพสะสมคะแนนอันดับโลก ออล ไทยแลนด์ กอล์ฟ ทัวร์ 2023 จากการสนับสนุนโดย สิงห์ คอร์เปอเรชั่น, กองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ การกีฬาแห่งประเทศไทย รวมถึงพันธมิตรผู้ร่วมสนับสนุนจัดแข่งขันรายการ “สิงห์ บางกอก โอเพ่น 2023” ชิงเงินรางวัลรวม 3 ล้านบาท ระหว่างวันที่ 7-10 กันยายน 2566 ณ สนามบางกอก กอล์ฟ คลับ ระยะ 6,512 หลา พาร์ 70 จ.ปทุมธานี นับเป็นรายการที่สิบของออลไทยแลนด์กอล์ฟทัวร์ฤดูกาลนี้ ผู้ชนะจะได้รับเงินรางวัล 450,000 บาท พร้อมคะแนนสะสมอันดับโลก
การแข่งขันรอบสุดท้ายเมื่อวันที่ 10 ก.ย. ที่ผ่านมา วรุณ เอี่ยมแก้ว นักกอล์ฟวัย 28 ปีจากพิษณุโลกซึ่งออกสตาร์ตด้วยการตามหลังผู้นำถึง 5 สโตรก เก็บเพิ่มอีก 5 เบอร์ดี้แบบไม่เสียโบกี้แม้แต่หลุมเดียว ซึ่งรวมถึงเบอร์ดี้ที่หลุม 18 พาร์ 5 ระยะ 536 หลาที่ทำให้เขาจบสกอร์ 5 อันเดอร์พาร์ 65 เป็นวันที่สองติดต่อกัน รวมสี่วันคว้าชัยชนะ 1 สโตรกด้วยสกอร์รวม 15 อันเดอร์พาร์ 265 รับเงินรางวัลไปครอง 450,000 บาท
นับเป็นการคว้าแชมป์เป็นรายการที่สองติดต่อกันของ วรุณ เอี่ยมแก้ว หลังจากเมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมาเพิ่งคว้าแชมป์ไทยแลนด์พีจีเอทัวร์รายการแรกในชีวิตที่สนามกบินทร์บุรีสปอร์ตคลับ หรือเคบีเอสซี และเป็นการคว้าแชมป์ออลไทยแลนด์เป็นรายการที่สองต่อจากชัยชนะที่ แม่โจ้ กอล์ฟ รีสอร์ท แอนด์ สปา เมื่อเดือนสิงหาคม 2022 ที่ผ่านมา ซึ่งนักกอล์ฟวัย 28 ปีจากพิษณุโลกกล่าวว่า “ต้องขอขอบคุณแคดดี้ที่เป็นเพื่อนกันที่คอยให้กำลังใจกันตลอดการแข่งขัน คอยบอกหรือช่วยหยอกล้อทำให้เกมไม่เครียดมากจนเกินไป ซึ่งสุดท้ายแล้วมันทำให้ผลงานออกมาได้ดีครับ”
ก่อนเริ่มวันสุดท้ายด้วยการตามหลังผู้นำ 5 สโตรก วรุณ ยอมรับว่าแค่ลงมาเล่นตามเกมของตัวเองเท่านั้น “ตอนสตาร์ตออกมาก็เล่นเกมเดิมครับ พยายามตีอันเดอร์สนามให้ได้วันละ 3 หรือ 4 อันเดอร์ก็ถือว่าเข้าเป้าแล้ว จนกระทั่งหลุมสุดท้ายเห็นว่าสกอร์มีลุ้นแล้วพอดีไดร์ฟออกมาลูกอยู่ในไลน์ที่ดี ก็เลยเปิดโอกาสให้กับตัวเองด้วยการเล่นเกมบุกขึ้นมาเพราะมันสามารถที่จะทำคะแนนเพิ่มได้ แล้วมันก็เป็นเบอร์ดี้ที่สำคัญ”
ทางด้าน อมรินทร์ กรัยวิเชียร นักกอล์ฟวัย 26 ปี จากกรุงเทพฯ ที่ออกสตาร์ตรอบสุดท้ายในฐานะผู้นำ 2 สโตรก ปรากฏว่ารอบสุดท้ายตีเกินไป 1 โอเวอร์พาร์ 71 รวมสี่วัน 14 อันเดอร์พาร์ 266 จบอันดับสองร่วมกับ แสงชัย แก้วเจริญ (65), พรหม มีสวัสดิ์ (68) และ ภูมิ ศักดิ์แสนศิลป์ (69) รับเงินรางวัลไปคนละ 167,625 บาท
ส่วน พสิษฐ์ เอี่ยมผ่องใส ซึ่งจบการแข่งขันในรอบสุดท้ายด้วยสกอร์ อีเวนพาร์ 70 รวมสี่วัน 3 อันเดอร์พาร์ 277 จบการแข่งขันในอันดับที่สามสิบเอ็ดร่วม ทว่าเป็นผลงานของนักกอล์ฟสมัครเล่นที่ดีที่สุดในรายการนี้ ส่งผลให้ พสิษฐ์ คว้ารางวัลศุภพร มาพึ่งพงศ์ ไปครองในฐานะสมัครเล่นที่ทำผลงานได้ดีที่สุด
สรุปผลสิงห์ บางกอก โอเพ่น 2023 (สนามพาร์ 70)
265 วรุณ เอี่ยมแก้ว 67-68-65-65 (เงินรางวัล 450,000 บาท)
266 แสงชัย แก้วเจริญ 62-68-71-65, พรหม มีสวัสดิ์ 69-66-63-68, ภูมิ ศักดิ์แสนศิลป์ 67-66-64-69, อมรินทร์ กรัยวิเชียร 68-63-64-71 (เงินรางวัลคนละ 167,625 บาท)
267 ศรัณย์ ศิริธร 67-65-69-66 (เงินรางวัล 81,750 บาท)
268 พิสิฐชัย ทิพย์พงษ์ 68-66-63-71 (เงินรางวัล 72,600 บาท)
269 วาริษ มั่นธรณ์ 65-67-67-70 (เงินรางวัล 66,600 บาท)
270 นพรัฐ พานิชผล 67-72-66-65, ภูสิทธิ์ ทรัพย์อัประไมย 69-66-69-66, เศรษฐี ประคองเวช 69-68-66-67 (เงินรางวัลคนละ 57,300 บาท)
272 รัญชนพงศ์ อยู่ประยงค์ 68-64-74-66, ธาวิท พลไทย 66-70-70-66, จักรพันธุ์ เปรมสิริกรณ์ 67-70-69-66, ภาณุพล พิทยารัฐ 64-70-67-71 (เงินรางวัลคนละ 47,400 บาท)
273 ภวินท์ อิงคะประดิษฐ์ 71-67-70-65, อุดร ดวงเดชา 63-71-70-69, พล เขมรัตน์ 66-70-68-69 (เงินรางวัลคนละ 41,400 บาท)
274 ปิยะ สว่างอรุณพร 72-68-68-66, กิตติพร ชวนะพงศ์ 68-70-73-63 (เงินรางวัลคนละ 37,650 บาท)
275 เนติพงศ์ ศรีทอง 71-66-71-67, พอล แฮร์ริส (สหรัฐฯ) 70-69-69-67, วิชญภัทร สินสร้าง 71-68-69-67, สุประวีณ์ ผาธรรม 66-70-71-68, มินห์ยอก ยาง (เกาหลีใต้) 71-68-71-65, ชโยดม จันทร์จารุพงศ์ 65-65-72-73 (เงินรางวัลคนละ 34,275 บาท)
