กลายเป็นกระแสให้คอซีรีส์ชาวไทยพูดถึงกันอย่างมากทีเดียว หลังจากที่ซีรีส์เกาหลีเรื่องดัง King The Land (Netflix) ที่นำแสดงโดยอีจุนโฮ (2PM) และอิมยุนอา (Girls’ Generation) ออนแอร์ตอนที่เดินทางมาถ่ายทำที่ประเทศไทย โดยมีสถานที่สำคัญ ๆ ปรากฏในซีรีส์มากถึง 10 แห่ง และปลุกกระแสการท่องเที่ยวประเทศไทยให้นักท่องเที่ยวต่างชาติที่สามารถเข้าถึงคอนเทนต์ของ Netflix หลายคนให้อยากจะมาเยือนไทยไม่มากก็น้อย แม้แต่คนไทยเอง หลังจากที่ได้เห็นมุมกล้องและภาพที่สวยงามของสถานที่ที่คุ้นเคย ยังอยากจะออกจากบ้านไปเที่ยวตามรอยพระ-นางของเรื่องอีกสักหลาย ๆ รอบเลย
อย่างไรก็ดี นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ซีรีส์เกาหลียกกองมาถ่ายทำที่เมืองไทย นานมากแล้วที่ซีรีส์เกาหลีหลายเรื่องก็เคยยกกองแดนกิมจิลัดฟ้ามาถ่ายที่ไทยเหมือนกัน Tonkit360 จึงจะพาย้อนรอยว่ามีซีรีส์เรื่องไหนบ้าง
Full House (2004)
เริ่มต้นกันที่ซีรีส์ในตำนานที่เปิดโลกแห่งวงการซีรีส์เกาหลีให้กับคนไทย ติ่งซีรีส์เกาหลียุคแรก ๆ ไม่มีใครที่ไม่รู้จักซีรีส์เรื่องนี้ Full House สะดุดรักที่พักใจ นำแสดงโดยซุปตาร์หนุ่มลูกสอง “เรน” และ “ซงฮเยคโย” นางเอกเบอร์ต้นของวงการบันเทิงเกาหลี สมัยนั้นซีรีส์เรื่องนี้โด่งดังในไทยมาก จนทำให้หลาย ๆ คนลองก้าวเท้าเข้าสู่วงการซีรีส์เกาหลี (และยังหาทางออกไม่ได้มาจนถึงปัจจุบัน) ที่ซีรีส์เรื่องนี้เป็นกระแสอย่างมากในไทยช่วงนั้น น่าจะเป็นเพราะข่าวที่ว่าซีรีส์เรื่องนี้มีส่วนหนึ่งถ่ายทำที่ประเทศไทยนี่แหละ ซึ่งตามเรื่อง จะเป็นช่วงเวลาที่พระ-นางซึ่งแต่งงานกัน (หลอก ๆ) พากันมาฮันนีมูนที่ประเทศไทย โดยโลเคชันที่ใช้ถ่ายทำฉากก็คือ “เกาะภูเก็ต” นั่นเอง
Princess Hours (2006)
ซีรีส์อีกเรื่องที่ติ่งคนไทยหลายคนอวยขึ้นหิ้งในฐานะซีรีส์ในตำนานที่นำพาเข้าสู่วงการซีรีส์เกาหลี ซีรีส์เรื่อง Princess Hours หรือที่รู้จักในชื่อไทยว่า เจ้าหญิงวุ่นวายกับเจ้าชายเย็นชา นำแสดงโดย “คิมจองฮุน” และ “ยุนฮึนเฮ” ยังจำกันได้ใช่ไหม เรื่องราวขององค์รัชทายาทหนุ่มที่ถูกคลุมถุงชนให้แต่งงานกับหญิงสาวสามัญชน เนื้อเรื่องช่วงหนึ่ง องค์ชายต้องเดินทางมาปฏิบัติภารกิจเชื่อมสัมพันธไมตรีไทย-เกาหลี ซีรีส์เรื่องนี้จึงได้ถ่ายทำในหลายสถานที่ที่เป็นแลนด์มาร์กของไทย ทั้งสนามบินสุวรรณภูมิ ตลาดน้ำดำเนินสะดวก ถนนข้าวสาร อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย และมีองค์ประกอบอื่น ที่แสดงถึงความเป็นไทย เช่นตุ๊กตุ๊ก สงกรานต์ วัดวาอาราม และการแสดงโขน
Time Between Dog and Wolf (2007)
เชื่อว่าแฟน ๆ ซีรีส์เกาหลีรุ่นแรก ๆ ทุกคนจะต้องรู้จัก “อีจุนกิ” สมัยที่เขายังเป็นพระรองสุดแนวไว้ผมทรงรากไทรในซีรีส์ My Girl อย่างแน่นอน ไม่นานหลังจากนั้นเขาก็มีผลงานอีกครั้งร่วมกับ “จองคยองโฮ” และ “นัมซังมี” ในซีรีส์เรื่อง Time Between Dog and Wolf ลิขิตรักบนรอยแค้น โดยซีรีส์เรื่องนี้ใช้หลายสถานที่ในกรุงเทพฯ เป็นสถานที่ถ่ายทำ เพราะเนื้อเรื่องเกี่ยวกับการปราบปรามแก๊งอาชญากรรมข้ามชาติไทย-เกาหลี แถมปมหลักของเรื่องก็เริ่มต้นที่ประเทศไทย ที่เห็นได้ชัดเจนก็จะเป็นฉากที่วัดบุคคโล วัดอรุณราชวราราม วิวแม่น้ำเจ้าพระยา เมืองโบราณ และบรรยากาศของถนนหนทางในกรุงเทพฯ รวมถึงอาคารบ้านเรือนที่ตกแต่งแบบไทย ๆ
City Hunter (2011)
ยังจำกันได้ไหม ครั้งหนึ่งสามีแห่งชาติสาขาเกาหลีของใครหลาย ๆ คนอย่าง “อีมินโฮ” ก็เคยมาถ่ายซีรีส์ที่เมืองไทยนะ ในซีรีส์เรื่อง City Hunter ที่ประกบคู่กับนางเอกตัวแม่ซีรีส์รอมคอม “พัคมินยอง” ซึ่งเป็นเรื่องราวของเด็กหนุ่มที่เติบโตและใช้ชีวิตช่วงวัยเด็กอยู่ในแถวสามเหลี่ยมทองคำ ประเทศไทย ก่อนที่จะไปเรียนต่อจนจบด็อกเตอร์จากสถาบัน MIT สถาบันชื่อดังของสหรัฐอเมริกา และได้เข้าไปทำงานที่ทำเนียบประธานาธิบดี ซีรีส์เรื่องนี้จึงยกกองมาถ่ายทำที่ประเทศไทย โดยฉากป่าและอีมินโฮขี่ช้าง ที่จังหวัดกาญจนบุรี และฉากอีมินโฮนั่งเรือ ที่ตลาดน้ำดำเนินสะดวก จังหวัดราชบุรี แถมในซีรีส์เรื่องนี้ยังมีนักแสดงไทยอย่าง คุณไก่ สุปราณี เจริญผล ร่วมแสดงด้วย
The Equator Man (2012)
น่าปลื้มนะที่ทีมงานผลิตซีรีส์เกาหลียังคงเลือกให้ไทยเป็นโลเคชันสำหรับถ่ายทำอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ซีรีส์เก่า ๆ มาจนถึงปีปัจจุบันก็ยังมีสถานที่ต่าง ๆ ในประเทศไทยเป็นฉากหนึ่งของซีรีส์เกาหลี จะเห็นว่าแต่ละครั้งเว้นห่างไปไม่กี่ปีเท่านั้น ต่อมานักแสดงและทีมงานจากซีรีส์เรื่อง The Equator Man ซีรีส์แนวเมโลดราม่า ที่นำแสดงโดย “ออมแทอุง” และ “อีโบยอง” (ร่วมด้วย “อีฮยอนอู” ที่เล่นเป็นพระเอกตอนวัยรุ่น) ก็ยกกองมาถ่ายทำที่ไทยเช่นกัน โดยใช้สถานที่ที่โรงแรมศรีพันวา จังหวัดภูเก็ต แต่ในเรื่องเราอาจจะเห็นแค่เสี้ยวของทางเท้าและตรอกเล็ก ๆ ที่อาจจะดูได้ไม่ชัดนักว่าเป็นประเทศไทย
The Full Sun (2014)
ซีรีส์อีกเรื่องที่ใช้สถานที่ยกกองถ่ายจากเกาหลีใต้มาอยู่ไทยนานถึง 10 วัน 9 คืน คือซีรีส์เรื่อง The Full Sun หักเหลี่ยมรักตะวันเดือด ที่มี “ยุนคเยซัง” และ “ฮันจีฮเย” เป็นพระ-นางของเรื่อง ฉากที่ถ่ายทำในไทยเป็นฉากสำคัญในเรื่อง เพราะเรื่องราวที่เกิดกับตัวละครในช่วงที่อยู่ในประเทศไทย ถือเป็นจุดเปลี่ยนแปลงชีวิตของตัวละคร เช่น ฉากงาน Bangkok Jewelry Fair สุดยิ่งใหญ่ ถูกเนรมิตขึ้นที่ริมชายหาดโรงแรมดุสิตธานี ชะอำ และมีสถานที่อื่น ๆ อย่างชายหาดหัวหิน, ตลาดน้ำอัมพวา, ริมแม่น้ำเจ้าพระยา (เห็นวิววัดอรุณราชวราราม), มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ (ABAC), โรงแรมโอเรียนเต็ล ถนนเจริญกรุง 40, ถนนข้าวสาร และโรงพัก สน.วิภาวดี
Jealousy Incarnate (2016)
ต่อมา ซีรีส์ Jealousy Incarnate นำแสดงโดย “โจจองซอก” รับบทเป็นผู้ประกาศข่าวหนุ่มที่เดินทางมาทำงานที่ประเทศไทย และ “กงฮโยจิน” ก็ยกกองถ่ายมาถ่ายทำที่เมืองไทยเช่นกัน จนได้ฉากสวย ๆ ในหลาย ๆ มุมของกรุงเทพฯ ไปไม่น้อย ไม่ว่าจะเป็นตอนนั่งรถตุ๊กตุ๊กชมเมือง นั่งเรือ หรือเดินผ่านวัด โดยสถานที่ที่ใช้ถ่ายทำก็มีทั้งเยาวราช, วัดพระแก้ว (เป็นฉากด้านหลังของพระเอกที่กำลังทำหน้าที่เป็นผู้ประกาศข่าว) และดาดฟ้ามุมสูง ที่เห็นทิวทัศน์ของกรุงเทพฯ ยามค่ำคืน แถมยังมีไอดอลชื่อดังชาวไทย “แบมแบม GOT7” มาร่วมเป็นนักแสดงรับเชิญ ที่ต้องปะทะภาษาไทยกับโจจองซอกอีกด้วย
Goodbye Mr.Black (2016)
Goodbye Mr.Black เทพบุตรหัวใจสุดแค้น นำแสดงโดย “อีจินอุค” และ “มุนแชวอน” ก็เลือกที่จะมาถ่ายทำส่วนหนึ่งของเนื้อเรื่องในซีรีส์ที่ประเทศไทยเหมือนกัน โดยเรื่องนี้ยกกองไปถ่ายทำกันที่จังหวัดภูเก็ต ภูเก็ตที่หลาย ๆ คนอาจนึกถึงแค่ทะเล แต่จริง ๆ ในซีรีส์ไม่ได้มีแค่วิวทิวทัศน์ริมชายหาดและทะเลอันดามันเท่านั้น แต่ซีรีส์เรื่องนี้เล่นใหญ่ถึงขั้นลงพื้นที่ถ่ายทำทั้งตามคลอง ตามสปา บ้านชายน้ำ มีฉากซิ่งเจ็ทสกีในคลอง รวมไปถึงมีฉากงานศพในวัดพุทธด้วย ซึ่งน้อยครั้งมาก ๆ ที่เราจะเห็นซีรีส์ของประเทศอื่นมาถ่ายทำฉากงานศพในวัดและทำพิธีศพแบบพิธีพุทธ แถมยังมีฉากที่พระเอกสวมชุดขาวข้าราชการไทยด้วยนะ
Misty (2018)
Misty คดีเล่ห์ลวงรัก นำแสดงโดย “จีจินฮี” และ “คิมนัมจู” เป็นซีรีส์เกาหลีชื่อดังอีกเรื่องที่ยกกองมาถ่ายทำที่เมืองไทย และใช้สถานที่สุดฮิตอย่างพระปรางค์ วัดอรุณราชวรารามเป็นจุดขายความเป็นไทยอีกหนึ่งเรื่อง โดยฉากนี้เป็นความสวยงามยามค่ำคืนของพระปรางค์วัดอรุณและแม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งจะบอกว่าทีมงานจัดแสงได้สวยมาก เพราะเราจะเห็นว่าน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาเป็นสีน้ำเงินเลย แถมยังสะท้อนเงาของพระปรางค์ที่เป็นสีทองในน้ำด้วย นั่นทำให้สถานที่ที่คนไทยอาจจะคุ้นเคยดีดูสวยงามแปลกตาไปจากเดิมมาก นอกจากนี้ยังมีฉากพระเอกนั่งเรือแล้วเห็นสะพานพระรามแปดเป็นพื้นหลังด้วย หรือจะเป็นซีนครึ้ม ๆ และตอนฝนตก ก็ดูเป็นอะไรที่น่าสนใจดี
Family: The Unbreakable Bond (2023)
ไม่ใช่แค่ซีรีส์เก่า ๆ ที่เคยมาถ่ายทำในเมืองไทย เพราะซีรีส์ที่ออนแอร์ในปี 2023 ก็ยังยกทัพมาถ่ายทำที่ไทยกันเหมือนเคย และไม่ใช่แค่เรื่อง King The Land เท่านั้นด้วย เพราะยังมีซีรีส์อีกหนึ่งเรื่องที่นักแสดงและทีมงานเดินทางมาถ่ายทำที่ไทยในเวลาไล่เลี่ยกัน Family: The Unbreakable Bond นำแสดงโดย “จางฮยอก” และ “จางนารา” โดยในส่วนที่ถ่ายทำในไทย เป็นช่วงที่นางเอกหนีมาอยู่ที่เมืองไทยตั้งแต่เด็กและมีพ่อแม่อุปถัมภ์เป็นคนไทย (มีซีนที่เธอพูดภาษาไทยเยอะมาก) และต่อมาพระเอกก็ได้รับมอบหมายให้มาทำภารกิจที่เมืองไทย ก่อนที่พระ-นางจะเจอกัน พากันกลับเกาหลีและสร้างครอบครัว ฉากจบที่ก็จบที่ไทย เพราะเป็นที่ที่พระ-นางเจอกันครั้งแรก
King The Land (2023)
และซีรีส์เรื่องล่าสุดที่เพิ่งจะออนแอร์ฉากและสถานที่สวย ๆ ในประเทศไทยไปเมื่อสัปดาห์ก่อน ก็คือ King The Land ที่นำแสดงโดย “อีจุนโฮ” (2PM) และ “อิมยุนอา” (Girls’ Generation) เอาเข้าจริง หลายคนทราบล่วงหน้ามานานแล้วว่าซีรีส์เรื่องนี้จะมีส่วนหนึ่งที่ถ่ายทำในไทย และก็ได้เห็นข่าวตอนที่ทัพนักแสดงเดินทางมาถึงประเทศไทย แต่ซีรีส์เรื่องนี้ก็ทำให้กรรมการอึ้ง คนไทยอึ้งไม่น้อย เพราะคนไทยหลายคนที่ดูซีรีส์เรื่องนี้ต่างก็พูดเป็นเสียงเดียวกันว่าซีรีส์เกาหลีกับสถานที่ไทย ๆ สามารถถ่ายทำออกมาได้สวยกว่าที่เห็นในละครไทยเสียอีก แถมยังทำให้คนไทยเจ้าของประเทศได้เห็นมุมมองและกิจกรรมในการเที่ยวเมืองไทยแบบที่แตกต่างไปจากภาพจำเดิมด้วย
ส่วนสถานที่ต่าง ๆ ที่ปรากฏในซีรีส์เรื่อง King The Land อันที่จริงก็มีหลายบทความรวบรวมไว้สำหรับคนที่อยากจะไปเที่ยวตามรอย ซึ่งก็มี SIRI SALA Private Villa, ร้านคุณแดงก๋วยจั๊บญวน, ถนนคนเดินคลองโอ่งอ่าง, วัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร, โลหะปราสาท วัดราชนัดดารามวรวิหาร, ล่องเรือแม่น้ำเจ้าพระยา (เห็นวิวเอเชียทีค) ลานน้ำพุ ICONSIAM, เมืองโบราณ จังหวัดสมุทรปราการ, Mandarin Oriental Bangkok และ Vertigo & Moon Bar at Banyan Tree
