คนเรามีวิธีในการชาร์จพลังให้ตัวเองในยามที่เสียศูนย์แตกต่างกันไป บางคนแค่ได้กินของอร่อย ๆ ให้เต็มคราก เรื่องน่าหงุดหงิดรำคาญใจก็หายเป็นปลิดทิ้ง บางคนถือคติว่าเดี๋ยวเรื่องแย่ ๆ มันก็ผ่านไป อีกไม่นานก็พรุ่งนี้เช้าแล้ว เมื่อมองย้อนกลับมามันก็แค่อดีต จึงเททุกอย่างเพื่อเข้านอนให้เร็วที่สุดจะได้ถึงเช้าวันใหม่เร็ว ๆ บางคนมันอัดอั้นจนกลายเป็นพลังส่วนเกิน จึงต้องปลดปล่อยออกมาเพื่อให้โล่ง เลยต้องไปหาทำอะไรที่มันได้ใช้แรงใช้พลังมาก ๆ และบางคนก็ไม่พูดไม่จาบ่นเล็กบ่นน้อย แต่ดุ่ม ๆ เก็บกระเป๋าออกเดินทางสักพัก แบบว่ารู้สึกดีเมื่อไรก็จะกลับมาเอง
สำหรับคนที่ชอบใช้การเดินทางให้เป็นหนทางหนึ่งในการค้นหาความหมายของชีวิต แต่ก็ยังไม่ได้รู้จักตัวเองดีพอ บางทีคุณก็เลยรู้สึกว่าเส้นทางของคุณมันออกจะสะเปะสะปะไปสักหน่อย มันก็รู้สึกดีนะ คือได้รับการเยียวยาแหละ แต่แค่เหมือนมันยังขาด ๆ มันยังไปไม่สุด โจทย์ในใจไม่ได้ถูกแก้ทั้งหมด นั่นอาจเป็นเพราะว่าคุณออกเดินทางแบบที่ไม่เป็นตัวของตัวเองอยู่ก็เป็นได้
ถ้าการเดินทางเป็นวิธีในการชาร์จพลังชีวิตให้กับคุณแล้วล่ะก็ การออกเดินทางตามไลฟ์สไตล์ที่คุณเป็น ทำในสิ่งที่คุณชอบ น่าจะตอบโจทย์ความต้องการทางใจและเยียวยาคุณได้ดีกว่า เพียงแต่คุณแค่ต้องรู้นิสัยหรือไลฟ์สไตล์ของตัวเองให้มากขึ้นสักหน่อยเพื่อประกอบการพิจารณาว่าเที่ยวแบบไหนชาร์จพลังใจของคุณได้เต็มสูบที่สุด
รักอิสระ เบื่อที่จะรอ ไม่หวั่นไหวกับความเหงา Solo Travel ดูสักครั้งไหม?
“ถ้าเราอยู่คนเดียวเป็นแล้ว เราจะมีความรู้สึกว่าไม่อยากอยู่กับใครอีกเลย” ยุคนี้สมัยนี้ การทำอะไรตัวคนเดียว ไม่ใช่เรื่องน่าอาย น่าอึดอัดใจ หรือเป็นเรื่องแปลกอีกต่อไปแล้ว หลายคนจึงเริ่มต้นที่จะลองทำอะไรตัวคนเดียวในหลาย ๆ สถานการณ์ ซึ่งก็พบว่ามันไม่ได้แย่ พอเริ่มแกร่งขึ้นก็จัดการกับความเหงาเมื่อต้งอยู่คนเดียวได้สบาย ๆ และหลังจากนั้นมาก็อาจจะรู้สึกไม่สะดวกใจที่จะทำอะไรร่วมกับแก๊งเพื่อนอีกเลยก็เป็นได้ ถ้ามาถึงขั้นนี้แสดงว่าคุณอาจติดใจการทำอะไรคนเดียวเข้าแล้ว เพราะมันอิสระกว่า และตัดความน่ารำคาญในการทำอะไรรี ๆ รอ ๆ กันไปได้เยอะเลย เราตัดสินใจทุกอย่างได้ด้วยเราเองไม่ต้องปรึกษาใคร แบบนี้ต้องลองออกไป Solo Travel ให้ได้ดูสักครั้งนะ
งบมีจำกัด กินอยู่ไม่เรื่องมาก รักความเป็นท้องถิ่น ต้องเที่ยวสไตล์ Backpacker
ถ้าคุณเป็นคนที่นอนง่าย กินง่าย และชอบที่จะพาตัวเองเข้าไปใกล้ชิดกับท้องถิ่น อารมณ์แบบภูธร ๆ ใจอยากเที่ยวแต่งบมีจำกัด คุณก็อาจจะศึกษาสไตล์การเที่ยวแบบ Backpacker ดูก็ได้ว่าคุณจะเป็นนักเดินทางสายนี้ได้หรือไม่ อารมณ์ว่าคุณสามารถสะพายเป้แค่ใบเดียวก็เดินทางขึ้นเหนือล่องใต้ได้แล้ว ไม่จำเป็นที่ต้องนอนโรงแรม 5 ดาวมีห้องน้ำในตัว เพราะคุณนอนโฮสเทลห้องน้ำรวมได้โดยไม่ตะขิดตะขวงใจ ให้นอนรวมกับคนแปลกหน้ายังได้เลย ไปไหนมาไหนก็พึ่งพารถสาธารณะเป็นหลัก อย่างท่องโลกกว้าง อยากได้เพื่อนใหม่ อะไรที่มันดูท้องถิ่น ๆ ช่วยกระตุ้นให้คุณตื่นเต้นได้ ถ้าไลฟ์สไตล์คุณเป็นลักษณะนี้ การเที่ยวแบบ Backpacker อาจช่วยชาร์จพลังให้คุณได้ดีกว่า
ชอบความตื่นเต้น แก้ปัญหาเก่ง ตามใจมากกว่าตามแผน ลอง Unexpected trip
Unexpected แปลว่า คาดไม่ถึงหรือไม่คาดคิด เพราะฉะนั้น Unexpected trip ก็เลยเป็นสไตล์การเดินทางที่เหนือความคาดหมายนั่นเอง ขนาดการตัดสินใจจะออกเดินทาง ยังเกิดขึ้นแบบไม่มีปี่ไม่ขลุ่ยได้เลย เพราะคุณชอบทำอะไรตามเสียงหัวใจเรียกร้องมากกว่าที่จะทำอะไรตามแผนการ แน่นอนว่าการมีแผนมันเป็นเรื่องที่ดี แต่บางทีมันก็กลายเป็นกรอบที่ทำให้ความคิดของคุณถูกจำกัด คุณเลยมักจะอึดอัดหน่อย ๆ เมื่อทุกคนถามหาแผนการจากคุณ แต่เชื่อเถอะว่าโดยพื้นฐานของคุณแล้ว คุณเอาตัวรอดได้อยู่แล้ว เพราะคุณแก้ปัญหาเฉพาะหน้าเก่ง แถมยังมองเรื่องตื่นเต้นต่าง ๆ เป็นความท้าทายด้วย เพราะมันทำให้เรื่องราวของการเดินทางเต็มไปด้วยความหมายมากกว่าที่เคย
ชอบนั่งรถ ชื่นชมธรรมชาติ เป้าหมายอยู่ที่ล้อ Road trip รอคุณอยู่
บางคนไม่เคยรู้ตัวเองหรอกว่าไลฟ์สไตล์ของตัวเองนั้น การเที่ยวแบบ Road trip จะชาร์จพลังให้ตัวเองได้ดีที่สุด ที่ผ่านมาคุณอาจจะทำได้เพียงแต่บอกได้ว่าตัวเองชอบนั่งรถและมองข้างทางไปเรื่อย ๆ ชอบความรู้สึกที่ว่าได้เห็นอะไรต่ออะไรข้างทาง ไม่ว่าจะเป็นเมืองหรือชนบทหรือเส้นทางธรรมชาติก็ไม่เกี่ยง แบบว่าถ้าไม่ติดว่าชีวิตต้องทำงานทำการ ก็อยากจะนั่งรถไปไหนมาไหนทั้งวัน เพราะทุกครั้งที่ล้อหมุน ก็จะมีเรื่องราวตามมาเสมอ แล้วเรื่องราวเหล่านั้นก็สร้างความประทับใจให้คุณได้ทุกครั้ง ทั้งนี้ทั้งนั้น หากคุณอยากลองเที่ยวแบบ Road trip ขอแนะนำว่าให้ชวนเพื่อนที่ดีที่สุดไปด้วยสักคน ในกรณีที่คุณจะได้ผลัดกันขับรถกับเป็นคนนั่งข้าง เพราะมันได้อารมณ์คนละอย่าง
ทำการบ้านล่วงหน้า อยากรู้อยากลอง เก็บข้อมูลแน่น เป็นสาย The explorer
หากคุณมีสายเลือดเป็นนักสำรวจอยู่ในตัว การเดินทางของคุณจะน่าตื่นเต้นขึ้นมากก็เพราะความอยากรู้อยากลองอยากเห็นทุกอย่างด้วยตาของคุณเองนั่นแหละ นิสัยส่วนตัวของคุณมักจะมีสมุดเล่มเล็ก ๆ กับปากกาติดตัวเอาไว้ด้วยเสมอ แล้วก็พร้อมที่จะหยิบมันขึ้นมาเมื่อได้ข้อมูลที่น่าสนใจ จึงไม่ต้องแปลกใจที่คุณมีสิ่งที่ใช้เก็บข้อมูลมากกว่ากล้องถ่ายรูปเพียงอย่างเดียว และเพราะความตื่นเต้นก็ทำให้คุณมักจะทำการบ้านล่วงหน้าเป็นอย่างดี อะไรที่ไม่รู้กลับมาต้องได้คำตอบ มีการวางแผนการเดินทางที่ชัดเจน เรียกได้ว่าเตรียมความพร้อมแบบสุด ๆ โอกาสที่จะผิดพลาดก็ต้องน้อยหรือแทบไม่มี มันก็สนุกในแบบของคุณแหละนะที่ได้ข้อมูลต่าง ๆ กลับมาพร้อมกับความประทับใจ
ชอบความท้าทาย สายลุย ขึ้นเขาลงห้วยไม่เกี่ยง ต้อง Adventurous Travel
เป็นเรื่องที่หลายคนรู้สึกสงสัยไม่น้อยเลย ว่าทำไมคนบางคนถึงชื่นชอบการเที่ยวแบบที่พาตัวเองไปลำบากลำบนมากขนาดนั้น อย่างการเดินป่า ประเภทที่ต้องขึ้นเขาลงห้วย นอนกลางดินกินกลางทรายให้ธรรมชาติโอบกอด อาศัยนอนกางเต็นท์ตามป่าเขา หรือการเดินทางด้วยเส้นทางสุดทรหดที่มันไม่น่าพิสมัยเอาเสียเลย แต่คุณกลับรู้สึกว่าสิ่งเหล่านั้นมันท้าทายขีดจำกัดของตัวเองดี และทำให้ได้ใช้เวลาอยู่กับตัวเองมากที่สุดด้วย ก็นะจิตวิญญาณความเป็นนักผจญภัยมีเต็มเปี่ยม รู้ว่าเสี่ยงแต่คงต้องขอลอง คุณจึงชอบที่จะลุยไปข้างหน้าเสมอ แม้ว่าการเดินทางนี้มันจะไม่มีอะไรอำนวยความสะดวกให้เลยสักอย่าง กว่าจะเจอกับความอิ่มเอมและความสุข เล่นเอาเหนื่อยแทบขาดใจ
