เคยไหม…เวลาเที่ยวแล้วเจอสถานที่น่าสนใจ แต่ถูกห้ามไปเพราะมันอันตราย
เคยไหม…เวลาบอกใครว่าจะไปเที่ยวที่แปลกๆ แต่ถูกเตือนว่าอย่าเลย เป็นห่วง
เคยไหม…อยากไปเที่ยวที่ๆชวนขนลุก แต่กลัว จนไม่กล้าไปเอง
เดวิด เฟร์เรียร์ นักข่าวหนุ่มจากนิวซีแลนด์ ขออาสาพาทุกคนไปเที่ยวสถานที่สุดอันตรายและชวนเหวอด้วยตัวเองกับ Dark Tourist สารคดีท่องเที่ยวจากช่อง NETFLIX ที่เขาลงทุนบินไปถ่ายมาและตัดต่อให้ทุกคนชมถึงบ้าน
พร้อมหรือยัง…โชว์ตั๋วโดยสารแก่เจ้าหน้าที่ เอนกายลงบนเก้าอี้ตัวโปรด แล้วไปเที่ยวกันเลย!!
Dark Tourist คือศัพท์ในวงการ ใช้เรียกนักท่องเที่ยวที่ชอบไปเยี่ยมชมสถานที่แปลกๆและเสี่ยงอันตราย ซึ่ง เดวิด เฟร์เรียร์ นักข่าวหนุ่มแว่นก็เป็นหนึ่งในนั้น แต่แทนที่จะไปเที่ยวแล้วบันทึกไว้เพียงความทรงจำ เขาเลือกใช้กล้องวีดีโอบันทึกเหตุการณ์ของแต่ละสถานที่ๆไป ก่อนนำกลับมาตัดต่อและเผยแพร่เป็นซีรีส์สารคดีท่องเที่ยวจำนวน 8 ตอนที่แตกต่างและไม่เหมือนใคร
ท่านผู้ชมอาจเคยดูสารคดีท่องเที่ยวสายมืดที่มีออกมาให้ชมกันเยอะแยะจนมีหลายที่ๆเราคุ้นหูกันดีเช่น โรงไฟฟ้านิวเคลียร์เชอร์โนบิล (โซเวียต), ป่าอะเมซอน (อเมริกาใต้), ค่ายกักกันเอาท์ชวิตซ์ (โปแลนด์) หรือกลุ่มประเทศที่อยู่ในภาวะสงคราม แต่สิ่งที่ทำให้ Dark Tourist แตกต่างคือการที่นายเฟร์เรียร์ พาไปสถานที่ๆ “ไม่แมส” และ “ไม่ขาย” หลายแห่งก็ไม่เคยปรากฏอยู่ในสารคดีตัวไหนมาก่อน
นั่นทำให้สารคดีของนายเฟร์เรียร์ ทั้งหมด 8 ตอน พาคุณผู้ชมไปพบกับความเหวอ, หวาดเสียว และน่าอึดอัดกับสถานที่ต่างๆที่เขาไป อาทิ EP1. ทัวร์เมืองเมดเดลิน ประเทศโคลอมเบีย เมืองที่ พาโบล เอสโคบาร์ ราชายาเสพติดผู้ล่วงลับ สร้างชื่อกระฉ่อนโดยมีไกด์นำเที่ยวเป็นอดีตมือปืนที่เคยทำงานให้เขามาก่อน!! EP.2 ทัวร์เมืองโทมิโอกะ เมืองที่ได้รับผลกระทบจากการระเบิดของโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟุกุชิมะเมื่อปี 2011 จนมีรังสีตกค้างมาจนถึงปัจจุบัน และชาวบ้านก็ย้ายหนีไปกว่า 95% จนแทบเป็นเมืองร้าง
ขณะเดียวกันก็มีอีกหลายที่ๆไม่อันตรายแต่ชวนตะลึงเช่น EP.4 เยี่ยมชมเมืองอัชกาบัต ประเทศเติร์กเมนิสถาน ที่เงียบงันประหนึ่งเมืองลับแลแต่ไม่ว่าคุณจะเดินไปไหนก็จะมีทหารตามประกบติด และเมื่อไหร่ที่คุณวิจารณ์รัฐบาลประเทศนี้ คุณจะถูกอุ้มทันที (!!) ถ้าใกล้ตัวคนไทยหน่อยก็ EP.6 พาเที่ยวประเทศอาเซียนอย่างกัมพูชา ที่มีกิจกรรมสุดพิเศษให้ลูกค้าใช้อาวุธสงครามยิงใส่ หมู หมา กา ไก่ ได้แบบไม่ผิดกฎหมาย หรือ EP.8 ไปคุยกับสาวกของ ชาร์ลส แมนสัน หัวหน้ากลุ่ม “แมนสัน แฟมิลี่” ที่ก่อคดีฆาตกรรมโหดดาราสาว ชารอน เทต เมื่อปี 1969
และด้วยความที่นายเฟร์เรียร์ มีอาชีพเป็นสื่อมวลชน ดังนั้นเวลาไปเที่ยวที่ไหนเขามักจะลงไปคลุกคลีกับชาวบ้านเจ้าถิ่น หรือตัว Subject ของแต่ละตอน ซึ่งถ่ายทอดออกมาได้ดีทีเดียว บาง EP. สถานที่ๆไปอาจไม่แปลกอะไรแต่คนท้องถิ่นที่นั่นก็ทำให้ EP.นั้นมีความพิเศษขึ้นและบางครั้งก็ชวนอึดอัด กระอักกระอ่วนกับสถานการณ์ตรงหน้า เช่นตอนที่เขาไปคุยกับคนรู้จักของ ชาร์ลส แมนสัน และถามซอกแซกจนกลัวว่าพี่เขาจะโดนอีกฝั่งเอามีดกระซวกตายคากล้องเหลือเกิน (ฮา) หรือ EP. แรกที่ไปเยี่ยมเมืองของ เอสโคบาร์ ก็เหวอพอกันที่ได้รับรู้ว่าถึงราชายาเสพติดของโคลอมเบียจะจากโลกนี้ไป 25 ปีแล้ว แต่ความตายของเขาก็ทำให้อดีตลูกน้องรวมถึงชาวบ้านเอามาใช้หากินในเชิงท่องเที่ยวได้จนถึงทุกวันนี้ (แถมร่ำรวยกันซะด้วย)
กระนั้นก็มีบาง EP. ที่ผู้เขียนดูแล้วเกิดคำถามว่า “ไปทำไมวะ” เช่นเข้าร่วมสถานการณ์สู้รบแบบจำลองในเทศกาลสงครามโลกครั้งที่ 2 ในอังกฤษ // ไปดูที่ๆ จอห์น เอฟ เคนเนดี อดีตประธานาธิบดีของสหรัฐอเมริกา ถูกลอบสังหารเมื่อปี 1963 แล้วมีชาวอเมริกันมากมายใช้ความตายของเขามาเป็นธุรกิจหากิน ทั้งนั่งรถชมจุดสังหาร หรือจำลองเหตุการณ์ผ่านกล้อง VAR ซึ่งกินเวลาเยอะและน่าเบื่อ // กระทั่งไปหาครอบครัวที่มีความเชื่อเรื่องผีดูดเลือด แถมดื่มเลือดจากตัวคนให้ดูแบบสดๆ (แอบกลัวว่าพี่แว่นจะโดนครอบครัวนี้กัดคอเลือดกระฉูด) และอื่นๆอีกมากมาย
แม้จะเป็นการท่องเที่ยวที่มีเรื่องให้ตื่นเต้นและน่าเบื่อสลับกันไป แต่ก็ต้องปรบมือชื่นชมพี่เฟร์เรียร์ที่สรรหาสถานที่และ Subject แปลกๆมาเสิร์ฟให้ผู้ชมได้ดูกัน หลายอันดูแล้วก็อุทานว่าไปหามาได้ไง (วะ?) และเหนืออื่นใดก็ทำให้เราได้รู้ว่าโลกนี้มันมีสถานที่และเรื่องราวแปลกๆหลบซ่อนให้สำรวจอีกเยอะชนิดที่คาดไม่ถึง
ดูจบแล้ว ท่านอาจติดใจจนไม่อยากไปพวกสถานที่แมสๆอย่างหอไอเฟล, ภูเขาฟูจิ, โคลอสเซียม ฯลฯ แต่จะกลายร่างเป็นนักท่องเที่ยวสายมืด (Dark Tourist) อย่างพี่เขาก็เป็นได้….
