แม้ความตายมาพราก

ช่วงนี้พวกเราอาจได้ยินข่าวคนนอนแล้วไม่ยอมฟื้น หรือที่เขาเรียกว่าคนตายค่อนข้างถี่ หลายคนในวงการบันเทิง หลายท่านก็มีจากวงการอื่นเช่นกัน

ล่าสุดคุณพ่อเพื่อนที่เตรียมอุดมของผมก็เพิ่งจะเสียและจะต้องไปงานศพกันอีกงาน ยอมรับเลยว่าผมทำใจเรื่องไหนไม่เคยมีปัญหา ยกเว้นยามที่ญาติหรือคนสนิทต้องมาจากไป..มันทำใจยาก ดังนั้นจะให้ไปเจอหน้าแล้วปลอบคนอื่นก็เลยไม่ค่อยอยากจะทำ

“ความตาย” เป็นความสูญเสียที่ไม่มีใครอยากจะให้เกิดขึ้น แต่สุดท้ายเราก็ต้องยอมรับสัจธรรมของสัตว์โลกทุกชีวิตที่ต้อง เกิด แก่ เจ็บ ตาย ด้วยกันหมดทั้งสิ้น ดังนั้นไม่มีอะไรหรือใครจะอยู่กับเราไปตลอดกาล ภาษาฝรั่งเขามีคำพูดสอนใจเอาไว้ว่า “Everyone has to die alone”

คนที่รู้อย่างนี้และยังมีโอกาสได้อยู่กับคนที่คุณรักและยังมีลมหายใจอยู่ก็พึงอย่าได้ประมาทกับกาลเวลา และความไม่แน่นอนของลมหายใจ เพราะบางครั้งมันอยากจะหยุดลงเสียเมื่อไหร่ใครก็ห้ามไม่อยู่ ดังนั้นจึงควรใช้เวลาที่เหลืออยู่ให้คุ้มค่าที่สุดกับคนที่คุณรัก อยากทำอะไรหรืออยากพูดอะไรกับเขาก็จงรีบทำซะ รวมทั้งกับพ่อแม่และผู้มีพระคุณด้วย

ทำนาทีนี้ให้ดีที่สุดด้วยสติที่มีอยู่ในทุกลมหายใจ เวลาเขาจากไปจะได้ไม่ต้องมานั่งเสียดายภายหลัง ว่ารู้อย่างนี้ ตอนที่ยังอยู่ด้วยกันน่าจะทำอย่างโน้นอย่างนี้ อย่างนั้นไม่มีประโยชน์เสียแล้ว เข็มนาฬิกาไม่เคยเดินถอยหลังอย่างไร เวลาไม่เคยหยุดรอใครเช่นกัน

คนที่ยังอยู่นั้นขอให้มองไปข้างหน้าอย่างเดียว อย่าได้มัวฟูมฟายและจมอยู่กับอดีต บางคนเขาจากไปแล้วไม่ยอมปล่อยให้จากไป ยังเก็บเขาไว้ ยึดเขาไว้อยู่ในใจ อยู่ในสมอง จนทำให้ตัวเองต้องเศร้าหมอง ถึงกับเป็นโรคซึมเศร้าไปเลยก็มี แล้วจะมีประโยชน์อะไร คนที่ตายไปแล้วก็ฟื้นขึ้นมาไม่ได้ คนที่อยู่จะกลายเป็นคนที่ตายทั้งเป็นเข้าให้เสียอีก

ผมเป็นคนที่ผ่านความสูญเสียมาพอสมควรจึงพอรู้ ขอเป็นกำลังใจให้กับญาติมิตรและทุกคนที่ต้องมาเสียคนที่คุณรักที่สุดไปหลายๆคนในช่วงนี้ แต่ขอให้เศร้าถึงที่สุด แล้วทำใจเดินหน้าต่อไปให้ได้ อย่าฟูมฟาย อย่ายึดติด คนตายพักผ่อนได้แล้วแต่คนเป็นยังต้องสู้ต่อ มองไปข้างหน้า มองอนาคต มองโลกในแง่ดี ให้กำลังใจตัวเองให้เยอะๆ

อย่างน้อยช่วงเวลาอันเลวร้ายอาจจะทำให้รู้ว่าใครคือเพื่อนแท้ของคุณบ้าง.