รู้หรือไม่ “เสริมหน้าอก” แพทย์วินิจฉัยภาวะ “หัวใจวาย” ได้ยาก

ภาพจาก pixabay

ปัจจุบันการเสริมหน้าอกได้รับความนิยมอย่างมาก สำหรับผู้หญิงที่ต้องการเพิ่มขนาดหน้าอกเพื่อเสริมบุคลิกภาพให้มีความมั่นใจมากขึ้น รวมถึงเพื่อประโยชน์ในหน้าที่การงาน สำหรับบางอาชีพที่ต้องมีรูปร่างหน้าตาที่สวยงาม

แต่จากผลการศึกษาล่าสุด พบว่า การเสริมหน้าอก ทำให้ให้แพทย์วินิจฉัยโรคกล้ามเนื้อหัวใจตายเฉียบพลัน หรือที่เราเรียกกันว่าหัวใจวาย (heart attack) ได้ยากยิ่งขึ้น  และอาจทำให้เกิดการวินิจฉัยที่ผิดพลาดขึ้นได้

หัวใจวาย เกิดจากภาวะที่เกิดลิ่มเลือดอุดตันในหลอดเลือดหัวใจเฉียบพลัน ทำให้มีเลือดไปเลี้ยงหัวใจได้ไม่เพียงพอ ซึ่งอาการหัวใจวายจะเกิดขึ้นอย่างเฉียบพลัน และไม่สามารถบอกได้ว่าจะเกิดขึ้นเมื่อไร

โดยนายแพทย์โชค สิทธิคุณ แพทย์โรคหัวใจแห่งโรงพยาบาล Princess Grace Hospital ในโมนาโก เปิดเผยถึงผลการศึกษาดังกล่าว ในงานประชุมหัวใจของสมาคม European Heart Rhythm Association Europace Cardiostim ที่กรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย หลังพบว่าในการตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ (ECG)  ซึ่งเป็นวิธีตรวจหาโรคหัวใจที่ง่ายและได้ผลดี กลับไม่สามารถบอกผลที่น่าเชื่อถือได้ในผู้หญิงที่ผ่านการศัลยกรรมหรือเสริมหน้าอกมา

ทั้งนี้ จากการทำ ECG ในผู้หญิงสุขภาพดี ช่วงอายุระหว่าง 30 ต้นๆ – 40 ปลายๆ  จำนวน 48 คน ซึ่งมี 28 คนที่ผ่าตัดเสริมหน้าอกแล้ว ขณะที่อีก 20 คน ไม่ได้เสริมหน้าอก พบว่า 1 ใน 3 ของผู้หญิงที่เสริมหน้าอก มีผลการตรวจที่ระบุว่ามีความผิดปกติเกิดขึ้น แต่เมื่อตรวจเช็กหัวใจด้วยวิธีอื่นๆ กลับพบว่า ไม่ได้มีอาการผิดปกติใดๆ กับหัวใจแต่อย่างใด

นายแพทย์สิทธิคุณ ระบุว่า จากผลการตรวจดังกล่าว มี 2 สมมติฐานด้วยกัน  ประการแรก อาจเป็นเพราะการเสริมหน้าอกที่มีสิ่งแปลกปลอมเข้าไปในร่างกาย เป็นตัวที่ขัดขวางการตรวจจับสัญญาณคลื่นไฟฟ้าจากหัวใจ หรือประการที่ 2 อาจเป็นเพราะการทำหน้าอก ส่งผลให้ตำแหน่งขั้วไฟฟ้าที่หน้าอกเคลื่อนไปจากตำแหน่งเดิมเล็กน้อย จึงทำให้ผลการอ่านคลาดเคลื่อน แต่ถึงกระนั้นก็ยังไม่มีผลที่แน่ชัดว่า ขนาดของหน้าอกที่ผ่านการอัพไซส์มาส่งผลใดๆ ด้วยหรือไม่

อย่างไรก็ตาม หากต้องการตรวจเบื้องต้นว่า ตัวเองมีความเสี่ยงในการเกิดภาวะหัวใจวายหรือไม่ นายแพทย์สิทธิคุณ แนะนำว่า  ควรเข้ารับการตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจก่อนศัลยกรรมเสริมหน้าอก ซึ่งจะช่วยให้ได้ผลที่แน่ชัดกว่า หรือหากผ่านการเสริมหน้าอกมา ก็ควรแจ้งแพทย์ให้ทราบก่อนจะเข้ารับการทำ ECG  ด้วยเช่นกัน

ที่มา : www.mirror.co.uk