“ทัศนคติที่ดี” ในการทำงาน

ภาพจาก pixabay.com

ไม่ว่าองค์กรใด ต่างก็อยากได้คนมีความสามารถมาร่วมงานด้วยกันทั้งนั้น แม้ว่า “ทักษะ” และ “ประสบการณ์” เป็นสิ่งที่ทุกบริษัทให้ความสำคัญ แต่ถ้าทัศนคติในการทำงานแย่จนเกินรับไหว ต่อให้เก่งแค่ไหน ก็คงไม่มีใครอยากร่วมงานด้วย

นอกจากจะเป็นอุปสรรคสำคัญต่อการพัฒนาตนเองแล้ว ทัศนคติแย่ ๆ ยังส่งผลต่อคุณภาพในการทำงาน รวมถึงบรรยากาศในที่ทำงานตามมาด้วย เพราะตัวตนหรือพฤติกรรมที่แสดงออกมาล้วนสะท้อนมาจากมุมมองหรือทัศนคติที่มีอยู่นั่นเอง 

แม้ว่าสภาพสังคม สภาพแวดล้อม หรือพื้นเพครอบครัวที่แตกต่างกัน อาจมีผลต่อความคิดหรือมุมมองของแต่ละคน แต่เราสามารถเลือกได้ว่าจะเป็นคนแบบใด แทนที่จะปล่อยให้ทัศนคติลบ ๆ หยั่งรากลึกจนเกินเยียวยา กลายเป็นคนจำพวก Toxic Person โดยไม่รู้ตัว

ถ้าเราปรับเปลี่ยนความคิดเสียใหม่ให้พยายามคิดบวก ก็จะช่วยให้มีความสุขกับการทำงานมากขึ้น หากไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นอย่างไรดีเพื่อให้ตนเองมีทัศนคติที่ดีขึ้นในการทำงาน Inc.com แนะนำว่าให้เริ่มจาก “หัดขอบคุณ” ให้เป็นเสียก่อน โดยให้เขียนสิ่งที่รู้สึกอยากขอบคุณขณะที่อยู่ในที่ทำงาน สักวันละ 2-3 เรื่อง และทำให้ได้ทุกวันจนกลายเป็นนิสัย ซึ่งงานวิจัยของ Harvard Medical School พบว่าความสุขกับความรู้สึกขอบคุณต่างมีความเชื่อมโยงถึงกัน และสามารถเปลี่ยนมุมมองจากลบให้กลายเป็นบวกได้ 

“เลิกบ่น” ก็เป็นอีกวิธีที่ช่วยฝึกให้เราเป็นคนคิดบวกได้ง่ายขึ้น เพราะการบ่นไปเรื่อยเปื่อยนั้น นอกจากไม่ได้ช่วยแก้ปัญหาใด ๆ แล้ว ยังไปขัดขวางประสิทธิภาพในการทำงานของเราด้วย จึงควรหยุดป้อนความคิดลบ ๆ ใส่สมอง แต่ให้หาทางแก้ปัญหาที่กำลังเผชิญอยู่จะดีกว่า

และเมื่อใดก็ตามที่เจออุปสรรคที่หนักหนาเสียจนอยากจะระเบิดอารมณ์หรือกรีดร้องออกมา ให้ลองเปลี่ยนมาฝึก “ยิ้มบ่อย ๆ” แทน เพราะถึงจะไม่ได้ยิ้มออกมาจากความรู้สึกจริง ๆ แต่ผลวิจัยจาก University of Kansas พบว่าการยิ้มสามารถช่วยลดระดับความเครียดลงได้จริง ช่วยให้อัตราการเต้นของหัวใจช้าลงเมื่ออยู่ในสถานการณ์ที่ตึงเครียด และยังไปหลอกสมองให้เชื่อว่าเรากำลังมีความสุขอยู่จริง ๆ ด้วย แม้ว่าความจริงจะไม่ได้เป็นเช่นนั้นก็ตาม

ขณะที่ “การช่วยเหลือเพื่อนร่วมงาน” ก็ช่วยให้สุขใจได้เช่นกัน ซึ่งที่ผ่านมามีผลการศึกษาหลายชิ้นที่เผยแพร่ใน Psychology Today ระบุว่าการทำอะไรให้ผู้อื่นโดยไม่คาดหวังว่าจะได้รับสิ่งใดตอบแทนกลับมา ช่วยทำให้เราเกิดความรู้สึกอิ่มเอมใจ และมีความสุขมากขึ้น  

ที่สำคัญ หากอยากมีความสุขในชีวิตการทำงานจริง ๆ  ก็ต้องพยายามเอาชนะตัวเองด้วยการ “ขจัดทัศนคติลบ ๆ” ออกไปให้ได้ ซึ่งถือเป็นความท้าทายอยู่พอสมควร เพราะการปรับความคิดให้มองโลกในแง่บวกนั้น จำเป็นต้องอาศัยเวลาและการฝึกฝน แต่หากทำได้ก็จะทำให้เราเปลี่ยนเป็นคนใหม่ที่มี “ความเป็นมืออาชีพ” จนใคร ๆ ก็อยากจะร่วมงานด้วย