ผู้เยียวยาที่ดีที่สุด

ขึ้นชื่อว่าเป็นมนุษย์ มีรักก็ต้องมีเลิก ดังประโยคคลาสสิคที่ว่า “ยามแรกรักน้ำต้มผักยังว่าหวาน พอเริ่มนานน้ำตาลทรายยังว่าขม อันตัวเรายิ่งรักยิ่งตรอมตรม หวานเป็นลมขมเป็นยาท่องจำไป”

ความสัมพันธ์ไม่ใช่สิ่งยั่งยืน เมื่อมีเริ่มก็มีโอกาสที่จะพบจุดจบ อย่าคิดว่าตัวเองแปลกหากพบกับความอกหัก เพราะทุกวันนี้กว่าคน ๆ หนึ่งจะหาคนที่พอดีสำหรับตัวเองได้และครองคู่กันไปรอดฝั่ง ก็เสียน้ำตาและผ่านการแลกใจกับหลายคนมาแล้วทั้งนั้น

เพราะฉะนั้น อกหัก มันก็เรื่องธรรมดา

ดังเช่นหนังถึงแม้ว่ามันจะสนุกแค่ไหนก็ต้องมีตอนจบทั้งนั้น ดังนั้นเมื่อความสัมพันธ์จบลงไม่ผิดที่จะเศร้า ไม่ผิดที่จะหมดอาลัยตายอยากเพราะความผูกพันที่หลงเหลือ แต่อย่างน้อยข้อดีของความอกหักนี้ คือการได้มีเวลาทบทวนตัวเอง และสามารถสรุปบทเรียนจากประสบการณ์ที่เพิ่งผ่านพ้น หาข้อบกพร่องและปรับใช้ใหม่เพื่อให้เกิดข้อผิดพลาดน้อยที่สุดในครั้งต่อไป

แน่นอนว่าเมื่ออยู่ใช่ห้วงแห่งความเศร้าโศก เรามักจะโทษทุกอย่าง มองทั้งโลกรวมถึงตัวเองในแง่ลบ แต่หากยังจับเจ่าอยู่อย่างนั้น ก็ไม่ต่างอะไรกับผักต้ม

เลิกทำตัวเป็นตัวเอกใน MV เพลงเศร้า เพลงเศร้าไม่ได้แต่งมาให้เรา เพียงแต่ช่วงชีวิตนี้ของเรามันตรงกับเนื้อเพลง หากยังทำใจไม่ได้ก็เลิกส่อง เลิกติดตาม ไม่ต้องไปสนใจ คิดเอาไว้แค่ว่าเมื่อผ่านช่วงนี้ไปมันจะต้องดีขึ้นก่ายกอง

อย่ารอเพียงเวลาให้มาเยียวยาบาดแผลในจิตใจ
เพราะขนาด ลุลา ยังเคยถามเลยว่า “เวลาจะช่วยอะไร ถ้าใจฉันยังละเมอ”

เห็นไหม เวลามันช่วยได้อยู่แล้วแหละ แต่ตัวและหัวใจของคุณเองควรช่วยตัวเองก่อน
บาดแผลทางใจ ไม่มีใครเยียวยามันได้ดีเท่าตัวคุณเอง