วันนี้ Tonkit360 ได้มีโอกาสไปพูดคุยกับ คู่รักบล็อกเกอร์ท่องเที่ยว ออม (27 ปี) & นัท (26 ปี) เจ้าของเพจ ไปกันนะ : Pai Gun Na ที่เปิดเพจเกี่ยวกับการท่องเที่ยวได้เพียง 2 ปี ก็มียอดผู้ติดตามเฉียด 6 แสนคนแล้ว ไปทำความรู้จักเขาทั้งสองคนกันว่า จุดเริ่มต้นในการสร้างเพจและแรงบันดาลใจ ในการมาทำอาชีพบล็อกเกอร์หรือ Travel Influencer มาจากอะไร พร้อมไขข้อสงสัยว่าเวลาที่ออมนัทถ่ายรูปคู่สวยๆ ลงในเพจนั้น พวกเขาทำอย่างไรหรือมีอุปกรณ์อะไรเข้ามาช่วยบ้าง ไปหาคำตอบพร้อมกันนะ …
จุดเริ่มต้นของการสร้างเพจ ไปกันนะ : Pai Gun Na
คุณออม : เริ่มต้นมาจากที่ออมเป็นช่างภาพอิสระมาก่อนค่ะ แล้วรับถ่ายภาพในต่างจังหวัดด้วย ก็เลยมีนัทที่คอยไปช่วยงาน พอหลังจากนั้นออมกับนัทก็ค่อยออกทริปจังหวัดใกล้ๆ ด้วยกัน จนมีรูปเยอะมากแล้วไม่รู้ว่าจะไปเก็บไว้ที่ไหนดี ก็เลยอยากจะมีพื้นที่ในการเก็บรูปเก็บเรื่องราวของเราสองคน ออมกับนัทก็เลยสร้างเป็นเพจไปกันนะขึ้นมาค่ะ
แรงบันดาลใจอื่นที่ทำให้สร้างเพจ ไปกันนะ : Pai Gun Na
คุณออม : จะมีอยู่คำพูดหนึ่งค่ะที่ออมกับนัทเคยพูดเวลาไปเที่ยวด้วยกัน ก็คือนอกจากเราได้เที่ยวฟรีแล้วมันจะเป็นยังไงอีกบ้าง
คุณนัท : คืออยากรู้ว่าเที่ยวฟรีมันคืออะไร
คุณออม : ใช่ค่ะซึ่งเราสองคนก็เลยตั้งเป้าไว้ว่า เราจะทำเพจยังไงให้มีรายได้ หรือถ้าเรามาทำเพจตรงนี้แล้ว เราจะสามารถสร้างให้มันเป็นอาชีพได้ไหม ก็เลยเริ่มจากการลองทำด้วยกันมาเรื่อยๆ ก่อนค่ะ
ทำไมต้องเป็นเพจเกี่ยวกับการท่องเที่ยว
คุณนัท : เพราะว่าด้วยเราสองคนชอบเที่ยวกันอยู่แล้วครับ เวลาที่ออมเขามีงานต้องไปถ่ายภาพที่ต่างจังหวัด เราสองคนก็จะวางแผนแล้วว่าหลังเสร็จงาน 1-2 วัน จะไปเที่ยวที่ไหนกันต่อ
คุณออม : ใช่แล้วค่ะก็คือตามประสาคนรักแล้วมีเวลาว่าง เราก็เลยจะหาที่ไปเที่ยวกันเพื่อพักผ่อน แล้วก็ทำงานควบคู่ไปด้วย อีกอย่างคือเราอยากเก็บความทรงจำด้วยกัน เวลาได้ไปเที่ยวในที่สวยๆ ค่ะ
อาชีพนักท่องเที่ยวมันดียังไง
คุณนัท : สำหรับนัทถ้าสมมติเป็นคู่รักกันแล้วได้ไปเที่ยว มันก็จะเหมือนได้ไปเจออะไรใหม่ๆ ได้สนุกด้วยกันทำให้ไม่รู้สึกเบื่อกัน ได้ไปเจอปัญหาแล้วช่วยกันแก้ ได้มีความสุขกับที่เที่ยวแห่งนั้นด้วยกันครับ
คุณออม : และนอกเหนือจากประเด็นของความรักกับการท่องเที่ยวแล้ว การเป็นนักท่องเที่ยวมันยังฝึกการใช้ชีวิตอีกด้วยค่ะ ไม่ใช่การไปเที่ยวนั้นคือเรื่องไร้สาระ แต่ว่าการไปเที่ยวของเรายังได้ประสบการณ์ต่างๆ มากมาย ที่ไม่ได้อยู่แค่ในห้องค่ะ
คุณนัท : อีกอย่างคือเราได้เรียนรู้ผู้คน เรียนรู้วัฒนธรรมของแต่ละประเทศ แล้วนำเอามาปรับใช้กับการทำงานและชีวิตประจำวันของเราได้ครับ
ประทับใจประเทศไหนมากที่สุด
คุณออม : ประเทศที่ประทับใจที่สุดก็คือนิวซีแลนด์ค่ะ เพราะว่าในปีนี้เราไปกันมา 2 รอบแล้ว โดยในเราไปเพื่อเปิดโลกใหม่ว่านอกจากความสวยงามของประเทศนี้แล้ว ยังมีการใช้ชีวิตที่เรียบง่ายกับธรรมชาติที่เราอยากจะไปสัมผัส ซึ่งพอได้ไปแล้วเราก็ประทับใจ และมันก็สวยมากจริงๆ ค่ะ
คุณนัท : สำหรับนัทเองก็ประทับใจประเทศนิวซีแลนด์เหมือนกันครับ โดยเฉพาะในส่วนของ Roadtrip เพราะว่ามันสวยเหมือนภาพวาดเลย แล้วเป็นทริปรถบ้านที่ได้ขับกันไปแค่สองคน คือจะนอนตรงไหนก็จอด แล้วเราวางแผนกันวันต่อวันว่าจะไปที่ไหนดี ซึ่งมันสนุกมากๆ ครับ
ทริคในการถ่ายภาพให้ออกมาสวยโดนใจ
คุณออม : ด้วยที่ว่าออมเป็นช่างภาพ แล้วปกติผู้ชายเขาจะไม่ชอบถ่ายรูป ช่วงแรกนัทเขาก็เลยจะไม่ค่อยอินการถ่ายรูปด้วยเท่าไหร่ ออมก็เลยบอกกับนัทไว้ว่า ถ้าเราอยากจะถ่ายรูปคู่สักรูปแล้วเราไม่ได้อินกับมัน และวันหนึ่งที่เราย้อนกลับมาดูรูปนั้นว่าเราไปเที่ยวที่นี่มา แล้วภาพมันไม่สวยหรือไม่ได้สื่ออารมณ์จะเป็นยังไง จากนั้นนัทเขาก็เลยค่อยๆ ฝึกถ่ายรูปไปด้วยกันค่ะ ก็จะแสดงอารมณ์ออกมาว่าเรารู้สึกต่อสถานที่นั้นอย่างไร เช่น ยิ้ม หัวเราะ กระโดด หรือมองหน้ากัน แล้วเราก็จะดูว่าต้องแต่งตัวแบบไหนให้เข้ากับสถานที่ แสงเป็นยังไงบ้างเป็นต้นค่ะ (ออมนัทถ่ายภาพคู่เองโดยใช้ขาตั้งกล้อง**ไม่มีทีมงาน**)
ค่าตอบแทนให้การสร้างผลงานลงเพจ ไปกันนะ : Pai Gun Na ให้กับลูกค้า
คุณนัท : ก็แล้วแต่แบรนด์ครับว่าเราจะตกลงกับเขายังไง เพราะว่ารายละเอียดแต่ละงานมันก็ไม่เหมือนกัน คือเราต้องถ่ายยากหรือถ่ายน้อยไหม ส่วนราคาก็มีตั้งแต่หลักหมื่นจนถึงหลักแสนบาทครับ
คุณออม : คือมันก็เป็นการทำงานโฆษณาอย่างหนึ่งค่ะ ด้วยเราสองคนก็ต้องมีการเตรียมตัว เสื้อผ้าหน้าผม สถานที่ต่างๆ รวมถึงเรื่องราวให้เข้ากับแบรนด์ที่เขาส่งมาให้ด้วย ซึ่งค่าตอบแทนก็จะแล้วแต่การพูดคุยว่าพอใจที่เท่าไหร่ค่ะ
ทริปไหนมีสปอนเซอร์คือทุกอย่างฟรีหมด
คุณนัท : จริงครับ (ขำ)
คุณออม : ก็จริงค่ะคือถ้ามีสปอนเซอร์ทุกอย่างฟรีหมด แต่ทั้งนี้มันก็เป็นงานของเราด้วยเหมือนกัน คือแฟร์กันทั้งสองฝ่ายว่าเราพอใจที่จะไปเที่ยวตรงนั้นฟรีก็จริงนะ แต่ลูกค้าเขาโอเคกับงานของเราด้วยเช่นกันค่ะ
ยอดไลค์ ยอดแชร์ ยอดวิว มีผลกับการทำเพจแค่ไหน
คุณนัท : มีผลบ้างครับแต่เอาจริงๆ คือมันอยู่ที่ผลงานมากกว่า ว่าเราสามารถทำให้มันออกมาดีได้ไหม แล้วมีลูกค้ามาจ้างงานเราหรือเปล่า
คุณออม : มันก็เป็นไปตามขั้นตอนค่ะช่วงแรกในการเปิดเพจ ที่เราอยากจะสร้างตัวตนในโซเชียล มันอาจจะยากหน่อย แต่สำหรับออมและนัทคือเราจะไม่มีคำว่าพอดี ซึ่งพอดีในที่นี้คือเราไม่มีคำว่าหยุด แต่มันจะต้องเป็นการที่เราถึงเป้าหมาย แล้วเรายังอัพตัวเองขึ้นไปให้ได้อีก จนทำให้มีคนจำผลงานของเราได้มากกว่าค่ะ
คุณนัท : ใช่ครับซึ่งอันนั้นก็จะทำให้เรามีความสุขว่า มีคนจำเราได้และนึกถึงเราเป็นที่แรกครับ
ภาพและคลิปแต่ละอันใช้เวลานานไหม กว่าจะออกมาสู่สาธารณะได้
คุณออม : เวลาเราทำงานคือจะแบ่งกัน โดยออมถ่ายภาพตกแต่งภาพ ส่วนนัทจะถ่ายวิดีโอตัดต่อคลิปค่ะ
คุณนัท : ครับซึ่งสำหรับการตัดคลิปวีดีโอ ผมก็จะใช้เวลาไม่นานเลยประมาณ 1 ชั่วโมง แม้จะเดินทางอยู่ตลอดก็ตาม แต่ในเดือนหนึ่งที่เรากลับมาอยู่บ้าน 3-5 วัน ก็จะใช้เวลาตรงนั้นในการตัดต่อครับ เอาง่ายๆ ว่าจบทริปปุ๊บผมก็จะตัดคลิปทันที เพื่อไม่ให้อารมณ์จากการไปเที่ยวมันหายไปหรือค้างนานๆ
คุณออม : คือเราสองคนจะเป็นพวกที่ทำงานไว เวลาไปเที่ยวกลับมาก็คือทำงานให้เสร็จเป็นทริปๆ เลย เพราะถ้ายิ่งเราค้างงานไว้นานๆ อารมณ์ในการเขียนเรื่องราวเพื่อถ่ายทอดผ่านเพจ มันก็จะไม่เหมือนเดิมนั่นเองค่ะ
ฝากถึงคนที่อยากจะเป็นบล็อกเกอร์ท่องเที่ยว หรือเปิดเพจแบบ ไปกันนะ : Pai Gun Na
คุณนัท : ถ้าอยากทำก็ทำเลยครับ เพราะอย่างเพจไปกันนะของเรา เราก็คิดกันอยู่บนรถแค่ 5 นาทีเองแล้วก็เปิดเลย
คุณออม : คือในตอนแรกเราก็ไม่รู้หรอกว่า การเป็นบล็อกเกอร์หรือ Travel Influencer มันเป็นยังไง ถ้าเราไม่เริ่มทำมันก็จะไม่ได้ทำสักที ซึ่งออมกับนัมทก็ค่อยๆ เรียนรู้กันมาเหมือนกัน จากมือสมัครเล่นจนทุกวันนี้มันกลายเป็นอาชีพที่ลงทั้งแรงทั้งใจไปแล้วค่ะ
ช่องทางการติดตาม
คุณออม : ตอนนี้ก็มี 4 ช่องทางด้วยกันค่ะ คือหลักๆ ก็คือ Facebook : ไปกันนะ : Pai Gun Na และก็มี Instagram : paigunna , Youtube : paigunna รวมถึงล่าสุดนี้เราจะมีเว็บไซต์แล้วนะคะ ชื่อว่า couplemustgo นะคะ ยังไงก็ฝากติดตามกันด้วยค่ะ ออมและนัทก็จะพัฒนาผลงานให้ดีขึ้นไปเรื่อยๆ ขอบคุณค่ะ