เชื่อว่าแฟนหนังแอ็คชั่น แฟนตาซี แบบแฟนพันธุ์แท้ คงไม่มีใครคาดคิดว่าหนังสุดฮิตในอดีตอย่าง JUMANJI จะมีภาคต่อออกมาให้ดูกันแบบเซอร์ไพรส์ในปีนี้ ขณะเดียวกัน แม้พล็อตเรื่องจะแตกต่างกันแต่สิ่งที่ทำได้ยอดเยี่ยมไม่แพ้กันคือความบันเทิงแบบจัดเต็มชนิดเด็กดูได้ ผู้ใหญ่ดูดี
หนังภาคใหม่จากภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์สุดฮิตเมื่อปี 1995 เล่าเรื่องของการผจญภัยของนักเรียนหนุ่ม-สาวทั้งหมด 4 คน ที่จับพลัดจับผลูมาเจอกันเพราะถูกทำโทษให้ทำความสะอาดห้องเก็บของในโรงเรียน แล้วดันไปเจอกล่องเกมปริศนา จูแมนจี้ ก่อนจะถูกดูดเข้าไปในโลกแห่งเกม ซึ่งภารกิจของพวกเขาคือต้องร่วมมือกันฝ่าฟันอุปสรรค นำอัญมณี “ดวงตาแห่งจากัวร์” กลับไปคืนที่รูปปั้น เพื่อจะได้ออกจากเกม โดยแต่ละคนก็จะมีความสามารถที่แตกต่างกันทั้ง บู๊-บุ๋น และคำเตือนมีเพียงอย่างเดียวคือห้ามตายเกิน 3 ครั้ง ไม่เช่นนั้นชีวิตบนโลกจริงจะดับสูญไปด้วย
เกริ่นว่าเป็นภาคใหม่ หลายคนอาจตั้งคำถามว่าถ้าไม่ดูภาคแรกเมื่อ 22 ปีมาก่อนนี่ จะดูภาคนี้รู้เรื่องไหม ก็ต้องตอบตามตรงว่าไม่จำเป็นเพราะมันไม่ใช่หนังภาคต่อ แต่เป็นการเล่าเนื้อเรื่องใหม่โดยมีสิ่งที่เชื่อมโยงกันนั่นก็คือบอร์ดเกมมหัศจรรย์ จูแมนจี้ ที่จะพาตัวละครและคนดูไปสู่การบุกป่าฝ่าดงไปทำภารกิจ ฉะนั้นแล้วแฟนหนังรุ่นใหม่ ตีตั๋วเข้าไปดูกันได้อย่างสบายใจ …. ผู้เขียนเองก็ลืมเรื่องราวในภาคแรกไปหมดแล้วเช่นกัน ฮาๆ
ทั้งนี้ ด้วยความที่หนัง จูแมนจี้ ภาคใหม่ตกอยู่ภายใต้การดูแลของ เจค แคสดาน ผู้กำกับและนักเขียนบทที่สร้างชื่อจากหนังตลกมากมายทั้ง Orange County, Bad Teacher, Sex Tape (2 เรื่องหลังนี่ทะลึ่งสัปดนสิ้นดี) ก็ทำให้หนังเรื่องนี้อุดมไปด้วยความบันเทิงแบบสุดขีดทั้งฉากแอ็คชั่นผจญภัย และมุกตลกขบขันบริสุทธิ์ เรียกเสียงหัวเราะจากคนดูทุกเม็ดตลอด 1 ชั่วโมงครึ่ง โดยเฉพาะใครที่เป็นนักเล่นวีดีโอเกมประเภท แฟมิคอม จะยิ่งอินเป็นพิเศษเพราะหนังใช้วิธีดำเนินเรื่องแบบวีดีโอเกมมาผสมด้วย เช่นการใส่ทักษะความสามารถของตัวละครในเรื่อง, ภารกิจต่างๆ หรือตัวละครแบบ NPC ที่คนเล่นเกมบ่อยๆจะต้องฮากลิ้งแน่นอน แม้จะเล่าเรื่องเป็นเส้นตรงไปหน่อยและมีหลายฉากที่เขียนให้ตัวละครเอาชนะอุปสรรคได้ง่ายๆ ก็ทำให้บางครั้งคนดูอย่างเราไม่ต้องเอาใจช่วยอะไรมากเพราะเดี๋ยวก็ผ่านด่านกันได้เอง
มาถึงส่วนของนักแสดง ดเวย์น “เดอะ ร็อค” จอห์นสัน กลับมาอีกครั้งกับบทบาทที่คุ้นเคยคือพระเอกแอ็คชั่นกล้ามโต ไล่ฟัดกับเหล่าร้ายพร้อมปล่อยมุกตลกในเวลาเดียวกัน ถึงจะเล่นได้ดีแต่ก็ต้องยอมรับว่าบทและบุคลิกซ้ำกับหนังหลายเรื่องที่ผ่านมา ถือเป็นข้อเสียเหมือนกัน (บางทีพี่ควรเปลี่ยนลุคบ้าง) ขณะที่นักแสดงเสริมทั้ง เควิน ฮาร์ท, แจ๊ค แบล็ค สองดาวตลกก็สร้างสีสันปล่อยมุกกันไม่ยั้งตามสไตล์พวกเขา ส่วน คาเรน กิลเลียน หญิงสาวหนึ่งเดียวของก๊วน โดดเด่นขึ้นกล้องมาก น่าจะได้ฐานแฟน ออกฉากไหนก็ขโมยหัวใจหนุ่มๆทุกครั้งไป
นอกจากความสนุกที่เหล่านักวิจารณ์ต่างประเทศเทคะแนนให้ว่าดีเยี่ยม หนังยังสอดแทรกประเด็นเรื่องการใช้ชีวิตให้แก่วัยรุ่นกลับไปขบคิด โดยในเรื่องนี้ ตัวละครวัยรุ่น 4 คน (ก่อนจะถูกดูดเข้าไปในเกม) ล้วนแต่เป็นคนที่ขาดความมั่นใจในตัวเอง รู้สึกมีปมด้อยและแปลกแยก บางคนก็พยายามทำทุกอย่างเพื่อให้เป็นที่ยอมรับในสังคม กระทั่งเมื่อได้สวมบทบาทเป็นตัวละครในเกม ทุกคนก็ดูจะพอใจกับชีวิตใหม่นี้ จนหลงลืมความเป็นตัวเองไป
ไม่ว่าใครก็อยากจะเป็นที่ยอมรับของผู้อื่น ดังนั้นจึงไม่แปลกใจที่เราจะเห็นวัยรุ่นสมัยใหม่พยายามทำทุกอย่างเพื่อเปลี่ยนสถานะตนเองจาก NOBODY เป็น SOMEONE เลียนแบบไอดอลที่ตนเองนับถือ ทั้งที่ความจริง การเป็นตัวของตัวเอง รู้ว่าตนเองนั้นมีจุดเด่นตรงไหนแล้วนำออกมาใช้ได้ คือสิ่งที่ดีที่สุด
เพราะโลกเรามักจดจำคนที่มีเอกลักษณ์เป็นของตัวเอง มากกว่าคนที่เลียนแบบคนอื่น
