ตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมามีกระแสข่าวออกมาอย่างต่อเนื่องว่ามีสโมสรฟุตบอลจากแดนปลาดิบกำลังตามจีบ “มุ้ย” ธีรศิลป์ แดงดา ไปค้าแข้งในศึกเจลีกของญี่ปุ่น จนเข้าสู่วันพุธ ข่าวนี้ก็ยิ่งชัดเจนขึ้นเรื่อยๆครับ
เมื่อสื่อสายฟุตบอลไทยทุกสำนักรายงานตรงกันว่า สโมสรที่ตามจีบอยู่นั้นได้แก่ ซานเฟรซเซ่ ฮิโรชิม่า อดีตแชมป์เจลีก 3 สมัย นั่นเอง ที่สำคัญมีการส่งผู้บริหารเดินทางมาเจรจากับผู้บริหารฝั่งเอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด เรียบร้อยแล้วซะด้วย
งานนี้ไม่ว่าดีลที่เกิดขึ้นจะเป็นความร่วมมือกันของสองสโมสร หรือว่าจะเป็นทางฝั่งของซานเฟรซเซ่ ฮิโรชิม่า จับจ้องดูฟอร์ม “มุ้ย” อยู่แล้ว ที่แน่ๆมันคือโอกาสทองอีกครั้งของกองหน้าอันดับหนึ่งของไทยที่จะได้ออกไปผจญภัยในลีกต่างแดนอีกครั้ง ต่อจากที่อังกฤษ สวิตเซอร์แลนด์ และสเปน
ในลีกไทย ไม่มีอะไรที่ “มุ้ย” ต้องพิสูจน์ความสามารถอีกแล้ว ทุกคนได้เห็นแล้วว่าเขานี่แหละดาวยิงเบอร์หนึ่ง (แม้ว่าจะใส่เบอร์ 10 ก็ตาม ฮา) ฉะนั้นหากจะได้ออกไปพิสูจน์ตัวเองในลีกต่างแดนอีกครั้งในวัย 29 ปี ผมเชื่อว่าแฟนบอลไทยทุกคนรวมถึงแฟนเมืองทองฯเองก็คงพร้อมสนับสนุนแน่นอน
ในฤดูกาลที่ผ่านมา เราได้เห็นเมสซี่ เจ เลี้ยงหลบผู้เล่นในลีก มาแล้วจากการถ่ายทอดสดมายังเมืองไทย ซึ่งผมก็เชื่อว่าฝีเท้าระดับ “เทพมุ้ย” ก็สามารถถล่มประตูใส่กองหลังระดับเอเชียได้เช่นกัน แม้จะเคยล้มเหลวกับการไปอยู่กับอัลเมเรียในลา ลีกา ก็ตาม
ลองนึกความรู้สึกหากเราเป็นคนญี่ปุ่น แล้วได้ดู ชินกิ โอกาซากิ ทำประตูให้เสสเตอร์ หรือหากเป็นคนเกาหลีใต้แล้วได้เห็นซอน เฮือง-มิน วิ่งกระชากหนีผู้เล่นระดับพรีเมียร์ลีก ผมคิดว่าในชั่วโมงนี้ การที่คนไทยจะได้เห็น เจ และมุ้ย (รวมถึงอาจจะมี ไอซ์ จักรกฤษณ์ เวชภิรมย์ อีกราย) ดวลกับผู้เล่นระดับแนวหน้าของเอเชีย คงเป็นอะไรที่สุดๆแล้วเช่นเดียวกันครับ
อย่างไรก็ดีก็ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของดาวยิงพ่อลูกอ่อนด้วยเช่นกันครับว่าจะช่วยเติมเต็มความสุขให้คนไทยได้หรือไม่ แต่ที่แน่ๆ ผมคิดว่าข่าวนี้น่าจะทำให้นักเตะไทยอีกหลายๆคนหันกลับมาเปลี่ยนทัศนคติเสียใหม่ ว่าจริงๆแล้ว “ไทยลีก” มันยังไม่ใช่ที่สุดในชีวิตนักฟุตบอลแต่อย่างใด
นักกีฬาไทยของเราหลายๆคนที่ประสบความสำเร็จสู่ระดับโลก ล้วนออกไปตระเวณแข่งขันในต่างประเทศเพื่อเจอคู่แข่งที่แกร่งกว่าในเมืองไทยทั้งสิ้นครับ ฉะนั้นในฐานะแฟนบอลไทยคนหนึ่ง จึงอยากจะบอกว่า “รีบไปให้ไวเลยครับ มุ้ย ทุกคนอยากเห็นคุณยิงประตูในเจลีกแล้วครับ”